ผู้จัดการรายวัน360 - "บิ๊กตู่"ยันไม่ปกป้อง"บิ๊กป้อม" บอกเป็นเรื่องส่วนตัวที่ต้องชี้แจงต่อป.ป.ช.เอง โชว์ชีวิตพอเพียงใส่นาฬิกาไซโก พร้อมรับประกันทุกเรือนแจ้งบัญชีทรัพย์สินหมดแล้ว โผล่อีก! นาฬิกาหรู “บิ๊กป้อม” Patek Philippe เรือนละ 1.5-1.66 ล้านบาท ด้าน คสช. เคาะใช้ ม.44 แก้ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ขยายเวลาเดินงานธุรการพรรค ย้ำทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแมปเดิม ปัดเอี่ยวพรรคทหาร ถาม"สมคิด"แล้ว ก็ส่ายหัว จวกนักการเมืองบิดเบือน หวังให้คนเกลียดทหาร "มาร์ค"อัด คสช. ลบล้างสิ่งที่ทำมากับมือ จี้แจงให้ชัดเป้าหมายสุดท้ายคืออะไร ปฏิรูป หรือผลประโยชน์ "มีชัย" แย้มรีเซตสมาชิกพรรค
วานนี้ (19 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวภายหลังการประชุมครม. ถึงกระแสกดดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในเรื่องใส่นาฬิกาหรู แต่ไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สิน ว่า เป็นเรื่องของหน่วยงานที่รับผิดชอบคือ คณะกรรมการ ป.ป.ช. และเป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.ประวิตร ที่ต้องดำเนินการด้วยตัวท่านเอง ไม่มีใครไปดูแล หรือปกป้องได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ สวมนาฬิกายี่ห้อใด ขอให้โชว์ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า "ทำไมต้องโชว์ ก็ใส่อยู่ทุกวัน" จากนั้นนายกฯได้ยกมือข้างซ้ายโชว์นาฬิกาอย่างรวดเร็ว พร้อมกล่าวว่า "ขอร้องอย่าให้เป็นประเด็นเลย ผมก็รู้ว่าควรจะเอายังไง ก็เป็นนาฬิกายี่ห้อไซโก ใส่แล้วโก้ไหม เด็กๆ ผมก็ใส่ไซโก ใส่อะไรก็เหมือนกันทั้งนั้น วันข้างหน้าเอาอย่างนี้หรือไม่ ห้อยนาฬิกาปลุกไว้ที่คอ แล้วค่อยว่ากัน"
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวคะยั้นคะยอให้นายกรัฐมนตรี โชว์นาฬิกาข้อมืออีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธ พร้อมระบุว่า ไม่เอาแล้ว ไม่ใส่เกินราคาหรอก ผมมีนาฬิกาหลายเรือน ซึ่งได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินไปกับป.ป.ช.ทั้งหมดแล้ว รับรองว่าไม่ผิดกฎหมายแน่
*** โผล่อีก Patek Philippe เรือนละ 1.5 ล้าน
ล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ CSI LA ได้เผยภาพนาฬิกายี่ห้อ Patek Philippe รุ่น 5960/1A ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สวมใส่ ซึ่งราคาอยู่ที่ 1.5-1.66 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นเรือนที่ 4 ที่พล.อ.ประวิตรสวมใส่ขณะเดินทางไปเป็นประธานพิธีเปิดงาน “ตลาดนัดคลองผดุงวันที่ 2 พฤษภาคม 2559
*** แจงปรับทีมประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการแบ่งการทำงานเพื่อปรับภาพลักษณ์การประชาสัมพันธ์ข่าวของรัฐบาล โดยดึงนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี มาช่วยดูว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะดี หรือไม่ดี และยังไม่รู้ว่าจะทำให้ดีขึ้นหรือเปล่า เพียงแต่ว่า วิธีการนำเสนอจะต้องมีการปรับปรุง และปรับแก้ใหม่ทั้งหมด ว่าทำอย่างไรจึงจะสามารถอธิบายได้ว่า นโยบายต่างๆ ที่ระบุว่าดีขึ้นนั้น มีผลกระทบอะไร หรือสร้างอะไรให้กับประเทศ เช่น เรื่องพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ คำอธิบายจำเป็นต้องมากขึ้นกว่าเดิม ไม่เช่นนั้นบางครั้งอาจถูกคนนำไปพาดพิง บิดเบือน
*** คสช.เตรียมงัดม.44 แก้กม.พรรคการเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่ หลายพรรคหลายกลุ่มการเมือง ได้ทำหนังสือมาถึง คสช. รัฐบาล คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้หาวิธีการแก้ปัญหา เรื่อง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่กำหนดระยะเวลาให้พรรคการเมือง ดำเนินงานเรื่องธุรการให้แล้วเสร็จตามที่กำหนด ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องหาวิธีการ ที่ประชุม คสช. จึงมีความคิดว่าในขั้นต้น อาจต้องใช้ ม. 44 ในการแก้ปัญหานี้ เพื่อขยายเวลาที่บังคับไว้ใน กม.พรรคการเมือง ฉะนั้นไม่ต้องกังวล ทั้งประชาชน พรรคการเมืองเก่า พรรคการเมืองใหม่ ยังมีโอกาสที่จะดำเนินการทางธุรการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมาชิกพรรค หรือเรื่องอะไรต่างๆ ให้เกิดความเป็นธรรม
"ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามโรดแมปเดิมที่เขียนไว้ว่า เมื่อไรที่กฎหมายลูก ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งมีผล ก็ต้องเดินไปสู่การเลือกตั้ง และวันนี้ทุกอย่างก็ยังเป็นไปตามขั้นตอนนี้อยู่ แม้จะมีกม.พรรคการเมือง แต่กม.เลือกตั้ง ยังไม่เสร็จ ยังไงก็ยังเลือกไม่ได้อยู่ดี แต่เราต้องปลดล็อกตรงนี้ให้เขา ใช้คำว่าเป็นมาตรการเพื่อให้การดำเนินการทางการเมือง สามารถดำเนินการได้” นายกฯ กล่าว
***บิ๊กตู่ตีมึนไม่รู้พรรคทหารคืออะไร
เมื่อถามถึง กระแสข่าวการตั้งพรรคประชารัฐ ที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกสมัยนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงต้องไปถามคนพูด ตนไม่ได้พูดสักคำ พรรคทหาร คืออะไร ตนยังไม่รู้ หลายคนบอกว่าเป็นพรรคแบบเดิม อะไรต่างๆโดยมีทหาร แต่ตนยังไม่เห็นมีทหารที่ไหนมาตั้งพรรคการเมืองให้กับตน ถ้าเขาไปตั้งของเขาเอง ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ไม่เกี่ยวกับตน ฉะนั้น คงไม่มีใครไปตั้งพรรคทหาร ก็รู้อยู่ว่าตั้งมาแล้วก็คือปัญหา มันไม่เคยสำเร็จสักที จะไปตั้งให้มันเมื่อยทำไม ทุกคนพยายามจะสร้างกระแสให้ได้ว่า จะมีพรรคทหารให้คนรังเกียจ ต้องไปดูจุดมุ่งหมายที่เขาพูดกันเพื่ออะไร”
ส่วนกระแสข่าวให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เป็นหัวหน้าพรรคทหาร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็ถามนายสมคิด ว่าไปตั้งพรรคทหารหรือ นายสมคิด บอกว่าไม่ได้ตั้ง และการจะสนับสนุนให้นายกฯ อยู่ต่อ มันจะอยู่ต่ออย่างไร ตนก็ยังไม่รู้ ขึ้นอยู่กับว่าอยู่ต่อ ไม่อยู่ต่อ รัฐธรรมนูญเขียนไว้เรื่องนายกฯ คนนอก ซึ่งยังไปไม่ถึงตรงนั้น
สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. ที่นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ออกมาเรียกร้องให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของท่าน รวมถึงการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ก็เป็นความคิดของท่าน ก็แล้วแต่ประชาชนจะว่าอย่างไร ส่วนกรณีที่ โหรวารินทร์ออกมาทำนายว่า ปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง และพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกฯ ต่อไปนั้น ก็โหร สื่อเข้าใจคำว่า โหรหรือไม่ โหรก็คือโหร ก็ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ก็คือโหรเป็นสถิติทางโหราศาสตร์
***มาร์คอัดคสช.เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า อาจต้องใช้มาตรา 44 แก้ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า การที่รธน. วางเงื่อนไขไว้ทั้งหมดนั้น ตอนทำทั้งคสช. รัฐบาล และ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็บอกว่า ต้องทำแบบนี้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การปฏิรูป และต้องมีการรับฟังความคิดเห็นต่างๆ แต่ถ้าหากจะใช้อำนาจพิเศษมาลบล้างตรงนี้ ก็ต้องตอบคำถามว่า ตกลงเรื่องการปฏิรูปที่เคยพูดไว้ทั้งหมด คืออะไร เพราะที่บอกว่าตอนนี้อะไรๆ เป็นอุปสรรคหมด ไม่ได้มาจากคนอื่น เพราะ รธน.พวกท่านก็เป็นฝ่ายเขียนเอง แล้วประชาชนก็รับรองไปแล้ว กม.ลูกก็ต้องอยู่ในกรอบของ รธน. ทำโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และ สนช. เงื่อนเวลาก็กำหนโดย กรธ.และ สนช. ปัญหาที่จะไม่เกิดขึ้นตามเงื่อนเวลา ก็เกิดขึ้นจากคสช. ซึ่งไปออกคำสั่ง แล้วขัดแย้งกับตัวกม.
"ฉะนั้นถ้าจะใช้อะไรพิเศษอีก เพื่อลบล้างสิ่งที่ตัวเองทำ ก็ต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนว่า สรุปแล้วเป้าหมายสุดท้าย คืออะไร และในที่สุดจะเป็นตัวพิสูจน์ว่า สิ่งที่ทำทั้งหมดเป็นเรื่องของการปฏิรูประบบ หรือจะเป็นเรื่องของผลประโยชน์"
**บี้"บิ๊กตู่"พูดให้ชัดจะเล่นการเมืองหรือไม่
“กรณีการตั้งพรรคทหาร หรือพรรคการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ให้เป็นนายกฯต่อไปนั้น ผมอยากให้นายกฯพูดให้ชัด แบบนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ และนายสถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธ์ ที่พูดออกมาแล้วและคิดว่าวันหน้าทั้งสองคนนี้คงไม่กลับคำพูด ทั้งนี้หากพล.อ.ประยุทธ์จะลงเล่นการเมืองต่อ ก็ยินดีต้อนรับ แต่ขอให้ระบุให้ชัดแบบแมนๆ อย่างที่ถามประชาชน 6 ข้อล่าสุดของท่านนั้น ผมก็อยากทราบว่าเป็นการถามเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมหรือส่วนตัว" นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
** "สมชัย"อัด 2 นักปฏิรูปจอมปลอม
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวถึง กรณีรัฐบาลเตรียมใช้ ม.44 แก้ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ว่า พ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่มีผลบังคับใช้เมื่อ 8 ต.ค.60 เป็นการออกแบบระบบพรรคการเมืองใหม่ เพื่อให้พรรคมีความเข้มแข็ง เป็นสถาบัน มีรากฐานจากประชาชน และป้องกันการแทรกแซงจากนายทุนพรรค หลายข้อกำหนดใน พ.ร.ป.ดังกล่าว จึงมีขึ้นเพื่อตอบโจทย์ที่กำหนดมา
"มาวันนี้ ผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองท่านหนึ่งผู้ชูธงปฏิรูปก่อนเลือกตั้งมาตลอด และผู้เตรียมการจัดตั้งพรรคที่ประกาศจะสนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเป็นนายกฯต่อ อีกท่านหนึ่ง กลับเรียกร้องให้มีการแก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมือง โดยมีสาระ คือ ยกเลิกสาขาพรรค ยกเลิกไพรมารีโหวต เรียกร้องให้รีเซตสมาชิกของพรรคการเมืองเดิม ทำให้พรรคที่มีความเข้มแข็ง กลายเป็นพรรคที่อ่อนแอต้องเริ่มต้นใหม่ โดยอ้างความเท่าเทียม ไปไกลขนาดเสนอให้ นายกรัฐมนตรีในฐานะ หัวหน้า คสช.ใช้ ม.44 แก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมือง โดยเอาประเด็นกรอบเวลาที่เป็นข้อจำกัดของพรรคการเมืองว่าทำไม่ทัน เป็นตัวเริ่ม และลามไปยังประเด็นอื่นๆ โดยลืมสิ้นถึงหลักการปฏิรูปที่เคยพูดไว้ในอดีต" นายสมชัย กล่าว
** "มีชัย"แย้มรีเซ็ตสมาชิกพรรค
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึง ข้อเสนอให้แก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อรีเซตสมาชิกพรรค และ งดเว้นไพรมารีโหวต ในการเลือกตั้งครั้งแรกว่า เรื่องสมาชิกพรรค กรธ.ทำในตอนนั้น มันควรเป็นแบบนั้น ใครเป็นสมาชิกจ่ายค่าบำรุงแล้วก็เป็นตามเดิม แต่พอเวลาผ่านไป ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ด้วยเงื่อนไขของสมาชิกที่มันเข้มข้นขึ้น อาจเกิดปัญหาว่า รายชื่อสมาชิกของแต่ละพรรค เป็นของจริงหรือไม่ หรือแค่กรอกๆ กันมา จึงต้องตรวจสอบทะเบียนว่า ตรงกันหรือไม่ ส่วนเรื่องงดเว้นไพรมารี นั้น ไม่ทราบ การเขียนกฎหมายไม่ว่าจะวางหลักเกณฑ์ หรือข้อยกเว้นอะไรไว้ สามารถทำได้ แต่ต้องมีเหตุผล ส่วนตัวมองว่าไพรมารีโหวต ก็ได้เปรียบเสียเปรียบกันทั้งพรรคเล็กพรรคใหญ่ พรรคใหญ่ส่งเลือกตั้งครบทุกเขต ก็ต้องไพรมารีทุกจังหวัด แต่พรรคเล็ก ส่งไม่ครบ ก็ทำไพรมารีแค่บางจังหวัด ส่วนวิธีการ ก็ขึ้นกับแต่ละพรรคจะไปออกแบบให้เหมาะกับพรรคตนเอง
***อวยพรปีใหม่ให้คนไทยมีความหวัง
ในช่วงท้ายพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอวยพรเนื่องในเทศกาลปีใหม่ ว่า "สวัสดีปีใหม่ ปีใหม่นี้ขอให้เป็นปีขอให้คนไทยทุกคนมีความหวัง มีส่วนร่วมในอนาคตซึ่งกันและกัน ถือเป็นความหนึ่งเดียวของคนไทยของประเทศ ถือเป็นเป้าหมายหลักของคนไทยทุกคน เพื่อความสุขที่ยั่งยืน ขอให้ทุกคนมีอาชีพ มีรายได้มีเงินทองที่พอเหมาะพอควร มีความเหมาะสมในการดำรงชีวิต เป็นสิ่งที่รัฐบาลคาดหวัง และเชื่อว่าเป็นความคาดหวังของประชาชนทั้งประเทศเช่นกัน สิ่งที่ผมอยากฝากในวันนี้คือ แนวพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ที่ทรงรับสั่งว่า ให้ทำแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาดำรงชีวิตในเรื่องของความพอเพียง ซึ่งความพอเพียงแต่ละคน ไม่เท่ากัน เพราะภาระ อาชีพ ไม่เท่ากัน เราจึงต้องทำให้ทุกอาชีพมารายได้ที่เพียงพอ และทุกคนควรทำความดีให้มากยิ่งขึ้น สร้างความสงบให้มากยิ่งขึ้น เวทีก็จะเปิดกว้าง ถ้ายังขัดแย้งกันมากๆ อะไรก็เข้ามาไม่ได้ ทุกคนจึงต้องมีส่วนทำความดีไม่เฉพาะแค่ปีใหม่เท่านั้น ต้องทำดีทุกวัน อยากจะบอกว่า ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจเรา สำหรับคนที่ยังไม่เข้าใจเราก็จะพยายามทำให้มากยิ่งขึ้น "
วานนี้ (19 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวภายหลังการประชุมครม. ถึงกระแสกดดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในเรื่องใส่นาฬิกาหรู แต่ไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สิน ว่า เป็นเรื่องของหน่วยงานที่รับผิดชอบคือ คณะกรรมการ ป.ป.ช. และเป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.ประวิตร ที่ต้องดำเนินการด้วยตัวท่านเอง ไม่มีใครไปดูแล หรือปกป้องได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ สวมนาฬิกายี่ห้อใด ขอให้โชว์ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า "ทำไมต้องโชว์ ก็ใส่อยู่ทุกวัน" จากนั้นนายกฯได้ยกมือข้างซ้ายโชว์นาฬิกาอย่างรวดเร็ว พร้อมกล่าวว่า "ขอร้องอย่าให้เป็นประเด็นเลย ผมก็รู้ว่าควรจะเอายังไง ก็เป็นนาฬิกายี่ห้อไซโก ใส่แล้วโก้ไหม เด็กๆ ผมก็ใส่ไซโก ใส่อะไรก็เหมือนกันทั้งนั้น วันข้างหน้าเอาอย่างนี้หรือไม่ ห้อยนาฬิกาปลุกไว้ที่คอ แล้วค่อยว่ากัน"
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวคะยั้นคะยอให้นายกรัฐมนตรี โชว์นาฬิกาข้อมืออีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธ พร้อมระบุว่า ไม่เอาแล้ว ไม่ใส่เกินราคาหรอก ผมมีนาฬิกาหลายเรือน ซึ่งได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินไปกับป.ป.ช.ทั้งหมดแล้ว รับรองว่าไม่ผิดกฎหมายแน่
*** โผล่อีก Patek Philippe เรือนละ 1.5 ล้าน
ล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ CSI LA ได้เผยภาพนาฬิกายี่ห้อ Patek Philippe รุ่น 5960/1A ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สวมใส่ ซึ่งราคาอยู่ที่ 1.5-1.66 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นเรือนที่ 4 ที่พล.อ.ประวิตรสวมใส่ขณะเดินทางไปเป็นประธานพิธีเปิดงาน “ตลาดนัดคลองผดุงวันที่ 2 พฤษภาคม 2559
*** แจงปรับทีมประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการแบ่งการทำงานเพื่อปรับภาพลักษณ์การประชาสัมพันธ์ข่าวของรัฐบาล โดยดึงนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี มาช่วยดูว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะดี หรือไม่ดี และยังไม่รู้ว่าจะทำให้ดีขึ้นหรือเปล่า เพียงแต่ว่า วิธีการนำเสนอจะต้องมีการปรับปรุง และปรับแก้ใหม่ทั้งหมด ว่าทำอย่างไรจึงจะสามารถอธิบายได้ว่า นโยบายต่างๆ ที่ระบุว่าดีขึ้นนั้น มีผลกระทบอะไร หรือสร้างอะไรให้กับประเทศ เช่น เรื่องพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ คำอธิบายจำเป็นต้องมากขึ้นกว่าเดิม ไม่เช่นนั้นบางครั้งอาจถูกคนนำไปพาดพิง บิดเบือน
*** คสช.เตรียมงัดม.44 แก้กม.พรรคการเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่ หลายพรรคหลายกลุ่มการเมือง ได้ทำหนังสือมาถึง คสช. รัฐบาล คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้หาวิธีการแก้ปัญหา เรื่อง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่กำหนดระยะเวลาให้พรรคการเมือง ดำเนินงานเรื่องธุรการให้แล้วเสร็จตามที่กำหนด ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องหาวิธีการ ที่ประชุม คสช. จึงมีความคิดว่าในขั้นต้น อาจต้องใช้ ม. 44 ในการแก้ปัญหานี้ เพื่อขยายเวลาที่บังคับไว้ใน กม.พรรคการเมือง ฉะนั้นไม่ต้องกังวล ทั้งประชาชน พรรคการเมืองเก่า พรรคการเมืองใหม่ ยังมีโอกาสที่จะดำเนินการทางธุรการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมาชิกพรรค หรือเรื่องอะไรต่างๆ ให้เกิดความเป็นธรรม
"ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามโรดแมปเดิมที่เขียนไว้ว่า เมื่อไรที่กฎหมายลูก ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งมีผล ก็ต้องเดินไปสู่การเลือกตั้ง และวันนี้ทุกอย่างก็ยังเป็นไปตามขั้นตอนนี้อยู่ แม้จะมีกม.พรรคการเมือง แต่กม.เลือกตั้ง ยังไม่เสร็จ ยังไงก็ยังเลือกไม่ได้อยู่ดี แต่เราต้องปลดล็อกตรงนี้ให้เขา ใช้คำว่าเป็นมาตรการเพื่อให้การดำเนินการทางการเมือง สามารถดำเนินการได้” นายกฯ กล่าว
***บิ๊กตู่ตีมึนไม่รู้พรรคทหารคืออะไร
เมื่อถามถึง กระแสข่าวการตั้งพรรคประชารัฐ ที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกสมัยนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงต้องไปถามคนพูด ตนไม่ได้พูดสักคำ พรรคทหาร คืออะไร ตนยังไม่รู้ หลายคนบอกว่าเป็นพรรคแบบเดิม อะไรต่างๆโดยมีทหาร แต่ตนยังไม่เห็นมีทหารที่ไหนมาตั้งพรรคการเมืองให้กับตน ถ้าเขาไปตั้งของเขาเอง ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ไม่เกี่ยวกับตน ฉะนั้น คงไม่มีใครไปตั้งพรรคทหาร ก็รู้อยู่ว่าตั้งมาแล้วก็คือปัญหา มันไม่เคยสำเร็จสักที จะไปตั้งให้มันเมื่อยทำไม ทุกคนพยายามจะสร้างกระแสให้ได้ว่า จะมีพรรคทหารให้คนรังเกียจ ต้องไปดูจุดมุ่งหมายที่เขาพูดกันเพื่ออะไร”
ส่วนกระแสข่าวให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เป็นหัวหน้าพรรคทหาร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็ถามนายสมคิด ว่าไปตั้งพรรคทหารหรือ นายสมคิด บอกว่าไม่ได้ตั้ง และการจะสนับสนุนให้นายกฯ อยู่ต่อ มันจะอยู่ต่ออย่างไร ตนก็ยังไม่รู้ ขึ้นอยู่กับว่าอยู่ต่อ ไม่อยู่ต่อ รัฐธรรมนูญเขียนไว้เรื่องนายกฯ คนนอก ซึ่งยังไปไม่ถึงตรงนั้น
สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. ที่นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ออกมาเรียกร้องให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของท่าน รวมถึงการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ก็เป็นความคิดของท่าน ก็แล้วแต่ประชาชนจะว่าอย่างไร ส่วนกรณีที่ โหรวารินทร์ออกมาทำนายว่า ปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง และพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกฯ ต่อไปนั้น ก็โหร สื่อเข้าใจคำว่า โหรหรือไม่ โหรก็คือโหร ก็ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ก็คือโหรเป็นสถิติทางโหราศาสตร์
***มาร์คอัดคสช.เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า อาจต้องใช้มาตรา 44 แก้ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า การที่รธน. วางเงื่อนไขไว้ทั้งหมดนั้น ตอนทำทั้งคสช. รัฐบาล และ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็บอกว่า ต้องทำแบบนี้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การปฏิรูป และต้องมีการรับฟังความคิดเห็นต่างๆ แต่ถ้าหากจะใช้อำนาจพิเศษมาลบล้างตรงนี้ ก็ต้องตอบคำถามว่า ตกลงเรื่องการปฏิรูปที่เคยพูดไว้ทั้งหมด คืออะไร เพราะที่บอกว่าตอนนี้อะไรๆ เป็นอุปสรรคหมด ไม่ได้มาจากคนอื่น เพราะ รธน.พวกท่านก็เป็นฝ่ายเขียนเอง แล้วประชาชนก็รับรองไปแล้ว กม.ลูกก็ต้องอยู่ในกรอบของ รธน. ทำโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และ สนช. เงื่อนเวลาก็กำหนโดย กรธ.และ สนช. ปัญหาที่จะไม่เกิดขึ้นตามเงื่อนเวลา ก็เกิดขึ้นจากคสช. ซึ่งไปออกคำสั่ง แล้วขัดแย้งกับตัวกม.
"ฉะนั้นถ้าจะใช้อะไรพิเศษอีก เพื่อลบล้างสิ่งที่ตัวเองทำ ก็ต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนว่า สรุปแล้วเป้าหมายสุดท้าย คืออะไร และในที่สุดจะเป็นตัวพิสูจน์ว่า สิ่งที่ทำทั้งหมดเป็นเรื่องของการปฏิรูประบบ หรือจะเป็นเรื่องของผลประโยชน์"
**บี้"บิ๊กตู่"พูดให้ชัดจะเล่นการเมืองหรือไม่
“กรณีการตั้งพรรคทหาร หรือพรรคการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ให้เป็นนายกฯต่อไปนั้น ผมอยากให้นายกฯพูดให้ชัด แบบนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ และนายสถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธ์ ที่พูดออกมาแล้วและคิดว่าวันหน้าทั้งสองคนนี้คงไม่กลับคำพูด ทั้งนี้หากพล.อ.ประยุทธ์จะลงเล่นการเมืองต่อ ก็ยินดีต้อนรับ แต่ขอให้ระบุให้ชัดแบบแมนๆ อย่างที่ถามประชาชน 6 ข้อล่าสุดของท่านนั้น ผมก็อยากทราบว่าเป็นการถามเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมหรือส่วนตัว" นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
** "สมชัย"อัด 2 นักปฏิรูปจอมปลอม
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวถึง กรณีรัฐบาลเตรียมใช้ ม.44 แก้ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ว่า พ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่มีผลบังคับใช้เมื่อ 8 ต.ค.60 เป็นการออกแบบระบบพรรคการเมืองใหม่ เพื่อให้พรรคมีความเข้มแข็ง เป็นสถาบัน มีรากฐานจากประชาชน และป้องกันการแทรกแซงจากนายทุนพรรค หลายข้อกำหนดใน พ.ร.ป.ดังกล่าว จึงมีขึ้นเพื่อตอบโจทย์ที่กำหนดมา
"มาวันนี้ ผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองท่านหนึ่งผู้ชูธงปฏิรูปก่อนเลือกตั้งมาตลอด และผู้เตรียมการจัดตั้งพรรคที่ประกาศจะสนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเป็นนายกฯต่อ อีกท่านหนึ่ง กลับเรียกร้องให้มีการแก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมือง โดยมีสาระ คือ ยกเลิกสาขาพรรค ยกเลิกไพรมารีโหวต เรียกร้องให้รีเซตสมาชิกของพรรคการเมืองเดิม ทำให้พรรคที่มีความเข้มแข็ง กลายเป็นพรรคที่อ่อนแอต้องเริ่มต้นใหม่ โดยอ้างความเท่าเทียม ไปไกลขนาดเสนอให้ นายกรัฐมนตรีในฐานะ หัวหน้า คสช.ใช้ ม.44 แก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมือง โดยเอาประเด็นกรอบเวลาที่เป็นข้อจำกัดของพรรคการเมืองว่าทำไม่ทัน เป็นตัวเริ่ม และลามไปยังประเด็นอื่นๆ โดยลืมสิ้นถึงหลักการปฏิรูปที่เคยพูดไว้ในอดีต" นายสมชัย กล่าว
** "มีชัย"แย้มรีเซ็ตสมาชิกพรรค
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึง ข้อเสนอให้แก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อรีเซตสมาชิกพรรค และ งดเว้นไพรมารีโหวต ในการเลือกตั้งครั้งแรกว่า เรื่องสมาชิกพรรค กรธ.ทำในตอนนั้น มันควรเป็นแบบนั้น ใครเป็นสมาชิกจ่ายค่าบำรุงแล้วก็เป็นตามเดิม แต่พอเวลาผ่านไป ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ด้วยเงื่อนไขของสมาชิกที่มันเข้มข้นขึ้น อาจเกิดปัญหาว่า รายชื่อสมาชิกของแต่ละพรรค เป็นของจริงหรือไม่ หรือแค่กรอกๆ กันมา จึงต้องตรวจสอบทะเบียนว่า ตรงกันหรือไม่ ส่วนเรื่องงดเว้นไพรมารี นั้น ไม่ทราบ การเขียนกฎหมายไม่ว่าจะวางหลักเกณฑ์ หรือข้อยกเว้นอะไรไว้ สามารถทำได้ แต่ต้องมีเหตุผล ส่วนตัวมองว่าไพรมารีโหวต ก็ได้เปรียบเสียเปรียบกันทั้งพรรคเล็กพรรคใหญ่ พรรคใหญ่ส่งเลือกตั้งครบทุกเขต ก็ต้องไพรมารีทุกจังหวัด แต่พรรคเล็ก ส่งไม่ครบ ก็ทำไพรมารีแค่บางจังหวัด ส่วนวิธีการ ก็ขึ้นกับแต่ละพรรคจะไปออกแบบให้เหมาะกับพรรคตนเอง
***อวยพรปีใหม่ให้คนไทยมีความหวัง
ในช่วงท้ายพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอวยพรเนื่องในเทศกาลปีใหม่ ว่า "สวัสดีปีใหม่ ปีใหม่นี้ขอให้เป็นปีขอให้คนไทยทุกคนมีความหวัง มีส่วนร่วมในอนาคตซึ่งกันและกัน ถือเป็นความหนึ่งเดียวของคนไทยของประเทศ ถือเป็นเป้าหมายหลักของคนไทยทุกคน เพื่อความสุขที่ยั่งยืน ขอให้ทุกคนมีอาชีพ มีรายได้มีเงินทองที่พอเหมาะพอควร มีความเหมาะสมในการดำรงชีวิต เป็นสิ่งที่รัฐบาลคาดหวัง และเชื่อว่าเป็นความคาดหวังของประชาชนทั้งประเทศเช่นกัน สิ่งที่ผมอยากฝากในวันนี้คือ แนวพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ที่ทรงรับสั่งว่า ให้ทำแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาดำรงชีวิตในเรื่องของความพอเพียง ซึ่งความพอเพียงแต่ละคน ไม่เท่ากัน เพราะภาระ อาชีพ ไม่เท่ากัน เราจึงต้องทำให้ทุกอาชีพมารายได้ที่เพียงพอ และทุกคนควรทำความดีให้มากยิ่งขึ้น สร้างความสงบให้มากยิ่งขึ้น เวทีก็จะเปิดกว้าง ถ้ายังขัดแย้งกันมากๆ อะไรก็เข้ามาไม่ได้ ทุกคนจึงต้องมีส่วนทำความดีไม่เฉพาะแค่ปีใหม่เท่านั้น ต้องทำดีทุกวัน อยากจะบอกว่า ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจเรา สำหรับคนที่ยังไม่เข้าใจเราก็จะพยายามทำให้มากยิ่งขึ้น "