ผู้จัดการรายวัน 360 - ครอบครัว “น้องเมย” พอใจผลการพูดคุย หลังนำส่งข้อมูลทางลับที่คณะกรรมการสอบสวนฯ ยังไม่รับทราบมาก่อน ทั้งภาพการชันสูตร-ผลทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำข้อมูลไปพิจารณาใหม่ ด้านกองทัพ ขอดูผลสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ปม น้องเมย เสียชีวิต รับมีข้อมูลคาบเกี่ยวกับข้อมูลของคณะกรรมการฯ นัดแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อให้ได้ความจริงที่ยอมรับได้ทั้งสองฝ่าย
วานนี้ (23 ม.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ครอบครัวของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ประกอบด้วย นายพิเชษฐ นางสุกัญญา และน.ส.สุพิชชา ตัญกาญจน์ พ่อแม่และพี่สาว พร้อมทั้งลุงและญาติอีกคน เข้าพบ พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร ในฐานะเป็นประธานกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของ "น้องเมย" เพื่อรับฟังผลการสอบสวนของคณะกรรมการ ภายหลังทำหนังสือเชิญเมื่อปีที่แล้ว
น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ ได้เปิดเผยหลังเข้าประชุมเพื่อรับฟังผลสรุปการสอบสวนข้อเท็จจริง ว่า แม้ทางครอบครัวจะไม่สามารถนำผลการสอบสวนเป็นเอกสารกลับมาได้ แต่ยังต้องการที่จะได้ผลสอบดังกล่าว และได้ยื่นหนังสือขอรับผลสอบสวนไปยัง ผบ.ทสส.แล้ว
“เรายังไม่ได้รู้สึกอะไรต่อผลที่ได้ฟัง เพราะเป็นข้อมูลเดิมๆ แต่ที่เราพอใจคือ เราได้นำผลทางนิติวิทยาศาสตร์ ภาพถ่าย และข้อมูลในทางลับให้แก่คณะกรรมการได้รับทราบ ซึ่งคุณหมอที่เป็น 1 ในคณะกรรมการบอกว่า ตกใจต่อสิ่งที่ได้เห็น และเป็นข้อมูลที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งยังบอกให้เราสบายใจว่า จะหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ และจะนำข้อมูลที่มีรวบรวมให้ผู้บังคับบัญชาต่อไป”
เช่นเดียวกับประธานคณะกรรมการ ที่บอกกับเราว่า ข้อมูลที่ได้จากทางครอบครัวถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก และถือเป็นข้อมูลใหม่ จากนี้จะกลับไปพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง และยืนยันว่า ไม่มีการปกปิดบุคคลที่กระทำผิดอย่างแน่นอน แต่ที่ผ่านมา ไม่มีหลักฐานที่สามารถระบุตัวบุคคลว่ามีการทำร้ายร่างกายได้
“ท่านประธานฯยืนยันว่า จะไม่สนว่าใครลูกใคร แต่อาจต้องอาศัยข้อมูลจากเราอีกทางในการหาตัวผู้กระทำผิด ซึ่งหากมีคนทำผิดจริงจะนำตัวมาลงโทษให้ ก็คงต้องรอให้ท่านทำงานอีกสักระยะ” น.ส.สุพิชา กล่าว
พล.อ.อ.ชวรัตน์ เปิดเผยว่า ครอบครัวของน้องเมย มาพูดคุยในประเด็นที่คาใจและสงสัย โดยเฉพาะสาเหตุการเสียชีวิต รวมถึงรอยช้ำ แต่ไม่ได้มีเอกสารหรือหลักฐานใดๆ มามอบให้ ซึ่งบรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี ไม่มีการกดดัน แต่ที่ครอบครัวมีสีหน้าเคร่งเครียด อาจเป็นเพราะเหนื่อย เนื่องจากยังไม่ได้ทานข้าว ทั้งนี้ ตนยังตอบไม่ได้ว่า จะมีการพูดคุยกันอีกรอบหรือไม่ แต่มีการนัดหมายว่าจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน เพื่อเปิดช่องทางคุยกันมากขึ้น พร้อมยืนยันไม่ได้ขอร้องให้ทางครอบครัว งดให้สัมภาษณ์กับสื่อ
พล.อ.อ.ชวรัตน์ กล่าวอีกว่า ทางครอบครัวแจ้งความประสงค์ขอเอกสารผลการสอบสวน แต่ตนยังไม่ได้ดูอย่างละเอียดว่าขอในส่วนของโรงเรียนเตรียมทหาร หรือส่วนใด หลังจากนี้คณะกรรมการฯ จะมีการพูดคุยถึงผลชันสูตรของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับความเห็นของแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ว่าแต่ละฝ่ายมีความเห็นเป็นอย่างไร เนื่องจากคณะกรรมการฯ หลายคน ยังไม่เห็นข้อมูลของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ อีกทั้งต้องการให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยอมรับของทั้ง 2 ฝ่าย
พล.อ.อ. ชวรัตน์ ยังเชื่อว่า ทางครอบครัวน่าจะยังติดใจอยู่ แต่สื่อคงต้องไปถามรายละเอียดเอง ซึ่งยืนยันว่าคณะกรรมการฯ ชี้เเจงในทุกคำถามแล้ว
วานนี้ (23 ม.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ครอบครัวของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ประกอบด้วย นายพิเชษฐ นางสุกัญญา และน.ส.สุพิชชา ตัญกาญจน์ พ่อแม่และพี่สาว พร้อมทั้งลุงและญาติอีกคน เข้าพบ พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร ในฐานะเป็นประธานกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของ "น้องเมย" เพื่อรับฟังผลการสอบสวนของคณะกรรมการ ภายหลังทำหนังสือเชิญเมื่อปีที่แล้ว
น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ ได้เปิดเผยหลังเข้าประชุมเพื่อรับฟังผลสรุปการสอบสวนข้อเท็จจริง ว่า แม้ทางครอบครัวจะไม่สามารถนำผลการสอบสวนเป็นเอกสารกลับมาได้ แต่ยังต้องการที่จะได้ผลสอบดังกล่าว และได้ยื่นหนังสือขอรับผลสอบสวนไปยัง ผบ.ทสส.แล้ว
“เรายังไม่ได้รู้สึกอะไรต่อผลที่ได้ฟัง เพราะเป็นข้อมูลเดิมๆ แต่ที่เราพอใจคือ เราได้นำผลทางนิติวิทยาศาสตร์ ภาพถ่าย และข้อมูลในทางลับให้แก่คณะกรรมการได้รับทราบ ซึ่งคุณหมอที่เป็น 1 ในคณะกรรมการบอกว่า ตกใจต่อสิ่งที่ได้เห็น และเป็นข้อมูลที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งยังบอกให้เราสบายใจว่า จะหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ และจะนำข้อมูลที่มีรวบรวมให้ผู้บังคับบัญชาต่อไป”
เช่นเดียวกับประธานคณะกรรมการ ที่บอกกับเราว่า ข้อมูลที่ได้จากทางครอบครัวถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก และถือเป็นข้อมูลใหม่ จากนี้จะกลับไปพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง และยืนยันว่า ไม่มีการปกปิดบุคคลที่กระทำผิดอย่างแน่นอน แต่ที่ผ่านมา ไม่มีหลักฐานที่สามารถระบุตัวบุคคลว่ามีการทำร้ายร่างกายได้
“ท่านประธานฯยืนยันว่า จะไม่สนว่าใครลูกใคร แต่อาจต้องอาศัยข้อมูลจากเราอีกทางในการหาตัวผู้กระทำผิด ซึ่งหากมีคนทำผิดจริงจะนำตัวมาลงโทษให้ ก็คงต้องรอให้ท่านทำงานอีกสักระยะ” น.ส.สุพิชา กล่าว
พล.อ.อ.ชวรัตน์ เปิดเผยว่า ครอบครัวของน้องเมย มาพูดคุยในประเด็นที่คาใจและสงสัย โดยเฉพาะสาเหตุการเสียชีวิต รวมถึงรอยช้ำ แต่ไม่ได้มีเอกสารหรือหลักฐานใดๆ มามอบให้ ซึ่งบรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี ไม่มีการกดดัน แต่ที่ครอบครัวมีสีหน้าเคร่งเครียด อาจเป็นเพราะเหนื่อย เนื่องจากยังไม่ได้ทานข้าว ทั้งนี้ ตนยังตอบไม่ได้ว่า จะมีการพูดคุยกันอีกรอบหรือไม่ แต่มีการนัดหมายว่าจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน เพื่อเปิดช่องทางคุยกันมากขึ้น พร้อมยืนยันไม่ได้ขอร้องให้ทางครอบครัว งดให้สัมภาษณ์กับสื่อ
พล.อ.อ.ชวรัตน์ กล่าวอีกว่า ทางครอบครัวแจ้งความประสงค์ขอเอกสารผลการสอบสวน แต่ตนยังไม่ได้ดูอย่างละเอียดว่าขอในส่วนของโรงเรียนเตรียมทหาร หรือส่วนใด หลังจากนี้คณะกรรมการฯ จะมีการพูดคุยถึงผลชันสูตรของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับความเห็นของแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ว่าแต่ละฝ่ายมีความเห็นเป็นอย่างไร เนื่องจากคณะกรรมการฯ หลายคน ยังไม่เห็นข้อมูลของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ อีกทั้งต้องการให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยอมรับของทั้ง 2 ฝ่าย
พล.อ.อ. ชวรัตน์ ยังเชื่อว่า ทางครอบครัวน่าจะยังติดใจอยู่ แต่สื่อคงต้องไปถามรายละเอียดเอง ซึ่งยืนยันว่าคณะกรรมการฯ ชี้เเจงในทุกคำถามแล้ว