นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้แสดงความเป็นห่วงการพิจารณากม.ลูก ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)โดยเฉพาะ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ที่ผ่านการลงมติในวาระ 3 และมีการแก้ไขเยอะ ซึ่งอาจจะขัดรธน. ในหลายประเด็น ว่า ยังยืนยันว่า แม้ว่าจะแก้ไขเยอะอย่างไร หรือต้องตั้ง กมธ.ร่วม 3 ฝ่ายขึ้นมาพิจารณา ก็จะไม่มีผลอะไร เพราะไม่ว่าจะแก้อย่างไร ก็ต้องอยู่ในภายใน 15 วัน แม้จะคิดว่า ยังพิจารณาไม่เสร็จ ก็ต้องถือว่าเสร็จ เพราะมีเวลากำหนดไว้ให้แค่นั้น
"ไม่เป็นไร ผมคิดว่าหลายประเด็น ทางสนช. ก็มีฝ่ายที่เห็นด้วยกับ กรธ. หมือนกัน ฉะนั้นก็คุยกัน และแก้กันไปได้ ซึ่งปัญหาอย่างนี้ คนที่ทำกฎหมาย จะรู้ดี เนื่องจากเจอกันมาตลอดทุกฉบับ ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร และความจริงการตั้งกมธ.ร่วม ขึ้นมาพิจารณา ก็ไม่ได้เสียเวลา ถือว่ายังอยู่ในขั้นตอนอยู่"
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวถึงการที่ กกต.ทำความเห็นแย้ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ว่า ขัดสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ 5 ประเด็น คือ เรื่องเบอร์ผู้สมัคร เรื่องมหรสพ เรื่องค่าใช้จ่ายในการหาเสียงพรรค และเรื่องขอบเขตอำนาจศาลในเรื่อง ใบเหลือง และ ใบดำ โดยกำหนดส่งความเห็นแย้งในวันศุกร์นี้ และจะมีการตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย จำนวน 11 คน พิจารณาให้เสร็จใน 15 วัน ก่อนส่งให้ สนช. ลงมติในขั้นสุดท้าย ซึ่งดูจากสัดส่วนกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย สนช. 5 คน กรธ. 5 คน และ กกต.1 คน ก็ทายผลไม่ยากว่า ผลการลงมติจะเป็นอย่างไร
นายสมชัย ประเมินเสียงโหวตของ กมธ. 3 ฝ่าย ในเรื่องเบอร์ผู้สมัครว่าคงจะ ยืนยันแบบเดิมคือ เบอร์พรรคต่างกันในแต่ละเขต เสียง 10 ต่อ 1 เรื่องจัดมหรสพหาเสียง เห็นควรยกเลิกมหรสพในการหาเสียง 6 ต่อ 5 เสียง ค่าใช้จ่ายหาเสียงพรรค ยืนยันแบบเดิม คือ พรรคใหญ่เล็กค่าใช้จ่ายเท่ากัน 10 ต่อ 1 เสียง และใบเหลืองศาล ยืนยันตามเดิม 10 ต่อ 1ใบดำศาล ยืนยันตามเดิม 10 ต่อ 1เสียง
จากนั้นไปโหวตในสภา คงไม่มีอะไรพลิก เพราะ มาตรา2 เขียนทอดเวลาไปอีกแล้วตั้ง 90วัน หากยังพลั้งเผลอ หรือเพิ่งนึกอะไรออก ก็ยังมีกลไก ม. 44 หรือการแก้ไขคำสั่งคสช.ต่างๆ มารองรับได้อีก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่จะมีการตั้ง กมธ.ร่วม 3 ฝ่าย เพื่อพิจารณา ร่างกม.ทั้งสองฉบบับ ว่า เป็นเรื่องที่ทำได้ ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในรธน. อย่างไรก็ตาม ยังมีความไม่แน่นอนว่า จะมีความพยายามใช้เทคนิคใด เพื่อยืดเวลาเลือกตั้งหรือไม่ เพราะหัวหน้าคสช. สามารถใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ได้ตลอดเวลา โดยดูได้จากการออกคำสั่งคสช. แก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง แต่ทุกอย่างจะมีความแน่นอนได้ก็ต่อเมื่อหัวหน้าคสช. พูดให้ชัดเจนว่า มีความประสงค์อย่างไร และยืนยันว่าจะทำให้ได้ตามอำนาจพิเศษที่มีอยู่ หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากนั้น ก็ต้องมีเหตุผลอธิบายต่อสังคม จะโยนให้เป็นเรื่องของ สนช.ไม่ได้ เนื่องจากหากสนช. ทำออกมาแล้ว หัวหน้าคสช.ไม่เห็นด้วย ก็มีอำนาจที่จะแก้ไขได้อยู่แล้ว
"ไม่เป็นไร ผมคิดว่าหลายประเด็น ทางสนช. ก็มีฝ่ายที่เห็นด้วยกับ กรธ. หมือนกัน ฉะนั้นก็คุยกัน และแก้กันไปได้ ซึ่งปัญหาอย่างนี้ คนที่ทำกฎหมาย จะรู้ดี เนื่องจากเจอกันมาตลอดทุกฉบับ ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร และความจริงการตั้งกมธ.ร่วม ขึ้นมาพิจารณา ก็ไม่ได้เสียเวลา ถือว่ายังอยู่ในขั้นตอนอยู่"
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวถึงการที่ กกต.ทำความเห็นแย้ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ว่า ขัดสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ 5 ประเด็น คือ เรื่องเบอร์ผู้สมัคร เรื่องมหรสพ เรื่องค่าใช้จ่ายในการหาเสียงพรรค และเรื่องขอบเขตอำนาจศาลในเรื่อง ใบเหลือง และ ใบดำ โดยกำหนดส่งความเห็นแย้งในวันศุกร์นี้ และจะมีการตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย จำนวน 11 คน พิจารณาให้เสร็จใน 15 วัน ก่อนส่งให้ สนช. ลงมติในขั้นสุดท้าย ซึ่งดูจากสัดส่วนกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย สนช. 5 คน กรธ. 5 คน และ กกต.1 คน ก็ทายผลไม่ยากว่า ผลการลงมติจะเป็นอย่างไร
นายสมชัย ประเมินเสียงโหวตของ กมธ. 3 ฝ่าย ในเรื่องเบอร์ผู้สมัครว่าคงจะ ยืนยันแบบเดิมคือ เบอร์พรรคต่างกันในแต่ละเขต เสียง 10 ต่อ 1 เรื่องจัดมหรสพหาเสียง เห็นควรยกเลิกมหรสพในการหาเสียง 6 ต่อ 5 เสียง ค่าใช้จ่ายหาเสียงพรรค ยืนยันแบบเดิม คือ พรรคใหญ่เล็กค่าใช้จ่ายเท่ากัน 10 ต่อ 1 เสียง และใบเหลืองศาล ยืนยันตามเดิม 10 ต่อ 1ใบดำศาล ยืนยันตามเดิม 10 ต่อ 1เสียง
จากนั้นไปโหวตในสภา คงไม่มีอะไรพลิก เพราะ มาตรา2 เขียนทอดเวลาไปอีกแล้วตั้ง 90วัน หากยังพลั้งเผลอ หรือเพิ่งนึกอะไรออก ก็ยังมีกลไก ม. 44 หรือการแก้ไขคำสั่งคสช.ต่างๆ มารองรับได้อีก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่จะมีการตั้ง กมธ.ร่วม 3 ฝ่าย เพื่อพิจารณา ร่างกม.ทั้งสองฉบบับ ว่า เป็นเรื่องที่ทำได้ ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในรธน. อย่างไรก็ตาม ยังมีความไม่แน่นอนว่า จะมีความพยายามใช้เทคนิคใด เพื่อยืดเวลาเลือกตั้งหรือไม่ เพราะหัวหน้าคสช. สามารถใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ได้ตลอดเวลา โดยดูได้จากการออกคำสั่งคสช. แก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง แต่ทุกอย่างจะมีความแน่นอนได้ก็ต่อเมื่อหัวหน้าคสช. พูดให้ชัดเจนว่า มีความประสงค์อย่างไร และยืนยันว่าจะทำให้ได้ตามอำนาจพิเศษที่มีอยู่ หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากนั้น ก็ต้องมีเหตุผลอธิบายต่อสังคม จะโยนให้เป็นเรื่องของ สนช.ไม่ได้ เนื่องจากหากสนช. ทำออกมาแล้ว หัวหน้าคสช.ไม่เห็นด้วย ก็มีอำนาจที่จะแก้ไขได้อยู่แล้ว