xs
xsm
sm
md
lg

ฝ่ายต้านเมินร่วมเวที"โรงไฟฟ้ากระบี่"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ค1 "โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่" ปรากฏว่ามีแต่ฝ่ายหนุนเข้าร่วมกว่า 2,500 คน ระบุชาวบ้านต้องการความมั่นคงทางพลังงาน แม้โรงไฟฟ้าจะมีผลกระทบ แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยทำให้คนตาย ขณะที่ฝ่ายต้านไม่เข้าร่วม ชี้ EHIA ของกฟผ. ถูกยกเลิกมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยคำสั่งของนายกฯ แต่ กฟผ. ก็นำโครงการเดิมกลับมาใหม่อีกครั้ง จึงไม่ให้ความสำคัญกับการจัดเวทีดังกล่าว

วานนี้ ( 28 ม.ค.) ที่ทำการ อบต.คลองขนาน ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ นายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธาน เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ของประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียในการกำหนดขอบเขต และแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (Public Scoping หรือ ค.1 ) โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนกระบี่ (ส่วนขยาย ครั้งที่ 1) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน

ทั้งนี้ มีประชาชนในพื้นที่ 4 ตำบล ใน อ.เหนือคลอง ประกอบด้วย ต.คลองขนาน ต.เหนือคลอง ต.ตลิ่งชัน ต.ปกาสัย รวมไปถึง ต.คลองท่อมใต้ และ ต.โคกยาง อ.คลองท่อม รวมทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการ สถานศึกษา ศาสนสถาน และองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม เดินทางมาลงทะเบียน กว่า 2,500 คน ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ อย่างเข้มงวดโดยมีนำเครื่องแสกน มาไว้ที่ประตูทางเข้าเวที เพื่อป้องกันพกพาอาวุธเข้าในบริเวณเวทีรับฟังความคิดเห็นฯ

นายสมควร กล่าวว่า การจัดรับฟังความคิดเห็น ค.1 เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย ในการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA)โดยทุกความเห็นและข้อเสนอแนะ ของ ประชาชนในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ในการกำหนดขอบเขต และแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของโครงการให้ครบถ้วนรอบด้านครอบคลุมทุกข้อกังวลและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน

สำหรับการจัดรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ ได้แยกออกเป็น 2 แบบ คือ 1. การแสดงความแสดงความคิดเห็นการกรอกแบบสอบถาม และมีการแสดงคิดเห็นด้วยวาจา โดยจะให้เวลา คนละ 5 นาที ซึ่งบรรยากาศในการแสดงความคิดเห็นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกันนี้ ตัวแทนเครือข่ายประชาชนในพื้นที่ จ.กระบี่ นำโดยนายฐานิส เอ่งฉ้วน ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ได้ออกมาแถลงจุดยืน เพื่อแสดงเจตนารมณ์สนับสนุนให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ณ วัดคลองขนาน

โดยระบุว่า การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เป็นความต้องการของประชาชนในพื้นที่ จ.กระบี่ อย่างแท้จริง ซึ่งต้องการความมั่นคงทางพลังงาน รวมทั้งไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับทั่ว 14 จังหวัดภาคใต้ เหมือนในอดีตที่ผ่านมา จนก่อให้เกิดความเสียหายไปทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ทั้งนี้ พลังงานไฟฟ้าถือเป็นปัจจัยหลักที่ต้องมีความมั่นคง และเชื่อถือได้ จึงจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวได้

ด้านนายไพโรจน์ บุตรเผียน ประชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต.ปกาสัย อ.เหนือคลอง กล่าวว่า ถ่านหินมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมก็จริง แต่เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น และไม่เคยทำให้คนตาย แต่สิ่งที่เป็นผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างใหญ่หลวงในปัจจุบันก็คือ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว พบมีการทำลายประการัง อย่างกว้างขวางแต่ไม่เคยมีใครหยิบยกมาเป็นประเด็นปัญหา นอกจากนี้ ยังพบว่า คนที่ออกมาคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน ไม่ใช่คนกระบี่

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนกระบี่ (ส่วนขยาย ครั้งที่1) บรรจุอยู่ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย 2558-2579 (PDP 2015) ตั้งอยู่ในพื้นที่ของโรงไฟฟ้ากระบี่ปัจจุบัน ใน ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ มีขนาดกำลังผลิตติดตั้ง ประมาณ 870เมกะวัตต์ ใช้ถ่านหินคุณภาพดี ประเภทซับบิทูมินัสหรือบิทูมินัส นำเข้าจากต่างประเทศเป็นเชื้อเพลิงหลัก และเลือกใช้เทคโนโลยี ในการผลิตไฟฟ้าและระบบกำจัดมลสารที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยในระดับสากล เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชน และโครงการได้ออกแบบเพิ่มเติมให้สามารถใช้เชื้อเพลิงประเภทชีวมวลในอัตราส่วน ไม่เกินร้อยละ2 เพื่อส่งเสริมอาชีพและนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรของชุมชนในพื้นที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ซึ่งโรงไฟฟ้าใหม่ที่สร้างขึ้นจะให้พื้นที่มีไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการใช้ รองรับการเติบโตด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภาคใต้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเพื่อเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในภาคใต้ ลดความเสี่ยงการเกิดไฟฟ้าดับจากการพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าจากภาคกลางที่มีข้อจำกัดด้านระบบส่ง และการรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศมาเลเซียที่มีราคาสูงและไม่มีความแน่นอน

ทั้งนี้ ก่อนการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ค.1ในวันนี้ บริษัทที่ปรึกษาและ กฟผ.ได้สื่อสาร สร้างความรู้และความเข้าใจให้กับประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านหลายช่องทาง เช่น แผ่นพับให้ความรู้ สถานีวิทยุชุมชน ป้ายประกาศ รถแห่ประชาสัมพันธ์ ประกาศทางเว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรี เว็บไซต์ของ กฟผ. และบริษัทที่ปรึกษา รวมถึงช่องทางสื่อสารออนไลน์และสื่อโซเชียลมีเดีย พร้อมทั้งส่งจดหมายเชิญไปยังผู้มีส่วนได้เสียทุกครัวเรือนที่อยู่ในรัศมี5กิโลเมตร เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ครบถ้วนในทุกประเด็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การการจัดเวที ค1 ในครั้งนี้ มีแต่กลุ่มผู้สนับสนุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเท่านั้น ที่เข้าร่วมเวที ส่วนกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยไม่ได้เดินทางมาร่วมเวทีแต่อย่างได จึงทำให้เวที ค1 ในครั้งนี้ มีแต่ผู้ร่วมสนับสนุน และ เวลาประมาณ 17.00 น. เวทีได้ปิดลงด้วยความราบรื่นของการจัดรับฟังความเห็น

ขณะที่กลุ่มเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินกระบี่ไม่ได้มีการออกมาเคลื่อนไหว คัดค้านเวทีรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้แต่อย่างใด โดยนายอมฤต ศิริพรจุฑากุล หนึ่งในแกนนำเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทางทางเครือข่ายฯ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการจัดเวทีดังกล่าว เนื่องจากการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและด้านสุขภาพ (EHIA)ของกฟผ. ถูกยกเลิกมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยคำสั่งของนายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. แต่ทาง กฟผ.ก็นำโครงการเดิมกลับมาใหม่อีกครั้ง

ดังนั้นการจัดทำเวที ค.1 ในครั้งนี้จึงไม่มีความโปร่งใส จึงไม่ให้ความสำคัญกับการจัดเวทีดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น