ข่าวปนคน คนปนข่าว
** ขัดรธน. เสียเอง แบบนี้ไม่เรียกลุแก่อำนาจ จะเรียกอะไร เทียบแล้วระบอบทักษิณยังเด็กๆไปเลย ก็เรื่อง สนช.จะโหวตต่ออายุ 7 ป.ป.ช.ตาม “ใบสั่งผู้มีอำนาจ”หลัง “กมธ.เสียงข้างมาก”ยอมถอนปม "ดักฟัง-แฮกข้อมูล" ยื่นหมูยื่นแมว ปล่อยผ่านคุณสมบัติ“สเปกไม่เทพ”
ยืดเยื้อกว่าที่คาดแฮะ .. ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถือเป็นกฎหมายลูก ฉบับที่ 8 ของรธน.60 ค้างเติ่งอยู่ในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แม้ผ่านวาระ 2 แล้ว แต่ก็ยังโหวตวาระ 3 ตาม“ใบสั่งผู้มีอำนาจ”ไม่ได้ .. แต่เห็นว่า พรเพชร วิตชลชัย ประธานสนช. นัดโหวตกันอีกที ฤกษ์ดีวันคริสมาสต์ 25 ธ.ค. .. ที่ยืดเยื้อจนทำให้“สภาฝักถั่ว”กดปุ่มไม่ได้ตามใบสั่ง ก็ต้องยกเครดิตให้“คณะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย”นำโดย วิชา มหาคุณ อดีตป.ป.ช. และ ที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ต่อสู้กันอย่างขันแข็ง ใน 2 ประเด็นหลัก .. เรื่องหนึ่ง มาตรา 37/1 ที่เพิ่มอำนาจให้ป.ป.ช.เป็น “หน่วยจารกรรม”สามารถ "ดักฟัง-แฮกข้อมูล" ได้ทุกชนิด ในคดีทุจริต และร่ำรวยผิดปกติของนักการเมือง ข้าราชการ และประชาชน .. แต่พอเจอถล่มยับ ทั้งใน-นอกสภา ว่าเข้าข่าย “ละเมิดสิทธิเสรีภาพ”อย่างร้ายแรง “บิ๊กชัช”พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ในฐานะประธานกมธ. ก็ต้องถอยกรูด ยอมถอยเรื่องนี้ออกจากร่างกฎหมายไป .. ว่ากันว่าที่“ไอ้เสือต้องถอย”ก็ด้วยเช็กเสียง“หลังไมค์”แล้ว มีสมาชิก สนช.ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้อย่างมาก หากปล่อยไปถึงตอนโหวต อาจ“หน้าแหก”ก็เลยต้องยอมถอย .. พร้อมเงื่อนไข“ยื่นหมูยื่นแมว”ว่าหากถอน มาตรา 37/1 อำนาจ "ดักฟัง-แฮกข้อมูล" ให้แล้ว ก็ขอให้เพื่อสมาชิก ช่วยปล่อยผ่าน มาตรา 178 แทน ..
มาตรา 178 ก็ว่าด้วย การต่ออายุการดำรงตำแหน่งของป.ป.ช. ชุดปัจจุบัน ให้อยู่จนครบวาระ 9 ปี นับจากการเข้าดำรงตำแหน่งของแต่ละคน .. โดย“กมธ.เสียงข้างมาก”ยกเหตุผลว่า ป.ป.ช.ชุดนี้ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ หรือ“ทำงานเข้าฝัก”แล้วนั่นเอง .. จนอดสงสัยไม่ได้ว่า เหตุผล“ทำงานเข้าฝัก”ที่มาจากความรู้สึกของ กมธ.เสียงข้างมาก ไฉนจึงมีน้ำหนักเหนือบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เป็น“กฎหมายสูงสุด”ไปได้ .. ก็ กรธ.ของ มีชัย ฤชุพันธุ์ เขียนเรื่องคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระไว้แบบ “สเปกเทพ”เพื่อเป็นบรรทัดฐาน ให้ได้ผู้ที่เหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่ .. แต่ กมธ.เสียงข้างมาก ที่งานนี้คุมเกมโดย “บิ๊กป๊อด”พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย“บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่คสช. ที่ว่ากันว่าในชั้น กมธ. “บิ๊กป๊อด”ไม่ค่อยได้เข้าประชุมด้วยซ้ำ เพราะต้องหลบหน้า “อ.วิชา”ที่เป็นโจทก์เก่านั่นเอง .. แต่จนแล้วจนรอด ด้วยอิทธิพลของ“บิ๊กคสช.”ก็ทำให้ กมธ.เสียงข้างมาก ที่เต็มไปด้วยนายตำรวจ และทหาร ทั้งอดีตและปัจจุบัน เห็นชอบเออออไปกับ“ใบสั่ง”ที่ยัดไส้เข้ามาด้วย .. โดยไม่สนใจว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไร .. เมื่อสนช.โหวตวาระ 3 เสร็จในวันนี้ ก็จะเป็นเสมือน“ของขวัญคริสมาสต์”ให้กับ 7 ป.ป.ช. ที่มีคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญ อย่างชัดเจน ได้ไปต่ออีกตามวาระ .. โดยเฉพาะรายของ“บิ๊กกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. ที่ลาออกจากเลขาฯ“บิ๊กป้อม”ก่อนไปสมัครเป็น ป.ป.ช.ได้วันเดียว .. ขณะที่รัฐธรรมนูญกำหนดว่า ต้องพ้นจากตำแหน่งทางการเมืองอย่างน้อย 10 ปี .. นี่แหละหนา ยุคปฏิรูปของคสช. ปฏิรูปจนไม่สนใจว่า ขัดรัฐธรรมนูญน่าเกลียดขนาดไหน .
**ปรากฏการณ์แห่ง “ตูน”ปรากฏการณ์แห่งชาติ!! “ตูน บอดี้สแลม”รับตำแหน่ง “บุคคลแห่งปี”จากทุกสำนักอย่างเต็มภาคภูมิ ปรากฏการณ์ที่“ผู้มีอำนาจ”ควรนำพาไปฉุกคิด มิใช่“หลงไหลได้ปลื้ม-เกาะกระแส”ไปด้วยแค่นั้น
ตำแหน่ง“บุคคลแห่งปี”คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจาก“ตูน บอดี้สแลม”อาทิวราห์ คงมาลัย ที่พักบทบาทจาก“นักร้องซูเปอร์สตาร์” มาสวมบท“นักวิ่ง”กับ “โครงการก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” .. จากใต้สุดของประเทศ อ. เบตง จ.ยะลา ถึงเหนือสุด ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนมาถึงจุดหมายปลายทางได้สำเร็จ ในวันปรวัติศาสตร์ 25 ธ.ค.60 .. รวมระยะทาง 2,191 กม. กับยอดบริจาคเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 700 ล้านบาท ทะยานทะลุเป้าไปไกลพ้น 1 พันล้านบาท แบบสบายๆ .. สะท้อนสิ่งที่ “พี่ตูน”และทีมงานก้าวฯ ทำมาตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าได้ใช้จิตใจ-ความอดทน-พากเพียรก้าวข้าม “คำค่อนขอด-ดูถูกดูแคลน”หรือบ่อยครั้ง ที่ถูกดึงเข้าประเด็นถกเถียงทางการเมือง .. แต่ “พี่ตูน”และทีมงาน ก็ก้มหน้าก้มตาวิ่ง ด้วย“เจตนาอันบริสุทธิ์”สร้างความประทับใจ ให้แก่ผู้คนที่ได้สัมผัสตามสองข้างทาง หรือแม้แต่ที่ติดตามกันผ่านสื่อต่างๆ .. เอาแค่ที่จุดสตาร์ท กับคำถามว่า พื้นที่ชายแดนใต้เป็นพื้นที่สีแดง-พื้นที่อันตราย ก็ได้คำตอบเจือด้วยรอยยิ้มจาก“พี่ตูน”ว่า “ผมเห็นแต่พื้นที่สีชมพู...พื้นที่ที่เต็มไปด้วยความรัก” .. รวมไปถึงหลายครั้งที่สภาพร่างกายของ“พี่ตูน”เกิดประท้วง จากการถูกใช้อย่างหนักเกินขีดจำกัดมนุษย์มนาทั่วไป จนหลายคนมองว่า ไม่น่าจะไหว และเชียร์ให้ล้มเลิกโครงการด้วยซ้ำ แต่เจ้าตัวก็ผ่านมาได้ ด้วยแรงใจที่เกินร้อย ..
“พี่ตูน”ไม่เพียงทำได้ทะลุเป้า จากยอดบริจาคที่เกิน 1 พันล้านบาทเท่านั้น ยังได้ร่วมสร้างบรรยากาศของความสุข-ความประทับใจ ตลอดระยะทาง 2,191 กม. ด้วยรอยยิ้มที่ไม่ได้เสแสร้ง แต่เป็นรอยยิ้มของผู้ให้ที่แท้จริง .. ตลอดจน“แรงบันดาลใจ”ที่เคยใช้ “บทเพลง”เป็นเครื่องมือในการสร้างความ“ฮึกเหิม-กำลังใจ”แต่ครั้งนี้ หันใช้ความทุ่มเทผ่าน“การกระทำ" แทน และดูเหมือนจะได้ผลมากกว่าด้วยซ้ำ .. เหนือสิ่งอื่นใด ต้องไม่ลืมว่า “โครงการก้าวฯ”ของ“หนุ่มตูน”มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมเงินไปสนับสนุน ซื้อเครื่องมือแพทย์ให้แก่โรงพยาบาล 11 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ และเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ .. หลายฝ่ายก็มองว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ หากแต่มองตามหลัก “Social Movement-การขับเคลื่อนทางสังคม”ก็ต้องถือว่าปรสบความสำเร็จ ในแง่การสร้างกระแส .. แต่หากจะสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม“ผู้มีอำนาจ”ไม่ว่ายุคนี้ หรือยุคไหน ต้อง“นำพา”ปรากฏการณ์นี้ไป “ฉุกคิด”มิใช่แค่หลงไหลได้ปลื้ม หรือเอาแต่เกสาะกระแสไปด้วยแค่นั้น แล้วก็ยังใช้เงินภาษีของประชาชนด้วยหลักคิดแบบเดิมๆ .. แต่ไม่ว่าจะมีการนำพาไปต่อยอด หรือไม่ วันนี้ “ตูน บอดี้สแลม - อาทิวราห์ คงมาลัย”ก็ได้เข้าไปอยู่ในใจคนไทยทั้งชาติ กับตำแหน่ง “บุคคลแห่งปี-ขวัญใจมหาชน-บุคคลที่น่าชื่นชมยกย่อง”ที่ยึดหัวหาดจากทุกสำนักอย่างเต็มภาคภูมิ .. สมเป็นปรากฏการณ์แห่ง“ตูน”ปรากฏการณ์แห่งชาติ อย่างแท้จริง.
** นายห้างนาฬิกายังอาย!! เปิดคอลเลกชั่นนาฬิหาหรู “เสี่ยป้อม”9 เรือน ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ถึงเวลาต้องชี้แจงให้สิ้นสงสัย ยิ่งปล่อยไว้คนเขานินทาว่าเป็นอานิสงส์“เงินทอน”จะเสียภาพพจน์ “พี่ชายคนดี”ของ “นายกฯน้องตู่”เอานะ
ยิ่งขุดคุ้ย ยิ่งเปิดกรุ“นาฬิกาหรู”ของ “เสี่ยป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่คสช.ไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งตาร้อนผ่าวๆ .. คนอะไรคาดนาฬิกาไม่เคยซ้ำ ถ้าเป็น“พรีเซนเตอร์-แบรนด์แอมบาสเดอร์”อะไร จะไม่ว่าเลย นี่เป็น“ทหารอาชีพ - นักการเมืองอาชีพ”แล้วแต่ละเรือน ราคาก็ใช่ย่อย แบบที่ “นายห้างนาฬิกา”ไม่กล้าเก็บไว้ในคอลเลกชั่นด้วยซ้ำ .. ล่าสุดมาอีก“นาฬิกาป้อมรายวัน”จากเพจดังเพจเดิม CSI LA กับ เรือนที่ 9 เป็น Rolex Pro Hunter Deepsea Green ..เรือนนี้ “ผู้สันทัดกรณี”บอกว่า เป็นเรือนที่สั่งทำพิเศษกับ“Pro Hunter”ซึ่งเป็นบริษัทที่ตกเเต่ง Rolexราคาไม่ต่ำกว่า 8 เเสนบาทไทยอย่างแน่นอน .. ส่วนเรือนที่ 8 เปิดไปก่อนหน้านั้นเป็น Patek Philippe Annual Calendar Chronograph ระหัส 5960P มูลค่า 95,400 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือราว 3.12 ล้านบาทไทย.. และยังมีที่กำลังโดนสืบเสาะ อีกหลายเรือน .. จนเกรงว่ากว่าจะถึงเส้นตาย ชี้แจงต่อ คณะกรรมการป.ป.ช. ภายใน 30 วัน ที่จะครบเส้นตายในวันที่ 8 ม.ค. 61 จะชี้แจงไม่หมด ตกสำรวจไป ทีนี้ละก็ยุ่งไปกันใหญ่ .. เอาแค่ตอนนี้ 9 เรือน แต่ละเรือนไฮด์เอน หายากทั้งนั้น แบบที่“นายห้างนาฬิกา”ยังต้องอาย .. อันประกอบด้วย Richard Mille 2 เรือน Patek Philippe 2 เรือน Rolex 3 เรือน AUDEMARS PIGUET 1 เรือน และ Omega อีก 1 เรือน .. ราคาเริ่มต้นราวๆ แสนปลายๆ แตะล้านทั้งนั้น เบ็ดเสร็จแล้ว 9 เรือน ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาทไทย .. ครั้นจะไปชี้แจงว่า“ยืมเพื่อน” มาทั้งหมด ก็คงตลกน่าดู แล้วหากป.ป.ช. ของ“ประธานกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ดันไปเชื่ออีก ก็ยุบๆไปเถอะ อย่างที่เคยมีคนว่าไว้ .. ไม่ใช่แค่นาฬิกา มูลค่ามากกว่า 20 ล้านบาท ที่งอกมาแบบไม่เคยชี้แจง ป.ป.ช.มาก่อน ยังมีเงินสดๆ งอกขึ้นมา กว่า 31 ล้านบาท เทียบจากบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นไว้กับ ป.ป.ช. ครั้งล่าสุดปี 2557 ที่มี 87 ล้านบาท กับเมื่อครั้งยื่นบัญชีปี 2555 ที่มีแค่ 56 ล้านบาทเศษ .. แค่ 2 รายการ เงินสด กับนาฬิกาหลายเรือน ถ้าเป็นช่วง “รัฐบาลเลือกตั้ง”นี่ต้องบอกว่า “ตายหยั่งเขียด”ไม่ต้องรอชี้แจงให้เสียเวลา ฟันโช๊ะ ชี้มูลความผิดข้อหา“รวยเกิ๊นนนน”ร่ำรวยผิดปกติได้แล้ว .. หลักฐานคาตาขนาดนี้แล้ว ป.ป.ช.ก็ยังดูชิลล์ๆ ยิ่ง พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการ ป.ป.ช. ออกมาย้ำที่ “ประธานกุ้ย”เคยระบุว่า การยื่นบัญชีทรัพย์สินนั้น ก็กำหนดให้ยื่นแค่ตอนเข้ารับตำแหน่ง และตอนพ้นตำแหน่ง เท่านั้นอีก .. ก็เหมือนสารภาพกลางแดดแล้วว่า อาจมีรายการ “ล้มมวย”..ไม่เท่านั้น “ท่านบุณยวัจน์” ออกตัวให้ท้าย“บิ๊กป้อม”ไปอีกว่า ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว รู้ว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร .. เอาเถอะ ถึงป.ป.ช. จะดูไม่เคลือบแคลงสงสัยกับทรัพย์สินของ “เสี่ยป้อม”แต่เจ้าตัวก็รู้อยู่แก่ใจว่า“ทรัพย์สมบัติ”มีที่มาอย่างไร ได้มาอย่าง “บริสุทธิ์” จากสมบัติเก่า หรือหยิบยืมใครมาก็ว่าไป .. ทำนิ่งๆ แบบนี้ คนเขานินทากันได้ว่า สมบัติพัสฐานต่างๆได้มาจาก“เงินทอน”จะเสียหายภาพพจน์ “พี่ชายคนดี”ของ “นายกฯน้องตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอานะท่าน.
ช.ชฎา
รูป
วิชา มหาคุณ
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ
ตูน บอดี้สแลม
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
** ขัดรธน. เสียเอง แบบนี้ไม่เรียกลุแก่อำนาจ จะเรียกอะไร เทียบแล้วระบอบทักษิณยังเด็กๆไปเลย ก็เรื่อง สนช.จะโหวตต่ออายุ 7 ป.ป.ช.ตาม “ใบสั่งผู้มีอำนาจ”หลัง “กมธ.เสียงข้างมาก”ยอมถอนปม "ดักฟัง-แฮกข้อมูล" ยื่นหมูยื่นแมว ปล่อยผ่านคุณสมบัติ“สเปกไม่เทพ”
ยืดเยื้อกว่าที่คาดแฮะ .. ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถือเป็นกฎหมายลูก ฉบับที่ 8 ของรธน.60 ค้างเติ่งอยู่ในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แม้ผ่านวาระ 2 แล้ว แต่ก็ยังโหวตวาระ 3 ตาม“ใบสั่งผู้มีอำนาจ”ไม่ได้ .. แต่เห็นว่า พรเพชร วิตชลชัย ประธานสนช. นัดโหวตกันอีกที ฤกษ์ดีวันคริสมาสต์ 25 ธ.ค. .. ที่ยืดเยื้อจนทำให้“สภาฝักถั่ว”กดปุ่มไม่ได้ตามใบสั่ง ก็ต้องยกเครดิตให้“คณะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย”นำโดย วิชา มหาคุณ อดีตป.ป.ช. และ ที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ต่อสู้กันอย่างขันแข็ง ใน 2 ประเด็นหลัก .. เรื่องหนึ่ง มาตรา 37/1 ที่เพิ่มอำนาจให้ป.ป.ช.เป็น “หน่วยจารกรรม”สามารถ "ดักฟัง-แฮกข้อมูล" ได้ทุกชนิด ในคดีทุจริต และร่ำรวยผิดปกติของนักการเมือง ข้าราชการ และประชาชน .. แต่พอเจอถล่มยับ ทั้งใน-นอกสภา ว่าเข้าข่าย “ละเมิดสิทธิเสรีภาพ”อย่างร้ายแรง “บิ๊กชัช”พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ในฐานะประธานกมธ. ก็ต้องถอยกรูด ยอมถอยเรื่องนี้ออกจากร่างกฎหมายไป .. ว่ากันว่าที่“ไอ้เสือต้องถอย”ก็ด้วยเช็กเสียง“หลังไมค์”แล้ว มีสมาชิก สนช.ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้อย่างมาก หากปล่อยไปถึงตอนโหวต อาจ“หน้าแหก”ก็เลยต้องยอมถอย .. พร้อมเงื่อนไข“ยื่นหมูยื่นแมว”ว่าหากถอน มาตรา 37/1 อำนาจ "ดักฟัง-แฮกข้อมูล" ให้แล้ว ก็ขอให้เพื่อสมาชิก ช่วยปล่อยผ่าน มาตรา 178 แทน ..
มาตรา 178 ก็ว่าด้วย การต่ออายุการดำรงตำแหน่งของป.ป.ช. ชุดปัจจุบัน ให้อยู่จนครบวาระ 9 ปี นับจากการเข้าดำรงตำแหน่งของแต่ละคน .. โดย“กมธ.เสียงข้างมาก”ยกเหตุผลว่า ป.ป.ช.ชุดนี้ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ หรือ“ทำงานเข้าฝัก”แล้วนั่นเอง .. จนอดสงสัยไม่ได้ว่า เหตุผล“ทำงานเข้าฝัก”ที่มาจากความรู้สึกของ กมธ.เสียงข้างมาก ไฉนจึงมีน้ำหนักเหนือบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เป็น“กฎหมายสูงสุด”ไปได้ .. ก็ กรธ.ของ มีชัย ฤชุพันธุ์ เขียนเรื่องคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระไว้แบบ “สเปกเทพ”เพื่อเป็นบรรทัดฐาน ให้ได้ผู้ที่เหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่ .. แต่ กมธ.เสียงข้างมาก ที่งานนี้คุมเกมโดย “บิ๊กป๊อด”พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย“บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่คสช. ที่ว่ากันว่าในชั้น กมธ. “บิ๊กป๊อด”ไม่ค่อยได้เข้าประชุมด้วยซ้ำ เพราะต้องหลบหน้า “อ.วิชา”ที่เป็นโจทก์เก่านั่นเอง .. แต่จนแล้วจนรอด ด้วยอิทธิพลของ“บิ๊กคสช.”ก็ทำให้ กมธ.เสียงข้างมาก ที่เต็มไปด้วยนายตำรวจ และทหาร ทั้งอดีตและปัจจุบัน เห็นชอบเออออไปกับ“ใบสั่ง”ที่ยัดไส้เข้ามาด้วย .. โดยไม่สนใจว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไร .. เมื่อสนช.โหวตวาระ 3 เสร็จในวันนี้ ก็จะเป็นเสมือน“ของขวัญคริสมาสต์”ให้กับ 7 ป.ป.ช. ที่มีคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญ อย่างชัดเจน ได้ไปต่ออีกตามวาระ .. โดยเฉพาะรายของ“บิ๊กกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. ที่ลาออกจากเลขาฯ“บิ๊กป้อม”ก่อนไปสมัครเป็น ป.ป.ช.ได้วันเดียว .. ขณะที่รัฐธรรมนูญกำหนดว่า ต้องพ้นจากตำแหน่งทางการเมืองอย่างน้อย 10 ปี .. นี่แหละหนา ยุคปฏิรูปของคสช. ปฏิรูปจนไม่สนใจว่า ขัดรัฐธรรมนูญน่าเกลียดขนาดไหน .
**ปรากฏการณ์แห่ง “ตูน”ปรากฏการณ์แห่งชาติ!! “ตูน บอดี้สแลม”รับตำแหน่ง “บุคคลแห่งปี”จากทุกสำนักอย่างเต็มภาคภูมิ ปรากฏการณ์ที่“ผู้มีอำนาจ”ควรนำพาไปฉุกคิด มิใช่“หลงไหลได้ปลื้ม-เกาะกระแส”ไปด้วยแค่นั้น
ตำแหน่ง“บุคคลแห่งปี”คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจาก“ตูน บอดี้สแลม”อาทิวราห์ คงมาลัย ที่พักบทบาทจาก“นักร้องซูเปอร์สตาร์” มาสวมบท“นักวิ่ง”กับ “โครงการก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” .. จากใต้สุดของประเทศ อ. เบตง จ.ยะลา ถึงเหนือสุด ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนมาถึงจุดหมายปลายทางได้สำเร็จ ในวันปรวัติศาสตร์ 25 ธ.ค.60 .. รวมระยะทาง 2,191 กม. กับยอดบริจาคเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 700 ล้านบาท ทะยานทะลุเป้าไปไกลพ้น 1 พันล้านบาท แบบสบายๆ .. สะท้อนสิ่งที่ “พี่ตูน”และทีมงานก้าวฯ ทำมาตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าได้ใช้จิตใจ-ความอดทน-พากเพียรก้าวข้าม “คำค่อนขอด-ดูถูกดูแคลน”หรือบ่อยครั้ง ที่ถูกดึงเข้าประเด็นถกเถียงทางการเมือง .. แต่ “พี่ตูน”และทีมงาน ก็ก้มหน้าก้มตาวิ่ง ด้วย“เจตนาอันบริสุทธิ์”สร้างความประทับใจ ให้แก่ผู้คนที่ได้สัมผัสตามสองข้างทาง หรือแม้แต่ที่ติดตามกันผ่านสื่อต่างๆ .. เอาแค่ที่จุดสตาร์ท กับคำถามว่า พื้นที่ชายแดนใต้เป็นพื้นที่สีแดง-พื้นที่อันตราย ก็ได้คำตอบเจือด้วยรอยยิ้มจาก“พี่ตูน”ว่า “ผมเห็นแต่พื้นที่สีชมพู...พื้นที่ที่เต็มไปด้วยความรัก” .. รวมไปถึงหลายครั้งที่สภาพร่างกายของ“พี่ตูน”เกิดประท้วง จากการถูกใช้อย่างหนักเกินขีดจำกัดมนุษย์มนาทั่วไป จนหลายคนมองว่า ไม่น่าจะไหว และเชียร์ให้ล้มเลิกโครงการด้วยซ้ำ แต่เจ้าตัวก็ผ่านมาได้ ด้วยแรงใจที่เกินร้อย ..
“พี่ตูน”ไม่เพียงทำได้ทะลุเป้า จากยอดบริจาคที่เกิน 1 พันล้านบาทเท่านั้น ยังได้ร่วมสร้างบรรยากาศของความสุข-ความประทับใจ ตลอดระยะทาง 2,191 กม. ด้วยรอยยิ้มที่ไม่ได้เสแสร้ง แต่เป็นรอยยิ้มของผู้ให้ที่แท้จริง .. ตลอดจน“แรงบันดาลใจ”ที่เคยใช้ “บทเพลง”เป็นเครื่องมือในการสร้างความ“ฮึกเหิม-กำลังใจ”แต่ครั้งนี้ หันใช้ความทุ่มเทผ่าน“การกระทำ" แทน และดูเหมือนจะได้ผลมากกว่าด้วยซ้ำ .. เหนือสิ่งอื่นใด ต้องไม่ลืมว่า “โครงการก้าวฯ”ของ“หนุ่มตูน”มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมเงินไปสนับสนุน ซื้อเครื่องมือแพทย์ให้แก่โรงพยาบาล 11 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ และเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ .. หลายฝ่ายก็มองว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ หากแต่มองตามหลัก “Social Movement-การขับเคลื่อนทางสังคม”ก็ต้องถือว่าปรสบความสำเร็จ ในแง่การสร้างกระแส .. แต่หากจะสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม“ผู้มีอำนาจ”ไม่ว่ายุคนี้ หรือยุคไหน ต้อง“นำพา”ปรากฏการณ์นี้ไป “ฉุกคิด”มิใช่แค่หลงไหลได้ปลื้ม หรือเอาแต่เกสาะกระแสไปด้วยแค่นั้น แล้วก็ยังใช้เงินภาษีของประชาชนด้วยหลักคิดแบบเดิมๆ .. แต่ไม่ว่าจะมีการนำพาไปต่อยอด หรือไม่ วันนี้ “ตูน บอดี้สแลม - อาทิวราห์ คงมาลัย”ก็ได้เข้าไปอยู่ในใจคนไทยทั้งชาติ กับตำแหน่ง “บุคคลแห่งปี-ขวัญใจมหาชน-บุคคลที่น่าชื่นชมยกย่อง”ที่ยึดหัวหาดจากทุกสำนักอย่างเต็มภาคภูมิ .. สมเป็นปรากฏการณ์แห่ง“ตูน”ปรากฏการณ์แห่งชาติ อย่างแท้จริง.
** นายห้างนาฬิกายังอาย!! เปิดคอลเลกชั่นนาฬิหาหรู “เสี่ยป้อม”9 เรือน ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ถึงเวลาต้องชี้แจงให้สิ้นสงสัย ยิ่งปล่อยไว้คนเขานินทาว่าเป็นอานิสงส์“เงินทอน”จะเสียภาพพจน์ “พี่ชายคนดี”ของ “นายกฯน้องตู่”เอานะ
ยิ่งขุดคุ้ย ยิ่งเปิดกรุ“นาฬิกาหรู”ของ “เสี่ยป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่คสช.ไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งตาร้อนผ่าวๆ .. คนอะไรคาดนาฬิกาไม่เคยซ้ำ ถ้าเป็น“พรีเซนเตอร์-แบรนด์แอมบาสเดอร์”อะไร จะไม่ว่าเลย นี่เป็น“ทหารอาชีพ - นักการเมืองอาชีพ”แล้วแต่ละเรือน ราคาก็ใช่ย่อย แบบที่ “นายห้างนาฬิกา”ไม่กล้าเก็บไว้ในคอลเลกชั่นด้วยซ้ำ .. ล่าสุดมาอีก“นาฬิกาป้อมรายวัน”จากเพจดังเพจเดิม CSI LA กับ เรือนที่ 9 เป็น Rolex Pro Hunter Deepsea Green ..เรือนนี้ “ผู้สันทัดกรณี”บอกว่า เป็นเรือนที่สั่งทำพิเศษกับ“Pro Hunter”ซึ่งเป็นบริษัทที่ตกเเต่ง Rolexราคาไม่ต่ำกว่า 8 เเสนบาทไทยอย่างแน่นอน .. ส่วนเรือนที่ 8 เปิดไปก่อนหน้านั้นเป็น Patek Philippe Annual Calendar Chronograph ระหัส 5960P มูลค่า 95,400 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือราว 3.12 ล้านบาทไทย.. และยังมีที่กำลังโดนสืบเสาะ อีกหลายเรือน .. จนเกรงว่ากว่าจะถึงเส้นตาย ชี้แจงต่อ คณะกรรมการป.ป.ช. ภายใน 30 วัน ที่จะครบเส้นตายในวันที่ 8 ม.ค. 61 จะชี้แจงไม่หมด ตกสำรวจไป ทีนี้ละก็ยุ่งไปกันใหญ่ .. เอาแค่ตอนนี้ 9 เรือน แต่ละเรือนไฮด์เอน หายากทั้งนั้น แบบที่“นายห้างนาฬิกา”ยังต้องอาย .. อันประกอบด้วย Richard Mille 2 เรือน Patek Philippe 2 เรือน Rolex 3 เรือน AUDEMARS PIGUET 1 เรือน และ Omega อีก 1 เรือน .. ราคาเริ่มต้นราวๆ แสนปลายๆ แตะล้านทั้งนั้น เบ็ดเสร็จแล้ว 9 เรือน ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาทไทย .. ครั้นจะไปชี้แจงว่า“ยืมเพื่อน” มาทั้งหมด ก็คงตลกน่าดู แล้วหากป.ป.ช. ของ“ประธานกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ดันไปเชื่ออีก ก็ยุบๆไปเถอะ อย่างที่เคยมีคนว่าไว้ .. ไม่ใช่แค่นาฬิกา มูลค่ามากกว่า 20 ล้านบาท ที่งอกมาแบบไม่เคยชี้แจง ป.ป.ช.มาก่อน ยังมีเงินสดๆ งอกขึ้นมา กว่า 31 ล้านบาท เทียบจากบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นไว้กับ ป.ป.ช. ครั้งล่าสุดปี 2557 ที่มี 87 ล้านบาท กับเมื่อครั้งยื่นบัญชีปี 2555 ที่มีแค่ 56 ล้านบาทเศษ .. แค่ 2 รายการ เงินสด กับนาฬิกาหลายเรือน ถ้าเป็นช่วง “รัฐบาลเลือกตั้ง”นี่ต้องบอกว่า “ตายหยั่งเขียด”ไม่ต้องรอชี้แจงให้เสียเวลา ฟันโช๊ะ ชี้มูลความผิดข้อหา“รวยเกิ๊นนนน”ร่ำรวยผิดปกติได้แล้ว .. หลักฐานคาตาขนาดนี้แล้ว ป.ป.ช.ก็ยังดูชิลล์ๆ ยิ่ง พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการ ป.ป.ช. ออกมาย้ำที่ “ประธานกุ้ย”เคยระบุว่า การยื่นบัญชีทรัพย์สินนั้น ก็กำหนดให้ยื่นแค่ตอนเข้ารับตำแหน่ง และตอนพ้นตำแหน่ง เท่านั้นอีก .. ก็เหมือนสารภาพกลางแดดแล้วว่า อาจมีรายการ “ล้มมวย”..ไม่เท่านั้น “ท่านบุณยวัจน์” ออกตัวให้ท้าย“บิ๊กป้อม”ไปอีกว่า ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว รู้ว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร .. เอาเถอะ ถึงป.ป.ช. จะดูไม่เคลือบแคลงสงสัยกับทรัพย์สินของ “เสี่ยป้อม”แต่เจ้าตัวก็รู้อยู่แก่ใจว่า“ทรัพย์สมบัติ”มีที่มาอย่างไร ได้มาอย่าง “บริสุทธิ์” จากสมบัติเก่า หรือหยิบยืมใครมาก็ว่าไป .. ทำนิ่งๆ แบบนี้ คนเขานินทากันได้ว่า สมบัติพัสฐานต่างๆได้มาจาก“เงินทอน”จะเสียหายภาพพจน์ “พี่ชายคนดี”ของ “นายกฯน้องตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอานะท่าน.
ช.ชฎา
รูป
วิชา มหาคุณ
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ
ตูน บอดี้สแลม
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ