xs
xsm
sm
md
lg

พรปีใหม่ พรจากฟ้า สายใยรักจากในหลวง

เผยแพร่:   โดย: นพ นรนารถ


“ข้าวิงวอนขอพรจากฟ้า
โปรดประทานพรโดยปรานี
ให้บรรดาปวงท่านสุขศรี
ให้ชาวไทยล้วนมีโชคชัย”

“ข้า” ในที่นี้ คือ ข้าพเจ้า สรรพนามบุรุษที่ 1 ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงใช้แทนพระองค์ ในพระราชดำรัส อย่างเป็นทางการ เมื่อย่างเข้าสู่ช่วงรอยต่อของศักราชเก่า และศักราชใหม่ของทุกปี เพลง พรปีใหม่ ที่ขึ้นต้นด้วย “สวัสดี วันปีใหม่ พา...........” ดังขึ้นทุกหนแห่ง เป็นสัญญาณว่า ปีเก่ากำลังจะผ่านพ้นไป ปีใหม่กำลังย่างกรายมาถึง เป็นเสียงที่สื่อถึงความรัก ความห่วงใย ความหวังดี จากในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่มีต่อพสกนิกรทุกคน

ทรงวิงวอนขอพรจากฟ้า ให้ชาวไทยมาทุกปีๆ ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เป็นปีที่ 55 แล้ว

เพลงพรปีใหม่ เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 13 ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2494 เมื่อเสด็จนิวัตพระนครและประทับ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต

พระปรีชาสามารถของพระองค์ท่านในด้านดนตรี เป็นที่ประจักษ์ต่อชาวไทย และชาวโลก ทรงศึกษาการดนตรีตั้งแต่ยังเยาว์วัย ทรงเครื่องดนตรีได้หลายชนิด และทรงแต่งเพลงได้

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2503 มีพระราชดำรัสแก่นักข่าวอเมริกัน ในรายการเสียงแห่งวิทยุอเมริกา ตอนหนึ่ง ว่า

“ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของข้าพเจ้า จะเป็นแจ๊ซหรือไม่ใช่แจ๊ซก็ตาม ดนตรีล้วนอยู่ในตัวทุกคน เป็นส่วนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตคนเรา สำหรับข้าพเจ้า ดนตรีคือสิ่งประณีตงดงาม และทุกคนควรนิยมในคุณค่าของดนตรีทุกประเภท เพราะว่าดนตรีแต่ละประเภทต่างก็มีความเหมาะสมตามแต่โอกาส และอารมณ์ต่างกันออกไป”

ในโอกาสส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานพรปีใหม่แก่บรรดาพสกนิกรชาวไทย จึงได้ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองเพลง พรปีใหม่ขึ้น โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ นิพนธ์คำร้องเป็นคำอวยพรปีใหม่ แล้วพระราชทานแก่วงดนตรี 2 วง คือ วงดนตรีนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำออกบรรเลง ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวงดนตรีสุนทราภรณ์ นำออกบรรเลง ณ ศาลาเฉลิมไทย ในวันปีใหม่ วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2495

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ทรงนิพนธ์เนื้อร้องเป็นคำประพันธ์ 4 บท ที่ใช้คำง่ายๆ แต่ไพเราะและสื่อความหมายได้ชัดเจน ดังเช่นในที่นี้สรรพนามบุรุษที่ 1 คือ “ข้า” หมายถึง “ข้าฯ” หรือ “ข้าพเจ้า” อันเป็นสรรพนามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้แทนพระองค์ในทุกคราวที่มีพระราชดำรัส หรือพระบรมราโชวาทต่อปวงชนชาวไทย

โน้ตเพลงพระราชนิพนธ์พรปีใหม่มีลักษณะไล่ขึ้นลงเหมือนลูกคลื่น ล้อรับกันทั้งท่อน แต่เพื่อมิให้ราบเรียบจนเกินไป ในห้องที่ 4 ต่อห้องที่ 5 จะมีการเน้นเสียง ซึ่งมีผลต่อเนื้อร้องด้วย ดังในวรรค “ให้บรรดาเราท่านรื่นรมย์” ตรงตำแหน่งคำว่า “รื่นรมย์” มีการเน้นเสียงที่ต่อเนื่องให้ลากสูงขึ้นอีก 3 เสียง ซึ่งนอกจากจะทำให้ทำนองเพลงไพเราะแล้ว ยังทำให้เสียงคำว่า “รื่นรมย์” สื่ออารมณ์ของความสุขได้มากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับสรรพนามบุรุษที่ 2 พหูพจน์คือ “ปวงท่าน” ซึ่งมักทรงใช้กับปวงชนชาวไทยเสมอ วลีที่สนับสนุนให้ชัดก็คือ “ผองชาวไทย” ซึ่งครอบคลุมปวงประชาของพระองค์

ทำนอง เนื้อเพลงที่ไพเราะเรียบง่ายของเพลง พรปีใหม่ สื่อความหมายที่หนักแน่นถึงสายใยแห่งความรักและความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีต่อพสกนิกรไทยทั้งมวล เป็นความแนบแน่นระหว่างพระราชากับราษฎร

เมื่อก่อน เพลงพรปีใหม่ คือ เพลงพระราชนิพน์เพลงหนึ่ง บัดนี้เมื่อพระองค์ท่านไม่อยู่แล้ว เสียงเพลงพรปีใหม่ที่ดังขึ้นตรงโน้น ตรงนี้ บอกเราว่า พระองค์ท่านยังอยู่ ท่านมาแล้ว มาขอพรจากฟ้า ให้บรรดาเราท่านรื่นรมย์ ในปีใหม่ที่จะมาถึง

สวัสดีวันปีใหม่พา
ฤกษ์ยามดีเปรมปรีดิ์ชื่นชม
ข้าวิงวอนขอพรจากฟ้า
โปรดประทานพรโดยปรานี
ให้บรรดาปวงท่านสุขสันต์
ให้รุ่งเรืองในวันปีใหม่
ตลอดปีจงมีสุขใจ
ให้สิ้นทุกข์สุขเกษมเปรมปรีดิ์
ให้บรรดาเราท่านรื่นรมย์
ต่างสุขสมนิยมยินดี
ให้บรรดาปวงท่านสุขศรี
ให้ชาวไทยล้วนมีโชคชัย
ทุกวันทุกคืนชื่นชมให้สมฤทัย
ผองชาวไทยจงสวัสดี
ตลอดไปนับแต่บัดนี้
สวัสดีวันปีใหม่เทอญ.

กำลังโหลดความคิดเห็น