ผู้จัดการรายวัน360 - คณะกรรมการสอบสวน ลงพื้นที่สอบสวนวินัยร้ายแรง "ผอ.โรงเรียนฉาว" คาดทราบผลใน 60 วัน ระบุหากพบผิดจริงถึงขั้นเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพครู ด้าน "ผอ.ฉาว" เตรียมเข้าพบตำรวจ สภ.บัวใหญ่รอบสอง 7 ก.พ.นี้ หลังถูกแจ้ง 2 ข้อหาหนัก "พรากผู้เยาว์-กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี" ด้านเด็กนักเรียนชาย ม.3 ตำรวจนัดเข้ารับทราบข้อหา 8 ก.พ.
นายสุวิทย์ ศรีฉาย รักษาราชการแทนศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา กล่าว ถึงความคืบหน้าการดำเนินการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงกรณี นายณฐาภพ บุญทองโท ผอ.โรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา มีพฤติกรรมชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิง ม.2 อายุ 14 ปี และถูกดำเนินการเอาผิด ทั้งทางวินัยร้ายแรง และคดีอาญา ล่าสุดผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหญิงดังกล่าว ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวใหญ่ ให้ดำเนินคดีกับ นายณฐาภพ และเด็กนักเรียนชายชั้น ม.3 แฟนเก่าของลูกสาว ในข้อหาพรากผู้เยาว์ฯ และกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี โดยตำรวจนัด นายณฐาภพ ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 7 ก.พ.นี้ ส่วนเด็กนักเรียนชาย ม.3 ตำรวจนัดหมายให้เข้ารับทราบข้อหาในวันที่ 8 ก.พ.
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้สอบถามความคืบหน้า และได้กำชับให้ทางคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้ให้ชัดเจน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยขอให้เร่งรัดดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และเสื่อมเสียต่อวงการศึกษา ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงทั้ง 3 คนที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมาแต่งตั้งขึ้น ได้ประชุมหารือกรอบการทำงานสอบสวนกรณีดังกล่าวแล้ว โดยที่ประชุมคาดว่าจะสอบสวนให้แล้วเสร็จ และทราบผลภายในระยะเวลา 60 วัน
โดยขณะนี้ คณะกรรมการฯ ทั้งหมดได้เร่งลงพื้นที่สอบสวนในเรื่องดังกล่าวแล้ว ขณะเดียวกันสำนักงานเลขาธิการครุสภาก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ประสานมายังศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อขอข้อมูลรายละเอียดการสอบสวนกรณีดังกล่าว ซึ่งหากผลการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงพบว่า นายณฐาภพมีความผิดจริง สำนักงานเลขาธิการครุสภาก็จะดำเนินการพิจารณาเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพครูของนายณฐาภพด้วยเช่นกัน" นายสุวิทย์ กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของคดีอาญา พนักงานสอบสวน สภ.บัวใหญ่ ได้นัด นายณฐาภพ บุญทองโท เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ที่แม่ของเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 เข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาข้อหาพรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร และข้อกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ในนี้ (7 ก.พ.) ขณะที่เด็กนักเรียนชายชั้น ม.3 อดีตแฟนของเด็กนักเรียนหญิง พนักงานสอบสวนก็นัดหมายให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเดียวกันในวันที่ 8 ก.พ. โดยก่อนหน้านี้ นายณฐาภพ ยืนยันไม่หลบหนีไปไหน พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาและขอต่อสู้คดีในชั้นศาล
ด้านของนางสมศรี(นามสมมติ) มารดาของนักเรียนชาย ม.3 ได้พาลูกชายนักเรียนชาย ม.3 เข้าพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างเด็กหญิง ม.2 สมยอม และขอสู้คดีในชั้นศาล ตำรวจตึงนัดเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาและสอบปากคำอย่างเป็นทางการ ต่อหน้าอัยการและสหวิชาชีพในวันที่ 8 ก.พ.นี้
นางสมศรี เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ชี้แจงคำให้การของฝ่ายเด็กหญิง ม.2 อ้างว่า คู่กรณีถูกลูกชายข่มขืนกระทำชำเรา ตั้งแต่อยู่ ม.1 หรืออายุ 13 ปี และเด็กหญิงได้พักอาศัยที่บ้านของฝ่ายชาย และถูกกระทำชำเราเดือนละ 20 ครั้ง ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริง ลูกชายจึงให้การปฏิเสธ ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ทางเพศกับเด็กหญิงจริง แต่ฝ่ายหญิงสมยอมและเต็มใจ ทั้งนี้ ขอให้ว่ากันตามพยานหลักฐานและต่อสู้คดีในชั้นศาล
นายสุวิทย์ ศรีฉาย รักษาราชการแทนศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา กล่าว ถึงความคืบหน้าการดำเนินการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงกรณี นายณฐาภพ บุญทองโท ผอ.โรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา มีพฤติกรรมชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิง ม.2 อายุ 14 ปี และถูกดำเนินการเอาผิด ทั้งทางวินัยร้ายแรง และคดีอาญา ล่าสุดผู้ปกครองของเด็กนักเรียนหญิงดังกล่าว ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวใหญ่ ให้ดำเนินคดีกับ นายณฐาภพ และเด็กนักเรียนชายชั้น ม.3 แฟนเก่าของลูกสาว ในข้อหาพรากผู้เยาว์ฯ และกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี โดยตำรวจนัด นายณฐาภพ ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 7 ก.พ.นี้ ส่วนเด็กนักเรียนชาย ม.3 ตำรวจนัดหมายให้เข้ารับทราบข้อหาในวันที่ 8 ก.พ.
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้สอบถามความคืบหน้า และได้กำชับให้ทางคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้ให้ชัดเจน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยขอให้เร่งรัดดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และเสื่อมเสียต่อวงการศึกษา ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงทั้ง 3 คนที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมาแต่งตั้งขึ้น ได้ประชุมหารือกรอบการทำงานสอบสวนกรณีดังกล่าวแล้ว โดยที่ประชุมคาดว่าจะสอบสวนให้แล้วเสร็จ และทราบผลภายในระยะเวลา 60 วัน
โดยขณะนี้ คณะกรรมการฯ ทั้งหมดได้เร่งลงพื้นที่สอบสวนในเรื่องดังกล่าวแล้ว ขณะเดียวกันสำนักงานเลขาธิการครุสภาก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ประสานมายังศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อขอข้อมูลรายละเอียดการสอบสวนกรณีดังกล่าว ซึ่งหากผลการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงพบว่า นายณฐาภพมีความผิดจริง สำนักงานเลขาธิการครุสภาก็จะดำเนินการพิจารณาเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพครูของนายณฐาภพด้วยเช่นกัน" นายสุวิทย์ กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของคดีอาญา พนักงานสอบสวน สภ.บัวใหญ่ ได้นัด นายณฐาภพ บุญทองโท เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ที่แม่ของเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 เข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาข้อหาพรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร และข้อกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ในนี้ (7 ก.พ.) ขณะที่เด็กนักเรียนชายชั้น ม.3 อดีตแฟนของเด็กนักเรียนหญิง พนักงานสอบสวนก็นัดหมายให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเดียวกันในวันที่ 8 ก.พ. โดยก่อนหน้านี้ นายณฐาภพ ยืนยันไม่หลบหนีไปไหน พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาและขอต่อสู้คดีในชั้นศาล
ด้านของนางสมศรี(นามสมมติ) มารดาของนักเรียนชาย ม.3 ได้พาลูกชายนักเรียนชาย ม.3 เข้าพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างเด็กหญิง ม.2 สมยอม และขอสู้คดีในชั้นศาล ตำรวจตึงนัดเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาและสอบปากคำอย่างเป็นทางการ ต่อหน้าอัยการและสหวิชาชีพในวันที่ 8 ก.พ.นี้
นางสมศรี เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ชี้แจงคำให้การของฝ่ายเด็กหญิง ม.2 อ้างว่า คู่กรณีถูกลูกชายข่มขืนกระทำชำเรา ตั้งแต่อยู่ ม.1 หรืออายุ 13 ปี และเด็กหญิงได้พักอาศัยที่บ้านของฝ่ายชาย และถูกกระทำชำเราเดือนละ 20 ครั้ง ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริง ลูกชายจึงให้การปฏิเสธ ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ทางเพศกับเด็กหญิงจริง แต่ฝ่ายหญิงสมยอมและเต็มใจ ทั้งนี้ ขอให้ว่ากันตามพยานหลักฐานและต่อสู้คดีในชั้นศาล