ผู้จัดการรายวัน360-สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทยให้ฉายา 10 บิ๊กตำรวจ ประจำปี 2560 "จักรทิพย์" ผบ.สายแข็ง เหตุขาเก้าอี้มั่นคง ผลงานเด่น "วิระชัย" มือปราบมหากาฬ ลุยปราบคดีสำคัญอยู่หมัด ”สมหมาย" มือปราบหมื่นล้านเจ้าของวลีเด็ดผมจะทำให้มันจนยิ่งกว่าขอทาน "ชาญเทพ" น.1 ไม่บึ่งแล้ว "จิตติ" ฉลามตาฝาง "สุรเชษฐ์" นายพลศูนย์เหรียญ หลังลุยจับแหลก "กมล"มือพิฆาตมารศาสนา " อิทธิพล" แมนไทยลีก "นพศิลป์"นักสืบโลกลืม ปิดท้ายที่ "ภูมินทร์" เอ็ม 5 บ้าพลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (18 ธ.ค.) นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นายสุชัย พงษ์เพียรชอบ ประธานที่ปรึกษาฝ่ายบริหาร นายสมชาย จรรยา รองนายกสมาคมฯ นายสุรชัย นิโครธานนท์ รองนายกสมาคมฯ นายธนากร ริตุ เลขาธิการสมาคมฯ พร้อมด้วยตัวแทนจากสื่อต่างๆ ได้ร่วมกันเปิดเผยฉายาตำรวจประจำปี 2560 ว่า ทางสมาคมฯ ได้ทำงานใกล้ชิดกับแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะนำผลงานต่างๆ มาเสนอต่อสายตาประชาชนจนเป็นที่ยอมรับของสังคม และตลอดเวลาที่ผ่านมา สื่อมวลชนได้ดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในรอบปี ทางสมาคมฯ จึงได้ร่วมตั้งฉายาตำรวจประจำปีขึ้นทุกปี ซึ่งเกณฑ์ในการตั้งได้ประชุมร่วมกับผู้สื่อข่าวจากแขนงต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนจากสื่อมวลชนสังกัดต่างๆ มีการเสนอชื่อนายตำรวจเข้ามาและทำการคัดเหลือ 10 นายด้วยกันมีดังนี้
1.พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร) ฉายา "ผบ.ตร สายแข็ง" เนื่องจากมีข่าวเป็นระยะว่าจะถูกปลด หรือถูกบังคับให้ลาออกไปเป็นรัฐมนตรี แต่สุดท้ายนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาดับกระแสว่าทำงานดี จะปรับไปทำไม และยังพบว่า มีผลงานโดดเด่น เช่น คดีฆ่ายกครัว 8 ศพ การลงพื้นที่ช่วยเหลือน้ำท่วม และการจัดระเบียบข้าราชการตำรวจ
2.พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษก ตร. ฉายาว่า “มือปราบพระกาฬ” โดยเป็นตำรวจน้ำดี มือสะอาด ทำคดีสำคัญ เช่น คดียูฟัน จับกุมนายทุนเงินกู้ คดีแก๊งโคลัมเบีย คดีหมอยอร์น ครูจอมทรัพย์ และล่าสุดทวงคืนพื้นที่บนเกาะหลีเป๊ะ
3.พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส) ฉายา “มือปราบหมื่นล้าน” เจ้าของวลีเด็ด “ผมจะทำให้มันจนยิ่งกว่าขอทาน” โดยมีการกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ เช่น คดีไซซะนะ ซึ่งมี “เบนซ์ เรซซิ่ง” สามีดาราสาวเข้ามาเกี่ยวข้องในการฟอกเงินให้กับขบวนการดังกล่าว และยังขยายผลในทางลับทำให้ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญๆ ที่เป็นเจ้าของบัญชีรับโอนเงินจากเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในประเทศไทย ก่อนโอนไปยังโรงงานผลิตยาในประเทศเมียนมา โดยพบมีพฤติการณ์รับโอนเงินให้กลุ่มเครือข่ายยาเสพติดมากว่า 10 ปี มีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารต่อปีมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท จึงได้รีบ ฉายา “มือปราบหมื่นล้าน”
4.พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น) ฉายา “น.1 ไม่บึ่งแล้ว” เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในยุคที่ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร เป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น) เวลาเกิดเหตุการณ์หรือเกิดคดีสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นคดีเล็กหรือคดีใหญ่ จะเช้าตรู่หรือค่ำมืดขนาดไหนผู้สื่อข่าวจะเห็นอดีต (ผบช.น) เดินทางไปยังที่เกิดเหตุหรือสน.ต่างๆ แทบจะทุกคดี ทำให้ประชาชนอุ่นใจ ซึ่งตรงกันข้ามกับปัจจุบันที่เวลาเกิดเหตุไม่เคยเห็น (ผบช.น) ตามสถานที่เกิดเหตุเลย นอกจากการแถลงข่าวที่ (บช.น) เท่านั้นจึงเป็นที่มาของ ฉายา “น.1 ไม่บึ่งแล้ว”
5.พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ฉายา “ฉลามตาฟาง” เนื่องจากว่าพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 2 พื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ติดชายทะเล และตลอดระยะเวลาที่มาดำรงตำแหน่ง ได้มีชาวบ้านร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องอบายมุขหรือสิ่งผิดกฎหมาย แต่ดูเหมือนมักจะไม่ได้รับการแก้ไขหรือขจัดปัดเป่าให้ดีขึ้น แถมยังปล่อยให้ปัญหาอาชญากรรมผุดขึ้นอย่างมากมาย
6.พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ฉายา “นายพลศูนย์เหรียญ” เพราะได้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วน จนมีการอายัดรถบัสนำเที่ยว 2,086 คัน และอายัดบัญชีเงินสดกว่า 90 บัญชี มูลค่ากว่า 13,000 ล้าน แต่สุดท้ายศาลอาญามีคำสั่งยกฟ้องผู้ต้องหา เท่ากับว่าที่ทำมานั้นสูญเปล่า
7.พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) ฉายา “มือพิฆาตมารศาสนา” เพราะได้เดินหน้าตรวจสอบการทุจริต “เงินทอนวัด”โดยเปิดปฏิบัติการ บุกค้นบ้าน นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา หลังพบเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องการทุจริตเงินทอนวัด
8.พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ฉายา “แมนไทยลีก” เพราะมีชื่อเล่นว่า แมน และได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาให้ติดตามสืบสวนคดี “ล้มบอลไทยพรีเมียร์ลีก” อย่างลับๆ จนสามารถหาข้อมูลและจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องได้
9.พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ฉายา “นักสืบโลกลืม” เนื่องจากว่าเป็นนายตำรวจที่อยู่เบื้องหลังการปิดคดีสำคัญหลายๆ ที่เกิดขึ้นในนครบาล ไม่ว่าจะเป็นคดีเล็กหรือคดีใหญ่ แต่พอแถลงข่าว จะเห็นแต่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่
10.พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.5 บก.ป.) ฉายา “เอ็ม5บ้าพลัง” จากเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถยนต์ กระโดดหนีจากห้องสอบสวนกองปราบปราม เมื่อพ.ต.อ.ภูมินทร์ ได้ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ จึงได้วิ่งไล่ตามคนร้ายจนกระทั่งจับกุมตัวไว้ได้ แล้วได้จับผู้ต้องหาแบกขึ้นบ่านำตัวกลับมาส่งให้พนักงานสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (18 ธ.ค.) นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นายสุชัย พงษ์เพียรชอบ ประธานที่ปรึกษาฝ่ายบริหาร นายสมชาย จรรยา รองนายกสมาคมฯ นายสุรชัย นิโครธานนท์ รองนายกสมาคมฯ นายธนากร ริตุ เลขาธิการสมาคมฯ พร้อมด้วยตัวแทนจากสื่อต่างๆ ได้ร่วมกันเปิดเผยฉายาตำรวจประจำปี 2560 ว่า ทางสมาคมฯ ได้ทำงานใกล้ชิดกับแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะนำผลงานต่างๆ มาเสนอต่อสายตาประชาชนจนเป็นที่ยอมรับของสังคม และตลอดเวลาที่ผ่านมา สื่อมวลชนได้ดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในรอบปี ทางสมาคมฯ จึงได้ร่วมตั้งฉายาตำรวจประจำปีขึ้นทุกปี ซึ่งเกณฑ์ในการตั้งได้ประชุมร่วมกับผู้สื่อข่าวจากแขนงต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนจากสื่อมวลชนสังกัดต่างๆ มีการเสนอชื่อนายตำรวจเข้ามาและทำการคัดเหลือ 10 นายด้วยกันมีดังนี้
1.พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร) ฉายา "ผบ.ตร สายแข็ง" เนื่องจากมีข่าวเป็นระยะว่าจะถูกปลด หรือถูกบังคับให้ลาออกไปเป็นรัฐมนตรี แต่สุดท้ายนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาดับกระแสว่าทำงานดี จะปรับไปทำไม และยังพบว่า มีผลงานโดดเด่น เช่น คดีฆ่ายกครัว 8 ศพ การลงพื้นที่ช่วยเหลือน้ำท่วม และการจัดระเบียบข้าราชการตำรวจ
2.พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษก ตร. ฉายาว่า “มือปราบพระกาฬ” โดยเป็นตำรวจน้ำดี มือสะอาด ทำคดีสำคัญ เช่น คดียูฟัน จับกุมนายทุนเงินกู้ คดีแก๊งโคลัมเบีย คดีหมอยอร์น ครูจอมทรัพย์ และล่าสุดทวงคืนพื้นที่บนเกาะหลีเป๊ะ
3.พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส) ฉายา “มือปราบหมื่นล้าน” เจ้าของวลีเด็ด “ผมจะทำให้มันจนยิ่งกว่าขอทาน” โดยมีการกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ เช่น คดีไซซะนะ ซึ่งมี “เบนซ์ เรซซิ่ง” สามีดาราสาวเข้ามาเกี่ยวข้องในการฟอกเงินให้กับขบวนการดังกล่าว และยังขยายผลในทางลับทำให้ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญๆ ที่เป็นเจ้าของบัญชีรับโอนเงินจากเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในประเทศไทย ก่อนโอนไปยังโรงงานผลิตยาในประเทศเมียนมา โดยพบมีพฤติการณ์รับโอนเงินให้กลุ่มเครือข่ายยาเสพติดมากว่า 10 ปี มีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารต่อปีมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท จึงได้รีบ ฉายา “มือปราบหมื่นล้าน”
4.พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น) ฉายา “น.1 ไม่บึ่งแล้ว” เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในยุคที่ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร เป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น) เวลาเกิดเหตุการณ์หรือเกิดคดีสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นคดีเล็กหรือคดีใหญ่ จะเช้าตรู่หรือค่ำมืดขนาดไหนผู้สื่อข่าวจะเห็นอดีต (ผบช.น) เดินทางไปยังที่เกิดเหตุหรือสน.ต่างๆ แทบจะทุกคดี ทำให้ประชาชนอุ่นใจ ซึ่งตรงกันข้ามกับปัจจุบันที่เวลาเกิดเหตุไม่เคยเห็น (ผบช.น) ตามสถานที่เกิดเหตุเลย นอกจากการแถลงข่าวที่ (บช.น) เท่านั้นจึงเป็นที่มาของ ฉายา “น.1 ไม่บึ่งแล้ว”
5.พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ฉายา “ฉลามตาฟาง” เนื่องจากว่าพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 2 พื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ติดชายทะเล และตลอดระยะเวลาที่มาดำรงตำแหน่ง ได้มีชาวบ้านร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องอบายมุขหรือสิ่งผิดกฎหมาย แต่ดูเหมือนมักจะไม่ได้รับการแก้ไขหรือขจัดปัดเป่าให้ดีขึ้น แถมยังปล่อยให้ปัญหาอาชญากรรมผุดขึ้นอย่างมากมาย
6.พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ฉายา “นายพลศูนย์เหรียญ” เพราะได้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วน จนมีการอายัดรถบัสนำเที่ยว 2,086 คัน และอายัดบัญชีเงินสดกว่า 90 บัญชี มูลค่ากว่า 13,000 ล้าน แต่สุดท้ายศาลอาญามีคำสั่งยกฟ้องผู้ต้องหา เท่ากับว่าที่ทำมานั้นสูญเปล่า
7.พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) ฉายา “มือพิฆาตมารศาสนา” เพราะได้เดินหน้าตรวจสอบการทุจริต “เงินทอนวัด”โดยเปิดปฏิบัติการ บุกค้นบ้าน นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา หลังพบเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องการทุจริตเงินทอนวัด
8.พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ฉายา “แมนไทยลีก” เพราะมีชื่อเล่นว่า แมน และได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาให้ติดตามสืบสวนคดี “ล้มบอลไทยพรีเมียร์ลีก” อย่างลับๆ จนสามารถหาข้อมูลและจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องได้
9.พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ฉายา “นักสืบโลกลืม” เนื่องจากว่าเป็นนายตำรวจที่อยู่เบื้องหลังการปิดคดีสำคัญหลายๆ ที่เกิดขึ้นในนครบาล ไม่ว่าจะเป็นคดีเล็กหรือคดีใหญ่ แต่พอแถลงข่าว จะเห็นแต่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่
10.พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.5 บก.ป.) ฉายา “เอ็ม5บ้าพลัง” จากเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถยนต์ กระโดดหนีจากห้องสอบสวนกองปราบปราม เมื่อพ.ต.อ.ภูมินทร์ ได้ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ จึงได้วิ่งไล่ตามคนร้ายจนกระทั่งจับกุมตัวไว้ได้ แล้วได้จับผู้ต้องหาแบกขึ้นบ่านำตัวกลับมาส่งให้พนักงานสอบสวน