ผู้จัดการรายวัน 360 - "รสนา" นำเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) ร้อง ป.ป.ช. เอาผิด "บิ๊กตู่" รมว.คลัง-รมว.พลังงาน พ่วงด้วยประธานบอร์ดปตท. ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 ไม่เรียกคืนท่อก๊าซให้ครบตามมติ คตง.
วานนี้ (13ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เครือข่ายประชาชนปฎิรูปพลังงานไทย (คปพ.) นำโดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม., นางสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เดินทางมายื่นหนังสือต่อ ปปช. ขอให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บมจ.ปตท. ผิดมาตรา157 ฐานปฏิบัติมิชอบทำให้รัฐเสียหาย ฐานไม่ดำเนินการเรียกคืนท่อก๊าซจาก ปตท. ตามมติคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ซึ่งจะครบรอบ 10 ปีที่ศาลปกครองมีคำพิพากษาให้คืนทรัพย์สินให้แก่รัฐ เมื่อปี 2551 ในวันที่ 14 ธันวาคม 2560 นี้
หนังสือฉบับดังกล่าวระบุว่า ตามที่ คตง.ได้มีมติเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2559 เห็นว่า การแบ่งแยกทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน มีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด และปฏิบัติไม่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 รวมทั้งมีการจัดทำบันทึกการแบ่งแยกทรัพย์สินฯ โดยมิชอบ และการเสนอรายงานสรุปการดำเนินการตามคำพิพากษา โดยแจ้งเนื้อหาที่เป็นเท็จอันเป็นสาระสำคัญและปกปิดข้อเท็จจริงในสาระสำคัญที่จะต้องรายงานต่อศาลปกครองสูงสุด ก่อให้เกิดความเสียหายให้แก่รัฐ
โดยให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการแบ่งแยกทรัพย์สินอันได้แก่ ระบบท่อก๊าซธรรมชาติที่ขาดไป มีมูลค่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2544 คิดเป็นเงิน 32,613.45 ล้านบาท แก่กระทรวงการคลัง ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจาก สตง. ซึ่ง สตง.ได้ทำหนังสือแจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2559
บัดนี้ ระยะเวลาได้ล่วงเลยมาแล้วเกินกว่า 1 ปี ไม่ปรากฏว่าได้มีการแบ่งแยกทรัพย์สินแก่กระทรวงการคลังแต่อย่างใด อันถือได้ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เพิกเฉยหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่จะต้องรักษาไว้ซึ่งสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายและรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
วานนี้ (13ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เครือข่ายประชาชนปฎิรูปพลังงานไทย (คปพ.) นำโดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม., นางสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เดินทางมายื่นหนังสือต่อ ปปช. ขอให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บมจ.ปตท. ผิดมาตรา157 ฐานปฏิบัติมิชอบทำให้รัฐเสียหาย ฐานไม่ดำเนินการเรียกคืนท่อก๊าซจาก ปตท. ตามมติคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ซึ่งจะครบรอบ 10 ปีที่ศาลปกครองมีคำพิพากษาให้คืนทรัพย์สินให้แก่รัฐ เมื่อปี 2551 ในวันที่ 14 ธันวาคม 2560 นี้
หนังสือฉบับดังกล่าวระบุว่า ตามที่ คตง.ได้มีมติเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2559 เห็นว่า การแบ่งแยกทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน มีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด และปฏิบัติไม่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 รวมทั้งมีการจัดทำบันทึกการแบ่งแยกทรัพย์สินฯ โดยมิชอบ และการเสนอรายงานสรุปการดำเนินการตามคำพิพากษา โดยแจ้งเนื้อหาที่เป็นเท็จอันเป็นสาระสำคัญและปกปิดข้อเท็จจริงในสาระสำคัญที่จะต้องรายงานต่อศาลปกครองสูงสุด ก่อให้เกิดความเสียหายให้แก่รัฐ
โดยให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการแบ่งแยกทรัพย์สินอันได้แก่ ระบบท่อก๊าซธรรมชาติที่ขาดไป มีมูลค่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2544 คิดเป็นเงิน 32,613.45 ล้านบาท แก่กระทรวงการคลัง ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจาก สตง. ซึ่ง สตง.ได้ทำหนังสือแจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2559
บัดนี้ ระยะเวลาได้ล่วงเลยมาแล้วเกินกว่า 1 ปี ไม่ปรากฏว่าได้มีการแบ่งแยกทรัพย์สินแก่กระทรวงการคลังแต่อย่างใด อันถือได้ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เพิกเฉยหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่จะต้องรักษาไว้ซึ่งสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายและรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย