ชุมพร - ตร.นำตัวหนุ่มการไฟฟ้าอำมหิต บุกยิงว่าที่เจ้าสาวดับคาห้องนอน อ้างหวังขโมยเงินสินสอดที่ฝ่ายหญิงออกให้เฉียดล้านไปปรนเปรอกิ๊กใหม่ แต่ตื่นมาเจอเลยต้องฆ่าปิดปาก โดยมีกิ๊กสาวขับรถมาส่งจอดรอแล้วพาหลบหนี พี่ชายผู้ตายเผยสนิทสนมกับครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก ช่วยส่งเสียจนเรียนจบ พาสอบเข้าทำงาน แฉอีกเงินในบัญชี 7 แสน ถูกถอน 1 วันก่อนเกิดเหตุ
จากกรณีคนร้ายใช้ปืนลูกซองบุกยิง น.ส.นนทิญา ครัวจัตุรัส หรือ “หมอปอ” อายุ 25 ปี เจ้าพนักงานทันตกรรมสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สลุย ว่าที่เจ้าสาวที่กำลังจะแต่งงานในอีก 5 วัน ตายคาห้องนอนชั้นสองบนบ้านพักข้าราชการ ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบางส่วน และเค้นสอบแฟนหนุ่มว่าที่เจ้าบ่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จนสารภาพสิ้นว่ามีกิ๊กคนใหม่และไม่อยากแต่งงานด้วย จึงวางแผนหวังขโมยเงินสินสอดเฉียดล้านที่ฝ่ายหญิงออกให้ทั้งหมดแต่เจ้าสาวตื่นมาเจอเลยฆ่าปิดปาก
วานนี้ ( 20 ธ.ค.) พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.อ.พุฒิพงษ์ พานิชศิลป์ ผกก.สภ.สลุย ได้ควบคุมตัว นายนายรณชัย ปานชาติ หรือ เก่ง อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอหลังสวน มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และชี้จุดก่อเหตุใช้ปืนลูกซองสั้นยิง น.ส.นนทิญา ในห้องนอนชั้นสอง บ้านพักข้าราชการ ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นายนายรณชัย ผู้ต้องหาทำแผนตามขั้นตอนการรับสารภาพ โดยเริ่มตั้งแต่ให้ นางสาวกิ๊ก นามสมมุติ อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าซึ่งเป็นกิ๊กสาวคนสนิททำงานอยู่ที่เดียวกันขับรถเก๋งซูซุกิ สวิฟท์ สีขาว ทะเบียน 4 กจ 5648 กรุงเทพมหานคร มาส่งโดยจอดเยื้องกับ รพ.สต.สลุย เมื่อช่วงเวลาเกือบเที่ยงของคืนวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินเลียบป่าละเมาะด้านข้างโรงพยาบาลเข้าไปที่บ้านพักของ น.ส.นนทิญา รื้อคนทรัพย์สิน จนผู้ตายตกใจตื่นทำให้นายรณชัยตกใจ และใช้ปืนลูกซองจ่อยิงเข้าที่หน้าท้อง น.ส.นนทิญา จนล้มทรุดตายจมกองเลือด จึงได้วิ่งหนีออกไปทางประตูหลังบ้านและได้โทรศัพท์ให้นางสาวกิ๊กคนสนิทขับรถเก๋งมารับพาหลบหนีไป
พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 กล่าวว่า จากคำรับสารภาพของนายรณชัยผู้ต้องหาอ้างว่าอำพรางตัวเข้าไปเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ซึ่งเป็นเงินที่ฝ่ายเจ้าสาวเตรียมไว้เป็นค่าใช้จ่ายและค่าสินสอดให้เจ้าบ่าว แต่ผู้ต้องหาบอกไม่เจอทรัพย์สินแต่อย่างใด แต่ที่ต้องยิงเพราะด้วยความตกใจที่ฝ่ายผู้ตายตื่นมาเห็นเข้าพอดี
แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ปักใจเชื่อมากนัก เพราะจากการรับสารภาพผู้ต้องหาเองก็ไม่อยากจะแต่งงานกับฝ่ายหญิงอีกแล้วเนื่องจากปัจจัยหลายประการ ส่วนผู้เป็นกิ๊กสาวจะมีส่วนร่วมรู้เห็นหรือไม่ซึ่งต้องรอผลสอบสวนและหาหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะแจ้งข้อกล่าวหาภายหลัง แต่เบื้องต้นได้กันตัวไว้เป็นพยานก่อน
ด้านนายบำรุง ครัวจัตุรัส พี่ชายผู้ตาย กล่าวว่า นายรณชัยผู้ต้องหานั้น ครอบครัวตนรักเอ็นดูมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากมีฐานะไม่ค่อยดี ครอบครัวตนคอยส่งเสียช่วยเหลือมาตลอด จนกระทั่งเรียนจบพาไปสอบและบรรจุเข้าทำงานที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งได้สนิทสนมกับ ผู้ตายมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมศึกษา จนเป็นแฟนกันกระทั่งแจกการ์ดจะแต่งงานกันอีกไม่กี่วันนี้ โดยค่าสินสอดทั้งหมด 4 แสนบาท ทอง 10 บาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งหมดน้องสาวตนเป็นผู้ออกให้ทั้งสิ้น
จากการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ตายตอนนี้เงินในบัญชีถูกถอนออกไปเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2560 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุจำนวนรวมแล้วกว่า 7 แสนบาท ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเงินจำนวนนี้หายไปไหน แต่คำรับสารภาพของผู้ต้องหาที่ประสงค์ต่อทรัพย์นั้น ตนคิดว่าไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่เรื่องจริงคือนายรณชัยได้มีการเตรียมการหวังจะฆ่าน้องตนให้ตายอยู่แล้ว ส่วนเงินทรัพย์สินนั้นเป็นผลพลอยได้ที่ผู้ต้องหารู้อยู่ ซึ่งหลังเสร็จงานศพตนจะนำข้อมูลทั้งหมดไปมอบให้กับตำรวจเพื่อใช้เป็นหลักฐานต่อไป
จากกรณีคนร้ายใช้ปืนลูกซองบุกยิง น.ส.นนทิญา ครัวจัตุรัส หรือ “หมอปอ” อายุ 25 ปี เจ้าพนักงานทันตกรรมสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สลุย ว่าที่เจ้าสาวที่กำลังจะแต่งงานในอีก 5 วัน ตายคาห้องนอนชั้นสองบนบ้านพักข้าราชการ ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบางส่วน และเค้นสอบแฟนหนุ่มว่าที่เจ้าบ่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จนสารภาพสิ้นว่ามีกิ๊กคนใหม่และไม่อยากแต่งงานด้วย จึงวางแผนหวังขโมยเงินสินสอดเฉียดล้านที่ฝ่ายหญิงออกให้ทั้งหมดแต่เจ้าสาวตื่นมาเจอเลยฆ่าปิดปาก
วานนี้ ( 20 ธ.ค.) พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.อ.พุฒิพงษ์ พานิชศิลป์ ผกก.สภ.สลุย ได้ควบคุมตัว นายนายรณชัย ปานชาติ หรือ เก่ง อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอหลังสวน มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และชี้จุดก่อเหตุใช้ปืนลูกซองสั้นยิง น.ส.นนทิญา ในห้องนอนชั้นสอง บ้านพักข้าราชการ ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นายนายรณชัย ผู้ต้องหาทำแผนตามขั้นตอนการรับสารภาพ โดยเริ่มตั้งแต่ให้ นางสาวกิ๊ก นามสมมุติ อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าซึ่งเป็นกิ๊กสาวคนสนิททำงานอยู่ที่เดียวกันขับรถเก๋งซูซุกิ สวิฟท์ สีขาว ทะเบียน 4 กจ 5648 กรุงเทพมหานคร มาส่งโดยจอดเยื้องกับ รพ.สต.สลุย เมื่อช่วงเวลาเกือบเที่ยงของคืนวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินเลียบป่าละเมาะด้านข้างโรงพยาบาลเข้าไปที่บ้านพักของ น.ส.นนทิญา รื้อคนทรัพย์สิน จนผู้ตายตกใจตื่นทำให้นายรณชัยตกใจ และใช้ปืนลูกซองจ่อยิงเข้าที่หน้าท้อง น.ส.นนทิญา จนล้มทรุดตายจมกองเลือด จึงได้วิ่งหนีออกไปทางประตูหลังบ้านและได้โทรศัพท์ให้นางสาวกิ๊กคนสนิทขับรถเก๋งมารับพาหลบหนีไป
พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 กล่าวว่า จากคำรับสารภาพของนายรณชัยผู้ต้องหาอ้างว่าอำพรางตัวเข้าไปเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ซึ่งเป็นเงินที่ฝ่ายเจ้าสาวเตรียมไว้เป็นค่าใช้จ่ายและค่าสินสอดให้เจ้าบ่าว แต่ผู้ต้องหาบอกไม่เจอทรัพย์สินแต่อย่างใด แต่ที่ต้องยิงเพราะด้วยความตกใจที่ฝ่ายผู้ตายตื่นมาเห็นเข้าพอดี
แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ปักใจเชื่อมากนัก เพราะจากการรับสารภาพผู้ต้องหาเองก็ไม่อยากจะแต่งงานกับฝ่ายหญิงอีกแล้วเนื่องจากปัจจัยหลายประการ ส่วนผู้เป็นกิ๊กสาวจะมีส่วนร่วมรู้เห็นหรือไม่ซึ่งต้องรอผลสอบสวนและหาหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะแจ้งข้อกล่าวหาภายหลัง แต่เบื้องต้นได้กันตัวไว้เป็นพยานก่อน
ด้านนายบำรุง ครัวจัตุรัส พี่ชายผู้ตาย กล่าวว่า นายรณชัยผู้ต้องหานั้น ครอบครัวตนรักเอ็นดูมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากมีฐานะไม่ค่อยดี ครอบครัวตนคอยส่งเสียช่วยเหลือมาตลอด จนกระทั่งเรียนจบพาไปสอบและบรรจุเข้าทำงานที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งได้สนิทสนมกับ ผู้ตายมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมศึกษา จนเป็นแฟนกันกระทั่งแจกการ์ดจะแต่งงานกันอีกไม่กี่วันนี้ โดยค่าสินสอดทั้งหมด 4 แสนบาท ทอง 10 บาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งหมดน้องสาวตนเป็นผู้ออกให้ทั้งสิ้น
จากการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ตายตอนนี้เงินในบัญชีถูกถอนออกไปเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2560 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุจำนวนรวมแล้วกว่า 7 แสนบาท ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเงินจำนวนนี้หายไปไหน แต่คำรับสารภาพของผู้ต้องหาที่ประสงค์ต่อทรัพย์นั้น ตนคิดว่าไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่เรื่องจริงคือนายรณชัยได้มีการเตรียมการหวังจะฆ่าน้องตนให้ตายอยู่แล้ว ส่วนเงินทรัพย์สินนั้นเป็นผลพลอยได้ที่ผู้ต้องหารู้อยู่ ซึ่งหลังเสร็จงานศพตนจะนำข้อมูลทั้งหมดไปมอบให้กับตำรวจเพื่อใช้เป็นหลักฐานต่อไป