ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กป้อม"ยอมรับเหนื่อย หลังถูกโจมตีหนัก แต่ไม่ตอบจะไขก๊อกหรือไม่ ยันไม่รู้ ไม่เห็น ข่าวตั้งพรรคประชารัฐ ด้าน "สมคิด"ยิ้มบอกข้อมูลผิด ไม่มีอะไรหรอก "มาร์ค"เป็นงง "สุเทพ-ไพบูลย์"เปลี่ยนใจอยากแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งที่เคยหนุนผู้มีอำนาจ อัด "บิ๊กตู่" บอกไม่ลงเลือกตั้ง แต่หนุนการเมือง เลวร้ายไม่ต่างจากเดิม "พรเพชร"ปัด สนช.รับลูก แค่ศึกษา "วิษณุ"แบะท่าใช้ ม.44 แก้ เพื่อขยายเวลาพรรคการเมือง "ศรีสุวรรณ"จี้ คสช. สั่งพักงาน "ประวิตร"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (18 ธ.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่า เหนื่อยหรือไม่ ที่ถูกกระแสโจมตีอย่างหนักในช่วงนี้ และจะไขก็อก (ลาออก) หรือไม่ โดยพล.อ.ประวิตร ยิ้มก่อนตอบว่า “เหนื่อย”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ท้อหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถามนี้
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณี นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า จะมีการตั้งพรรคประชารัฐ โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค เพื่อสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ว่า ยังไม่มี ไม่เห็นมี และยังไม่รู้ว่าจะให้นายสมคิดเป็นหัวหน้าพรรค
ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ยิ้มพร้อมปฏิเสธให้สัมภาษณ์ข่าว หลังผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงข่าวการนั่งเป็นหัวหน้าพรรคประชารัฐ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ข้อมูลผิดแล้ว ไม่มีอะไรหรอก อายุก็ 60 กว่าแล้ว"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนเชื่อที่นายสมคิดออกมาปฏิเสธว่าจะไม่มาเป็นหัวหน้าพรรค เพราะตนก็สนิทกับนายสมคิดในระดับหนึ่ง ตั้งแต่ท่านมาเป็นรองนายกฯ ในรัฐบาลนี้ ท่านบอกกับตนว่า ท่านไม่มีเจตนาจะสานต่อการเมือง แต่ท่านจะออกมามีบทบาทสนับสนุนในทางอื่นหรือไม่นั้น ก็ต้องว่ากันไปอีกแบบ
ส่วนกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เสนอแก้ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง โดยให้ ส.ส.ไม่สังกัดพรรคการเมือง เห็นว่า ไม่เกี่ยวกับกฎหมายพรรคการเมือง แต่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ หากจะเปลี่ยนต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องตั้งคำถามว่า ที่ท่านทั้ง 2 มาเสนอตอนนี้ ทั้งที่ก่อนหน้าสนับสนุนผู้มีอำนาจมาโดยตลอด แต่มาวันนี้บอกมีปัญหา มีอะไรเปลี่ยนไป อยากขอทราบเหตุผล โดยปัญหาที่แท้จริง อยู่ที่การไม่ปลอล็อกพรรการเมือง ทางออกต้องปลดล็อก เพื่อเปิดทางให้พรรการเมืองดำเนินการต่างๆ ตามกฎหมายได้ แต่ถ้าอยากแก้กฎหมายหรืออยากจะยืดการเลือกตั้ง หรืออยากจะยุบพรรคการเมืองเก่า ขอให้พูดออกมาอย่างชัดเจนเลยดีกว่า
สำหรับกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงพื้นที่ทางภาคอีสาน และมีการพูดว่า “ถ้าจะเลือกนายกฯ ให้เลือกคนที่ได้อย่างผม” นั้น ตนเห็นใจรัฐบาลแบบนี้ เพราะการที่จะมีโอกาสพบประชาชนก็น้อย แต่ขอเตือนว่า ถ้าท่านทำแบบนี้แล้วบอกว่า ไม่ลงเลือกตั้ง ไม่ยุ่งการเมือง แต่ในอนาคตกลับไปสนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง ก็จะเลวร้ายไม่ต่างจากระบบที่เราต่อต้านในอดีตที่ผ่านมา
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงข้อเสนอให้มีการแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองว่า เมื่อ สนช. รับเรื่องอะไรมา ก็นำไปศึกษาในเบื้องต้น จะยังไม่มีความเห็น หรือมติอะไร และไม่ถือว่า รับแต่ลูก เรารับทุกอย่างแล้วส่งไปยังกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง แต่ครั้งนี้บังเอิญเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการแก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมือง ว่า ถ้าแก้ไขด้วยวิธีปกติ ต้องรับฟังความคิดเห็น พร้อมกับถามความเห็นของ กกต. จึงต้องใช้เวลาพอสมควร จึงคิดว่าคงจะใช้วิธีนี้ยาก เพราะต้องมีกระบวนการฟังความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ และไม่ทราบว่าในชั้น สนช. จะใช้เวลาพิจารณากันนานเท่าไร ดังนั้น จึงมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะใช้ มาตรา 44 แก้ไข ถ้าคิดว่าจะไม่ปลดล็อกทางการเมือง แต่ถึงอย่างไรก็ต้องแก้ไขกฎหมายนี้ เพื่อขยายเวลาให้พรรคการเมือง แม้การขยายเวลาจะมีอยู่ในอำนาจของ กกต. แต่อาจจะเกิดปัญหาความได้เปรียบ เสียเปรียบ ของพรรคการเมือง ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรม จึงคงต้องใช้ ม.44 เพื่อแก้ไขกฎหมายนี้
วันเดียวกันนี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้หัวหน้า คสช. ใช้ม. 44 สั่งพักงาน พล.อ.ประวิตร เพราะมีปัญหาเรื่องการชี้แจงเรื่องแหวนเพชร และนาฬิกา มีปัญหาเรื่องนักเรียนนายร้อยเสียชีวิต และการแก้ปัญหาภาคใต้ที่ล้มเหลว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (18 ธ.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่า เหนื่อยหรือไม่ ที่ถูกกระแสโจมตีอย่างหนักในช่วงนี้ และจะไขก็อก (ลาออก) หรือไม่ โดยพล.อ.ประวิตร ยิ้มก่อนตอบว่า “เหนื่อย”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ท้อหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถามนี้
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณี นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า จะมีการตั้งพรรคประชารัฐ โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค เพื่อสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ว่า ยังไม่มี ไม่เห็นมี และยังไม่รู้ว่าจะให้นายสมคิดเป็นหัวหน้าพรรค
ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ยิ้มพร้อมปฏิเสธให้สัมภาษณ์ข่าว หลังผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงข่าวการนั่งเป็นหัวหน้าพรรคประชารัฐ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ข้อมูลผิดแล้ว ไม่มีอะไรหรอก อายุก็ 60 กว่าแล้ว"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนเชื่อที่นายสมคิดออกมาปฏิเสธว่าจะไม่มาเป็นหัวหน้าพรรค เพราะตนก็สนิทกับนายสมคิดในระดับหนึ่ง ตั้งแต่ท่านมาเป็นรองนายกฯ ในรัฐบาลนี้ ท่านบอกกับตนว่า ท่านไม่มีเจตนาจะสานต่อการเมือง แต่ท่านจะออกมามีบทบาทสนับสนุนในทางอื่นหรือไม่นั้น ก็ต้องว่ากันไปอีกแบบ
ส่วนกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เสนอแก้ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง โดยให้ ส.ส.ไม่สังกัดพรรคการเมือง เห็นว่า ไม่เกี่ยวกับกฎหมายพรรคการเมือง แต่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ หากจะเปลี่ยนต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องตั้งคำถามว่า ที่ท่านทั้ง 2 มาเสนอตอนนี้ ทั้งที่ก่อนหน้าสนับสนุนผู้มีอำนาจมาโดยตลอด แต่มาวันนี้บอกมีปัญหา มีอะไรเปลี่ยนไป อยากขอทราบเหตุผล โดยปัญหาที่แท้จริง อยู่ที่การไม่ปลอล็อกพรรการเมือง ทางออกต้องปลดล็อก เพื่อเปิดทางให้พรรการเมืองดำเนินการต่างๆ ตามกฎหมายได้ แต่ถ้าอยากแก้กฎหมายหรืออยากจะยืดการเลือกตั้ง หรืออยากจะยุบพรรคการเมืองเก่า ขอให้พูดออกมาอย่างชัดเจนเลยดีกว่า
สำหรับกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงพื้นที่ทางภาคอีสาน และมีการพูดว่า “ถ้าจะเลือกนายกฯ ให้เลือกคนที่ได้อย่างผม” นั้น ตนเห็นใจรัฐบาลแบบนี้ เพราะการที่จะมีโอกาสพบประชาชนก็น้อย แต่ขอเตือนว่า ถ้าท่านทำแบบนี้แล้วบอกว่า ไม่ลงเลือกตั้ง ไม่ยุ่งการเมือง แต่ในอนาคตกลับไปสนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง ก็จะเลวร้ายไม่ต่างจากระบบที่เราต่อต้านในอดีตที่ผ่านมา
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงข้อเสนอให้มีการแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองว่า เมื่อ สนช. รับเรื่องอะไรมา ก็นำไปศึกษาในเบื้องต้น จะยังไม่มีความเห็น หรือมติอะไร และไม่ถือว่า รับแต่ลูก เรารับทุกอย่างแล้วส่งไปยังกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง แต่ครั้งนี้บังเอิญเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการแก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมือง ว่า ถ้าแก้ไขด้วยวิธีปกติ ต้องรับฟังความคิดเห็น พร้อมกับถามความเห็นของ กกต. จึงต้องใช้เวลาพอสมควร จึงคิดว่าคงจะใช้วิธีนี้ยาก เพราะต้องมีกระบวนการฟังความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ และไม่ทราบว่าในชั้น สนช. จะใช้เวลาพิจารณากันนานเท่าไร ดังนั้น จึงมีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะใช้ มาตรา 44 แก้ไข ถ้าคิดว่าจะไม่ปลดล็อกทางการเมือง แต่ถึงอย่างไรก็ต้องแก้ไขกฎหมายนี้ เพื่อขยายเวลาให้พรรคการเมือง แม้การขยายเวลาจะมีอยู่ในอำนาจของ กกต. แต่อาจจะเกิดปัญหาความได้เปรียบ เสียเปรียบ ของพรรคการเมือง ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรม จึงคงต้องใช้ ม.44 เพื่อแก้ไขกฎหมายนี้
วันเดียวกันนี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้หัวหน้า คสช. ใช้ม. 44 สั่งพักงาน พล.อ.ประวิตร เพราะมีปัญหาเรื่องการชี้แจงเรื่องแหวนเพชร และนาฬิกา มีปัญหาเรื่องนักเรียนนายร้อยเสียชีวิต และการแก้ปัญหาภาคใต้ที่ล้มเหลว