ช่วงกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวเดือนหน้าที่เมืองเปียงชาง เกาหลีใต้ อาจช่วยเหลือชีวิตสุนัขได้หลายตัว ถ้าโชคชะตาเอื้ออำนวย กระแสแรงต่อต้านการบริโภคเนื้อสุนัขอาจนำไปสู่การออกกฎหมายห้ามขายเนื้อสุนัขเพื่อบริโภคอย่างถาวร
ทุกวันนี้ความนิยมบริโภคเนื้อสุนัขในเกาหลีใต้ยังมีอยู่ แม้กระทั่งคนหนุ่มสาวยุคดิจิตอลวัย 20 กว่าก็ยังชอบ การห้ามกะทันหันจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจการทำฟาร์มสุนัขเพื่อการบริโภคเนื้อ คนที่ชอบเปิบคงตัดใจไม่ลงง่ายๆ
คนเกาหลีอาจบินไปฟิลิปปินส์ หรือเวียดนาม ซึ่งมีร้านจำหน่ายเนื้อสุนัขปรุงสุก โดยเฉพาะในเวียดนาม มีร้านขายเปิดเผยข้างถนน มีหัวกะโหลกหมาแยกเขี้ยว ให้เห็นว่าเป็นเนื้อหมาแท้ๆ ไม่ใช่เนื้อสุกรหรือเนื้อสัตว์อื่นๆ ปลอมปน
ในฟิลิปปินส์ ยังมีบางชุมชนนิยมเปิบเนื้อน้องหมา ซึ่งเชื่อว่าทำให้ร่างกายอบอุ่นในฤดูหนาว แต่ในกรณีฟิลิปปินส์ อากาศไม่หนาวจัด การบริโภคจึงเป็นการชอบเพราะรสชาติการปรุงผสมสมุนไพรต่างๆ มากกว่าเหตุผลด้านอื่น
ใครเคยไปเวียดนามต้องรู้เรื่องเมนูพิเศษ “หมาเจ็ดรส” ถือว่าเป็นรายการสุดยอดที่พลาดไม่ได้ ต้องสั่งจอง ปรุงอย่างพิถีพิถัน ราคาแพงกว่าการเปิบเนื้อสุกร เนื้อสุนัขจำนวนมากเคยถูกส่งจากประเทศไทย แหล่งขนาดใหญ่คือ “ท่าแร่”
เคยเดินผ่านร้านขายเนื้อสุนัขปรุงข้างถนนในกรุงฮานอย เห็นหัวหมาแยกเขี้ยว ทั้งชายหญิงนั่งเปิบอย่างเอร็ดอร่อย ก็ได้แต่มอง ได้กลิ่นหืนโชยจากหม้อลวกเนื้อแล้วต้องรีบเดินหนี กลัวว่าจะห้ามอาการขย้อนอยากอาเจียนไม่ได้
บ้านเราก่อนนี้เจ้าหน้าที่ไม่เอาจริง ทำให้สุนัขถูกส่งไปท่าแร่แต่ละปีจำนวนมาก ธุรกิจขายเนื้อหมาทำอย่างเปิดเผย โดยเฉพาะเนื้อหมาดำ ซึ่งเชื่อกันว่ามีคุณค่าต่อร่างกายในฤดูหนาว ชาวเขาบางเผ่าในภาคเหนือก็นิยมเปิบเนื้อหมา
คนพื้นบ้านเราก็ไม่ย่อย เมื่อได้ลองแล้วติดใจ เดินไปทางไหนหมารุมเห่าเกรียวกราวเพราะการเปิบเนื้อหมานานๆ กลิ่นสาบสางโชยออกจากตัว หมาจมูกดี สัญชาตญาณเยี่ยมรู้ดีว่ามนุษย์หน้าไหนชอบกินเนื้อพวกเพื่อนมัน จึงเห่าเตือน
ในบ้านเราเคยมีเสียงร่ำลือเรื่อง “ลูกชิ้นเนื้อหมา” เรื่องนี้พิสูจน์ไม่ยาก ถ้าสงสัยว่าร้านไหนมีปัญหา ก็ควรเลี่ยง ถ้าเป็นไปได้หาสักลูกแล้วโยนให้หมา ถ้ามันไม่กิน แสดงว่า “ใช่แน่” เว้นแต่พวกอยากลองแล้วติดใจ จนเป็นขาประจำ
แบบนี้ไม่ว่ากัน ลางเนื้อชอบลางยา ถ้าเพื่อนฝูงไม่คบ อย่าว่ากัน!
ช่วงหลังมีการรณรงค์หนักในบ้านเรา การทำร้าย ทารุณสุนัขมีโทษหนักถึงขั้นปรับควบติดคุก ทำให้มีการระวังในการทำร้ายสุนัข แม้จะยังมีปัญหาในชุมชนต่างๆ เรื่องหมาจรจัดรบกวนผู้อยู่อาศัย เจ้าของสุนัขไม่ดูแลเก็บมูล ให้อึเรี่ยราด
มีคำพูดประชดว่าเตะคนเสียค่าปรับ 500 บาท เตะหมาโทษหนักกว่า!
การสำรวจความนิยมเปิบเนื้อหมาในเกาหลีในปี 2015 ปรากฏว่าคนหนุ่มวัย 20 ปี มีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ที่ยังชอบเปิบ แต่มีแนวโน้มลดลง เมื่อเทียบกับ 50 เปอร์เซ็นต์ในกลุ่มชายซึ่งมีอายุระหว่าง 50-60 ปี ส่วนสตรียังไม่มีตัวเลขชัดเจน
ถ้ารัฐบาลเกาหลีเอาจริง การห้ามขายและบริโภคเนื้อสุนัขช่วงกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว จะทำให้คนรักสุนัขชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเลิกได้ถาวร จะทำให้ธุรกิจเกี่ยวโยงกับการบริโภคเนื้อสุนัขซึ่งสูงถึง 7 หมื่นล้านบาทต่อปี สิ้นสุดลง
เมื่อประเด็นกฎหมายควบคุมยังไม่มี ทำให้ทางการเดินหน้าลำบากว่าจะทำอย่างไรให้หยุดธุรกิจเนื้อสุนัข ทั้งไม่มีตัวเลขแท้จริงว่าเครือข่ายหรือขอบเขตของธุรกิจนี้เป็นอย่างไร ผู้ค้าพยายามไม่สร้างเรื่องให้เกิดกระแสจนถูกห้ามถาวร
ทำให้สุนัขรอดชีวิตหลายแสนตัว หรือเป็นล้านตัว ธุรกิจฟาร์มสุนัขต้องปิดตัว ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน ต้องไปประเมินกันใหม่ ถ้ามีการห้ามจำหน่ายกันจริง ดังที่เคยเกิดขึ้นอย่างน้อย 2 ครั้งเมื่อเกาหลีใต้มีวาระพิเศษ
ตามสถิติของเกาหลีใต้ในปี 2010 มีฟาร์มเลี้ยงสุนัขประมาณ 1 แสนแห่งมีสุนัขอยู่มากเกือบ 9 แสนตัว แต่หน่วยงานบางแห่งอ้างว่ามีมากกว่า 1 ล้านตัว ดังนั้นถือว่าเป็นกิจการไม่ธรรมดาสำหรับการตอบสนองนักเปิบเนื้อสุนัข
ข้อเรียกร้องล่าสุดให้ห้ามจำหน่ายและบริโภคเนื้อสุนัขก่อนงานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว มาจากกลุ่มรณรงค์เพื่อสิทธิของสัตว์ คือสมาคมคุ้มครองสัตว์ ในเกาหลีใต้ ซึ่งได้จัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา
“สุนัขเป็นเพื่อนที่ดีของคน ดังนั้นจึงไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะกินเนื้อมัน” เป็นคำอธิบายว่าทำไมคนจึงไม่สมควรเปิบเนื้อหมา ในปี 1988 ซึ่งเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพงานกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ก็มีการสั่งห้ามจำหน่ายและบริโภคเนื้อสุนัข
ก่อนงานครั้งนี้ ตลาดค้าเนื้อสุนัขขนาดใหญ่ มีจำนวนหมุนเวียนกว่า 8 หมื่นตัว ก็ถูกห้ามจำหน่ายไปแล้ว การทำฟาร์มสุนัขเพื่อขายเนื้อไม่ได้อยู่ในการควบคุมโดยทั่วไปเหมือนธุรกิจปศุสัตว์ และไม่เข้าข่ายกฎหมายทารุณกรรมสัตว์
ต้องรอดูว่าการห้ามครั้งนี้จะเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวหรือไม่ ชะตากรรมของน้องหมาในเกาหลีใต้จึงขึ้นอยู่กับการรณรงค์ต่อเนื่อง และกระแสกดดันจากสังคมในเกาหลีเพื่อไม่อยากให้ประชาคมโลกดูหมิ่นว่า “เป็นพวกกินเนื้อหมา”
ส่วนเวียดนาม ฟิลิปปินส์ หรือจีน คงยังไม่เปลี่ยนด้วยกฎหมาย