xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อไทยจูบปากปชป. สูตรนี้เป็นไปได้ !?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ในตอนแรกที่มีคนพูดถึงสูตรการเมืองสูตรนี้ คือสูตรที่พรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจนถึงนาทีนี้ หลายคนก็ยังเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะมันพิสดารพันลึก กึกกือ แต่เมื่อเวลาผ่านไป สถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยนไป คนก็เปลี่ยนไป โอกาสที่เคยคิดว่า"เป็นไปไม่ได้" ก็ "(อาจจะ)เป็นไปได้" เหมือนกัน
เพราะก่อนอื่นหากพิจารณาจากท่าทีและความเคลื่อนไหว รวมไปถึงอารมณ์ของคนระดับแกนนำของทั้งสองพรรค ต่างก็เริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ "เฉย" หรือไม่ก็ไม่ได้กล่าวโจมตีฝ่ายตรงข้ามรุนแรงเหมือนเมื่อก่อน สังเกตหรือไม่ว่า เวลานี้หรือย้อนกลับไปในช่วงสองสามเดือนขึ้นมาจนถึงตอนนี้ จะไม่เห็นคนของทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวโจมตีกันเลย
แม้ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะตอบคำถามที่แฟนๆ อยากรู้ว่าจะร่วมรัฐบาลหรือจับมือกับพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้หรือไม่ในทำนองว่า "หากอุดมการณ์ต่างกัน ก็เป็นไปไม่ได้" แน่นอนว่า เป็นการแสดงท่าทีเป็นแบบส่งสารไปถึงแฟนคลับ ที่อาจจะหวั่นไหว และสับสน กับท่าทีและความเคลื่อนไหวของระดับแกนนำของพรรค ในเวลานี้
โดยก่อนหน้านี้ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ระดับแกนนำอีกคนของพรรคประชาธิปัตย์ ได้เคยกล่าวนำร่องมาแล้ว ระหว่างไปร่วมงานเสวนาที่สมาคมนักข่าวฯ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว ที่กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สืบทอดอำนาจ หลังการเลือกตั้งคราวหน้า
และล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อน พิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองพรรคดังกล่าวจับมือกัน เพื่อขัดขวาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือขัดขวางเผด็จการทหาร อะไรทำนองนี้
แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วด้วยบารมีและฐานะส่วนตัวของ พิชัย รัตตกุล คงไม่สามารถชี้นำคนในพรรคประชาธิปัตย์ได้มากนัก เมื่อเทียบกับผู้อาวุโสรายอื่น เช่น ชวน หลีกภัย แต่ในทางการเมือง รวมไปถึงตัวเลขทางคณิตศาสตร์ในอนาคตมันมีแนวโน้มเป็นไปได้ไม่น้อยเหมือนกัน
**หากสังเกตปฏิกิริยา โฟกัสไปที่พรรคประชาธิปัตย์ก่อน ท่าทีที่มีต่อพรรคเพื่อไทยนั้น ถือว่า"อ่อนลง"ไปมาก ในหลายเวทีคนของพรรคประชาธิปัตย์ เคยไปร่วมงานแสดงความเห็นทางการเมืองร่วมกันบ่อยครั้ง รวมไปถึงมีระดับแกนนำบางคน เช่น องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ก็เพิ่งไปออกรายการที่สถานี"วอยซ์ทีวี" ของ พานทองแท้ ชินวัตร อยู่เลย ซึ่งหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ คงไม่มีทางได้เห็นบรรยากาศแบบนี้เป็นแน่
หันไปทางฝ่ายพรรคเพื่อไทยบ้าง ก็มีระดับแกนนำหลายคนเหมือนกัน ที่ออกมาเรียกร้องให้ทุกพรรคจับมือกันเพื่อขัดขวางนายกฯ คนนอก ซึ่งความหมายก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นแหละ ล่าสุด อำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี รวมไปถึงอีกหลายคน ขณะที่ระดับแกนนำหลักไม่ว่าจะเป็น ภูมิธรรม เวชยชัย จาตุรนต์ ฉายแสง พวกเขาก็ไม่ได้กล่าวโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนแต่ก่อน หรือแม้แต่พวกแกนนำเสื้อแดง ก็เงียบเสียงลงอย่างน่าแปลกใจ
แน่นอนว่าหากพิจารณากันตามสูตรนี้ ฝ่ายประชาธิปัตย์ น่าจะเสียเปรียบในแง่ของจำนวน ส.ส. อันเนื่องมาจากกลไกของรัฐธรรมนูญ ในเรื่องการนับคะแนนเลือกตั้ง ที่ใช้ระบบ "จัดสรรปันส่วน" ทำให้คะแนนแต่ละพรรคเฉลี่ยกันไป ทำให้พรรคใหญ่เสียเปรียบ และล่าสุดกรณีกฎหมายพรรคการเมือง ที่กำลังจะมีการแก้ไขให้ออกมาในแบบ "รีเซตทางอ้อม" มันก็เหมือนกับการ "บอนไซ" กันดีๆ นี่เอง นี่ก็อาจเป็นชนวนให้รวมกันเราอยู่ หรือ "ต้องแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง" กันไว้ชั่วคราว
ที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเสียเปรียบนั้น หากขยายความก็น่าจะมาจากการที่ฐานคะแนนเสียงไปทับซ้อนกับ "พรรคทหารของกำนัน" ที่คาดว่าจะมี สุเทพ เทือกสุบรรณ อยู่เบื้องหลัง และพรรคของ ไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่ประกาศตั้งพรรคเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่นเดียวกัน
** ดังนั้น หากพูดกันแบบเฉพาะหน้าในเวลานี้ แม้ว่าสูตรการจูบปาก ร่วมกันตั้งรัฐบาลของสองพรรคใหญ่ คือ ประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยนั้นยังไม่น่าเป็นไปได้ แต่ในอนาคตมันก็มีแนวโน้มเป็นไปได้ หากสังเกตจากท่าทีที่อ่อนลง และเปลี่ยนไปของทั้งสองฝ่าย เพียงแต่ว่าในเวลานี้ต้องเบรกอารมณ์ของบรรดาแฟนคลับไปก่อน เพราะเชื่อว่าหลายคนยังทำใจ และปรับอารมณ์ไม่ได้ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น