ผู้จัดการรายวัน 360 - "สมคิด" มอบนโยบายกระทรวงท่องเที่ยวฯ เน้นการขยายพื้นที่และกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวให้เข้าสู่เมืองรอง หวังกระจายรายได้ให้เข้าสู่ชุมชุมมากขึ้น พร้อมทั้งแนะฟื้นฟูเอกลักษณ์ของชุมชน ร้านค้าโอท็อป เพื่อสร้างคุณภาพโดยไม่ต้องรอให้ต่างชาติมามอบรางวัลมิชลินสตาร์ "วีระศักดิ์" รับจัดทำมาตรการส่งเสริมปีท่องเที่ยวให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์นี้
วานนี้ (13 ธ.ค.) ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้แถลงมอบหมายนโยบายการดำเนินงานแก่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า รมว.การท่องเที่ยวฯ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวฯ มีความเข้าใจในเนื้อหางานอยู่แล้ว ซึ่งการท่องเที่ยวนั้นไม่ใช่อุตสาหกรรมเล็กๆ คิดเป็นสัดส่วนถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ของจีดีพี ไม่ใช่ตัวเลขที่น้อย ขณะเดียวกันทุกคนรู้ดีว่าเมืองไทยมีความโดดเด่นเรื่องท่องเที่ยว มีอาหารอร่อย ผู้คนสุภาพ ถึงแม้จะมีสิ่งที่บกพร่องอยู่ แต่ภาพรวมผมถือว่าเหนือกว่าที่อื่นมาก ประเด็นคือเราต้องขยายผลการท่องเที่ยวให้ออกดอกออกผลไปสู่ทุกคน
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวกว่า 34 ล้านคน แต่เป็นการกระจุกตัวในหัวเมืองใหญ่ จึงอยากให้มีการพัฒนาและขยายการท่องเที่ยวไปสู่เมืองรอง หรือระดับชุมชนให้มากขึ้น เพื่อกระจายรายได้ให้กับชุมชนมากขึ้น โดยเตรียมนำมาตราการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรองเข้าสู่ที่ประชุม ครม. โดยมอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปหารือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เกี่ยวกับโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชนภายใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทยได้เตรียมงบประมาณของ อปท.ไว้สนับสนุนแล้วกว่าแสนล้านบาท
"ในปี 61 มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยยังจะเติบโตได้ดี จะเน้นการยกระดับฐานรากให้มีความเข้มแข็ง แก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งด้านการท่องเที่ยวจะมีส่วนสำคัญมาก"
นายสมคิด ได้ให้การบ้านกับทุกหน่วยงานร่วมกันพัฒนาการท่องเที่ยวในระดับชุมชม ไม่ให้กระจุกตัวเพียงแต่เมืองหลัก และมอบให้ ททท.หามาตรการจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวในเมืองรองมากขึ้น พร้อมทั้งให้มีการเชื่อมต่อการคมนาคมให้ครบวงจร ให้นักท่องเที่ยวสามารถลงจากสนามบินและสามารถเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนได้ ทั้งทางถนนและรถไฟ
"เราต้องฟื้นฟูและสร้างเรื่องราวเอกลักษณ์ในแต่ละชุมชนให้น่าสนใจ ร้านโอท็อปไม่จำเป็นเลย เราต้องสร้างคุณค่าให้นักท่องเที่ยวเข้าไปยังแหล่งผลิต ซึ่งเราจะต่อยอดสร้างแหล่งท่องเที่ยวชุมชนได้อีก อาหารไทยมีหลากหลาย ก็จัดทำให้มีคุณภาพกันเองเลย ไม่ต้องรอฝรั่งมามอบมิชลินสตาร์ ถ้าเราเอาจริงเอาจัง ผมจะเอาประชารัฐเข้ามาช่วยทุกท่าน ถ้าจังหวัดไหนทำนำร่องก็จะมีจังหวัดอื่นทำตามเอง"
ด้านนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา กล่าวว่า สำหรับมาตรการส่งเสริมปีท่องเที่ยวไทยนั้น กระทรวงจะจัดทำให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะทันเข้า ครม.ก่อนสิ้นปีนี้หรือไม่ ซึ่งในมาตรการจะมีทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง โดยนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวในเมืองรองสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และมาตรการลดหย่อนภาษีป้ายร้านค้าหรือภาษีโรงเรือน กรณีหากมีร้านค้าในแหล่งท่องเที่ยวชุมชมจัดทำห้องน้ำเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว
วานนี้ (13 ธ.ค.) ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้แถลงมอบหมายนโยบายการดำเนินงานแก่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า รมว.การท่องเที่ยวฯ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวฯ มีความเข้าใจในเนื้อหางานอยู่แล้ว ซึ่งการท่องเที่ยวนั้นไม่ใช่อุตสาหกรรมเล็กๆ คิดเป็นสัดส่วนถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ของจีดีพี ไม่ใช่ตัวเลขที่น้อย ขณะเดียวกันทุกคนรู้ดีว่าเมืองไทยมีความโดดเด่นเรื่องท่องเที่ยว มีอาหารอร่อย ผู้คนสุภาพ ถึงแม้จะมีสิ่งที่บกพร่องอยู่ แต่ภาพรวมผมถือว่าเหนือกว่าที่อื่นมาก ประเด็นคือเราต้องขยายผลการท่องเที่ยวให้ออกดอกออกผลไปสู่ทุกคน
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวกว่า 34 ล้านคน แต่เป็นการกระจุกตัวในหัวเมืองใหญ่ จึงอยากให้มีการพัฒนาและขยายการท่องเที่ยวไปสู่เมืองรอง หรือระดับชุมชนให้มากขึ้น เพื่อกระจายรายได้ให้กับชุมชนมากขึ้น โดยเตรียมนำมาตราการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรองเข้าสู่ที่ประชุม ครม. โดยมอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปหารือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เกี่ยวกับโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชนภายใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทยได้เตรียมงบประมาณของ อปท.ไว้สนับสนุนแล้วกว่าแสนล้านบาท
"ในปี 61 มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยยังจะเติบโตได้ดี จะเน้นการยกระดับฐานรากให้มีความเข้มแข็ง แก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งด้านการท่องเที่ยวจะมีส่วนสำคัญมาก"
นายสมคิด ได้ให้การบ้านกับทุกหน่วยงานร่วมกันพัฒนาการท่องเที่ยวในระดับชุมชม ไม่ให้กระจุกตัวเพียงแต่เมืองหลัก และมอบให้ ททท.หามาตรการจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวในเมืองรองมากขึ้น พร้อมทั้งให้มีการเชื่อมต่อการคมนาคมให้ครบวงจร ให้นักท่องเที่ยวสามารถลงจากสนามบินและสามารถเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนได้ ทั้งทางถนนและรถไฟ
"เราต้องฟื้นฟูและสร้างเรื่องราวเอกลักษณ์ในแต่ละชุมชนให้น่าสนใจ ร้านโอท็อปไม่จำเป็นเลย เราต้องสร้างคุณค่าให้นักท่องเที่ยวเข้าไปยังแหล่งผลิต ซึ่งเราจะต่อยอดสร้างแหล่งท่องเที่ยวชุมชนได้อีก อาหารไทยมีหลากหลาย ก็จัดทำให้มีคุณภาพกันเองเลย ไม่ต้องรอฝรั่งมามอบมิชลินสตาร์ ถ้าเราเอาจริงเอาจัง ผมจะเอาประชารัฐเข้ามาช่วยทุกท่าน ถ้าจังหวัดไหนทำนำร่องก็จะมีจังหวัดอื่นทำตามเอง"
ด้านนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา กล่าวว่า สำหรับมาตรการส่งเสริมปีท่องเที่ยวไทยนั้น กระทรวงจะจัดทำให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะทันเข้า ครม.ก่อนสิ้นปีนี้หรือไม่ ซึ่งในมาตรการจะมีทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง โดยนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวในเมืองรองสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และมาตรการลดหย่อนภาษีป้ายร้านค้าหรือภาษีโรงเรือน กรณีหากมีร้านค้าในแหล่งท่องเที่ยวชุมชมจัดทำห้องน้ำเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว