xs
xsm
sm
md
lg

ปีใหม่"พี่ใหญ่"หนักกว่าเดิม ตัวถ่วงจน"ลุงตู่"เดินหน้าลำบาก !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**อาจจะโชคดี ที่ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ รวมไปถึงกระแสชื่นชม "ฮีโร่ในดวงใจ" ของคนทั้งประเทศอย่าง "พี่ตูน" อทิวราห์ คงมาลัย ที่วิ่งจากใต้สุด จากเบตง จังหวัดยะลา ไปจนถึงเหนือสุดของประเทศ คือ แม่สาย จังหวัดเชียงราย ทำให้กลบประเด็น หรือเรื่องราวทางการเมืองจนมิดไปเลย แต่นั่นก็คงเป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น มันสั้นนัก แต่เชื่อว่าหลังจากผ่านพ้นช่วงเทศกาลชื่นมื่นที่ว่านี้ไปแล้ว กระแสแรงกดดันยังจะพุ่งมาหา "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หนักหน่วงเหมือนเดิม และน่าจะรุนแรงกว่าเดิมแน่นอน
เพราะมีหลายเรื่องที่ก่อนหน้านี้อาจเป็นเพราะกระแสในทางบวกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มาเบนออกไป ช่วยลดทอนน้ำหนักลงไปได้บ้าง แต่ในช่วงเวลาตั้งแต่ปลายปีเป็นต้นมา แม้แต่ "ลุงตู่" ก็แทบเอาตัวไม่รอด อยู่ในภาวะ"ขาลง" ด้วยเหมือนกัน แม้ว่าจะพยายามออกแรง "กระเตง" หรืออุ้มกันสุดฤทธิ์ก็ตาม แต่การออกอาการแบบนั้นบ่อยๆ มันก็ลำบากเหมือนกัน ดีไม่ดีอาจทำให้พังกันไปทั้งคู่ก่อนเวลาอันควรก็เป็นได้
หากโฟกัสเฉพาะ"พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แม้ว่าหลายคนยอมรับกันว่า ในแวดวงราชการ ในกองทัพ รวมไปถึงกลุ่มธุรกิจ จะนับได้ว่าเป็น"ผู้มากบารมี" แต่หากพิจารณาให้ดี นั่นก็ล้วนมาจากตำแหน่งทางราชการเคยเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูง เคยเป็นถึงระดับผู้บัญชาการทหารบก และควบคุมการแต่งตั้งโยกย้ายทั้งนายทหาร และนายตำรวจระดับสูง มาอย่างต่อเนื่องนานหลายปี ประกอบกับเป็นคนที่มีบุคลิกกว้างขวาง เป็นคนคบเพื่อน มีรุ่นพี่รุ่นน้องมากมาย จนเป็นเครือข่ายขยายเติบโตไปทั่วทุกวงการ แต่เชื่อหรือไม่ว่า "ภาพลักษณ์ภายนอก" กลับตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง
**พูดกันแบบตรงไปตรงมาก็คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ได้รับการยอมรับในวงสังคมเลย ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่เขามี "ภาพเป็นลบ" มาตลอด แม้ว่ารอบตัวจะมีทีมที่ปรึกษาฝีมือดีมากมาย แต่ก็ไม่ค่อยได้ผลในทางบวกเลย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะบุคลิกเป็นคนรุ่นเก่าที่ดูสุขภาพไม่แข็งแรง หากเป็นภาพในภาพยนต์ ก็น่าเป็นแบบ "มาเฟียยุคโบราณ" ซึ่งไม่เข้ากับยุคสมัยที่กำลังพยายามปั้นให้เป็น"ยุคไทยแลนด์ 4.0 " ภาพมันจึงตัดกันอย่างสิ้นเชิง
ขณะเดียวกัน เมื่อภาพตัดมาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ล้วนออกมาอีกทางหนึ่ง เป็นภาพที่กระฉับกระเฉง เข้ากันได้ดีกลมกลืนกับคนทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะมามุกไหนเป็นรับได้ทุกรูปแบบ หากมองในแง่ทางสังคม ถือว่าเขา "จัดจ้าน" รอบตัว และยังมีภาพลักษณ์ของ "นักการเมือง" ที่เข้ากับชาวบ้านได้อย่างเต็มรูปแบบ ที่ก่อนหน้านี้ ทักษิณ ชินวัตร เคยเป็น ซึ่งตอนนี้ก็ต้องถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นี่แหละ ใกล้เคียงกับคำนิยมของนักการเมือง แต่เป็นนักการเมืองในยุคที่นิยมความหมายเป็น "ประชารัฐ" ไม่ใช่ "ประชานิยม" ในยุคก่อน
บุคลิกที่โดดเด่นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดังกล่าว ย่อมสวนทางกับภาพลักษณ์ของ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แทบจะตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง แต่ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังยืนยันที่จะ "กระเตง" กันต่อไป จนถึงขั้นมีวาทะเด็ดว่า "อยู่กันไปทั้งชาติ" ซึ่งก็ไม่ใช่แค่พี่ใหญ่ ยังมี "พี่รอง" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมไปถึง "เพื่อนรัก" อย่าง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ที่แม้ว่าคนพวกนี้จะถูกวิจารณ์ในทางลบอย่างไร แต่พลงอ.ประยุทธ์ ก็ยังคงหอบหิ้วกันไปเรื่อยๆ
**อย่างไรก็ดี เชื่อว่าหลังปีใหม่กระแสการเมืองต้องกลับมาร้อนแรงกว่าเดิมอีกหลายเท่า เพราะถือว่ากำลังเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ทุกฝ่ายต้องใส่กันเต็มที่โดยเฉพาะใครที่ "มีแผล" จะต้องโดนหนักกว่าเดิม
แน่นอนว่าทุกสายตาต้องจับจ้องไปที่ "พี่ใหญ่" เจ้าเก่าที่เวลานี้แม้ยังอยู่ในช่วง"พักเบรก" จากเทศส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แต่หลังจากนั้นเชื่อว่าจะร้อนแรงขึ้นมามากกว่าเดิม ก็อย่างที่รู้กัน ล่าสุดก็มีเรื่อง"แหวนเพชรและนาฬิกาหรู" ที่ทยอยออกมาให้สังคมได้เห็นมากมายนับสิบเรือน และเป็นทรัพย์ที่มีราคามูลค่าเกิน 2 แสนบาท ที่ต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งนี่คือคำถามใหญ่ ที่สังคมไม่ยอมปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆ แม้ว่าที่ผ่านมาเจ้าตัวจะพยายามเงียบ ไม่ตอบโต้ แต่ก็ไม่ได้ผล เพราะมีรายการเปิดโปง ขุดกรุรายการนาฬิกาออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ที่น่าสนใจก็คือกรณีของ "พี่ใหญ่" น่าจะส่งผลกระทบไปถึงเครดิตขององค์กรตรวจสอบ อย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) อีกด้วย เพราะถือว่ามีความเชื่อมโยงกันไปถึงตัวประธาน ป.ป.ช. คือ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ที่เป็น "ลูกน้องเก่า" และล่าสุดสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็โหวตแก้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยป.ป.ช. ที่มีสาระสำคัญ คือ ต่ออายุ ประธาน ป.ป.ช. และ กรรมการป.ป.ช.อีกบางคน ให้อยู่จนครบวาระ 9 ปี งดเว้นคุณสมบัติต้องห้ามไปสิ้น จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ทำให้องค์กรตรวจสอบดังกล่าวเสื่อมเสียเครดิต ความน่าเชื่อถือลงไป กลายเป็นว่า "ดีแต่ตรวจสอบฝ่ายตรงข้าม หรือเอาผิดกับรายเล็กรายน้อย" แต่มองข้ามไม่เห็นแผลคนกันเอง หรือ ปกป้องคนกันเอง
**ดังนั้นอย่าได้แปลกใจ ที่หลังจากช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นต้นไป กระแสกดดันในทางลบต่อ "พี่ใหญ่" และ "เพื่อนพ้องน้องพี่" ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง และเชื่อว่าจะต้องจัดเต็มกว่าเดิม เพราะนี่คือการนับถอยหลังเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ที่ไม่มีใครยอมใครกันอยู่แล้ว !!


กำลังโหลดความคิดเห็น