"จักรทิพย์" นำทีมแถลงจับยาบ้า-ไอซ์ บิ๊กล็อต เผย 3 สัปดาห์ ยึด 26 ล้านเม็ด ไอซ์ 130 กก. มูลค่ารวมกว่า 4 พันล้านบาท หลังรับแจังจากสายลับว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลำเลียงจากกลุ่มว้าใต้ มาพักยาที่ย่านเมืองนนทบุรี และเพิ่งพ้นโทษในคดียาเสพติด
วานนี้ (14 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมชุดสืบสวนแถลงข่าวจับกุม 2 ผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ยาบ้า 5,370,000 เม็ด และไอซ์ จำนวน 120 กก. พร้อมอาวุธปืน โทรศัพท์มือถือ และรถยนต์
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับรายงานจากสายลับว่า มีผู้ต้องหา 2 รายคือ นายพรเทพ มีนาค และนายเอก (ไม่ทราบสกุล) มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ในพื้นที่ ต.บางกร่าง อ.เมืองฯ จ.นนทบุรี จึงได้สั่งการให้ชุดจับกุมขยายผล สะกดรอยตามจนทราบข้อมูลว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ จำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล กลุ่มผู้ต้องหามีการแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างเป็นระบบ โดยมีการเช่าบ้านเลขที่ 64/157 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกร่าง อ.เมืองฯ จ.นนทบุรี เป็นที่เก็บยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงสะกดรอยดูความเคลื่อนไหว จนกระทั่งเวลา 23.30 น.วันที่ 13 ธ.ค. เห็นผู้ต้องหานำรถยนต์กระบะบรรทุก หลังปิดทึบมิดชิดมาจอดที่บริเวณบ้านเลขที่ 64/157 จากนั้นได้จอดรถ และช่วยกันยกถุงพลาสติกสีดำเข้าไปภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวทำการตรวจค้น พบเป็นยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์กระบะและภายในบ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจนับพบว่ามียาบ้าซุกซ่อนภายในรถกว่า 2,500,000 เม็ด และอยู่ภายในบ้านอีกจำนวน 2,870,000 เม็ด และไอซ์อีก120 กก. นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนอีกจำนวนหนึ่ง
จากการสอบสวนนายพรเทพ ผู้ต้องหารับสารภาพว่าซื้อปืนมาจากเพื่อนสมัยเรียนเป็นเวลานานแล้ว ส่วนผู้ต้องหาอีกราย รับสารภาพว่าได้รับจ้างผู้ต้องหารายที่ 1 ซึ่งเป็นเพื่อนกันสมัยเรียน มาช่วยขับรถขนยาเสพติด
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ยาเสพติดล็อตนี้ เชื่อว่ามาจากกลุ่มว้าใต้ ที่มาของยาเสพติด ก็มีอยู่ประมาณ 5-6 กลุ่ม จากการตรวจสอบยังพบว่า หนึ่งในผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาครอบครองยาเสพติด เมื่อปี 2555 หลังจากนั้นพ้นโทษออกมา ก็มาก่อเหตุซ้ำจนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ในที่สุด ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ เป็นการขยายผลจากจับกุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การตรวจยึดจับกุมในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถยึดยาบ้าได้ถึง 26 ล้านเม็ด คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังยึดไอซ์ได้กว่า 130 กก. มูลค่ากว่า 130 ล้านบาท ถ้าส่งไปต่างประเทศ จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ทั้งนี้ ในส่วนของการติดตามจับกุมขบวนการ เจ้าหน้าที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งประสานเรื่องการข่าว มีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเกรงว่าคนร้ายจะไหวตัวทัน เรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญ ถือเป็นวาระแห่งชาติ.
วานนี้ (14 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมชุดสืบสวนแถลงข่าวจับกุม 2 ผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ยาบ้า 5,370,000 เม็ด และไอซ์ จำนวน 120 กก. พร้อมอาวุธปืน โทรศัพท์มือถือ และรถยนต์
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับรายงานจากสายลับว่า มีผู้ต้องหา 2 รายคือ นายพรเทพ มีนาค และนายเอก (ไม่ทราบสกุล) มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ในพื้นที่ ต.บางกร่าง อ.เมืองฯ จ.นนทบุรี จึงได้สั่งการให้ชุดจับกุมขยายผล สะกดรอยตามจนทราบข้อมูลว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ จำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล กลุ่มผู้ต้องหามีการแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างเป็นระบบ โดยมีการเช่าบ้านเลขที่ 64/157 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกร่าง อ.เมืองฯ จ.นนทบุรี เป็นที่เก็บยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงสะกดรอยดูความเคลื่อนไหว จนกระทั่งเวลา 23.30 น.วันที่ 13 ธ.ค. เห็นผู้ต้องหานำรถยนต์กระบะบรรทุก หลังปิดทึบมิดชิดมาจอดที่บริเวณบ้านเลขที่ 64/157 จากนั้นได้จอดรถ และช่วยกันยกถุงพลาสติกสีดำเข้าไปภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวทำการตรวจค้น พบเป็นยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์กระบะและภายในบ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจนับพบว่ามียาบ้าซุกซ่อนภายในรถกว่า 2,500,000 เม็ด และอยู่ภายในบ้านอีกจำนวน 2,870,000 เม็ด และไอซ์อีก120 กก. นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนอีกจำนวนหนึ่ง
จากการสอบสวนนายพรเทพ ผู้ต้องหารับสารภาพว่าซื้อปืนมาจากเพื่อนสมัยเรียนเป็นเวลานานแล้ว ส่วนผู้ต้องหาอีกราย รับสารภาพว่าได้รับจ้างผู้ต้องหารายที่ 1 ซึ่งเป็นเพื่อนกันสมัยเรียน มาช่วยขับรถขนยาเสพติด
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ยาเสพติดล็อตนี้ เชื่อว่ามาจากกลุ่มว้าใต้ ที่มาของยาเสพติด ก็มีอยู่ประมาณ 5-6 กลุ่ม จากการตรวจสอบยังพบว่า หนึ่งในผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาครอบครองยาเสพติด เมื่อปี 2555 หลังจากนั้นพ้นโทษออกมา ก็มาก่อเหตุซ้ำจนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ในที่สุด ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ เป็นการขยายผลจากจับกุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การตรวจยึดจับกุมในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถยึดยาบ้าได้ถึง 26 ล้านเม็ด คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังยึดไอซ์ได้กว่า 130 กก. มูลค่ากว่า 130 ล้านบาท ถ้าส่งไปต่างประเทศ จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ทั้งนี้ ในส่วนของการติดตามจับกุมขบวนการ เจ้าหน้าที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งประสานเรื่องการข่าว มีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเกรงว่าคนร้ายจะไหวตัวทัน เรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญ ถือเป็นวาระแห่งชาติ.