ขณะนี้เมืองไทยและโลกมีเรื่องต้องคิดและอาจเกิดเรื่องไม่คาดฝันได้เสมอ...
เรื่องไม่คาดฝันอาจส่งผลสะเทือนอย่างรุนแรงต่อชาวโลก ทั้งด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ-การเมือง-สังคม ฯลฯ เช่น
การเลือกตั้งของมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกอย่างสหรัฐฯ ที่ได้ “โดนัลด์ ทรัมป์” เป็นประธานาธิบดีนั้น นักวิเคราะห์การเมืองของอเมริกาเองระบุว่า “ทรัมป์” จะเป็นประธานาธิบดีที่ด้อยคุณภาพของมะกัน ซึ่งถือได้ว่าประชาธิปไตยเลือกตั้งของมะกันมีปัญหาถึงขั้นต้องรีบปฏิรูปในหลายมิติโดยด่วน
ตั้งแต่ “ทรัมป์” ขึ้นเป็นประธานาธิบดีจนวันนี้ยังคงมีการต่อต้าน เดินขบวนขับไล่อย่างต่อเนื่อง ผู้ชุมนุมบางรัฐประกาศขอให้มีการลงมติแยกตัวออกจากการเป็น “ดาวดวงหนึ่ง” ในผืนธงของอเมริกากันเลย
ส่วนนักวิเคราะห์การเมืองโลก “ฟันธง” ว่า โลกของเราจะระอุด้วยสถานการณ์ที่ล่อแหลมไปสู่สงครามนานารูปแบบ ท่ามกลางการปฏิรูปอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ของชาติมหาอำนาจไม่กี่ชาติ ที่ทำการค้าอย่างสามานย์แบบ “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” ได้อย่างเสรีจนความไม่เป็นธรรมระบาดไปทั่วโลก
เพราะ “ชาติมหาอำนาจทั้งหลาย” จะแย่งชิงอำนาจกันทั้งทางการค้า-การเมือง-การทหาร ฯลฯ จนทำให้ชาติเล็กชาติน้อยเดือดร้อน ไร้ความมั่นคงในแทบทุกมิติ อันจะนำไปสู่สงครามหลากรูปแบบที่จะเกิดขึ้นในหลายมุมของโลกชนิดหลีกเลี่ยงไม่ได้
แน่นอน...สถานการณ์เลวร้ายมากมายที่กำลังคุกรุ่นอยู่ขณะนี้ จะเป็นต้นเหตุนำความเหลื่อมล้ำไปสู่ชาติที่อ่อนแอกว่า ให้ต้องยากจนข้นแค้นยิ่งขึ้นโดยปริยาย เช่น
เกาหลีเหนือ -ทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้และกลาง (ที่พร้อมจะติดหัวรบนิวเคลียร์) พุ่งข้ามเฉียดหัวเกาหลีใต้และญี่ปุ่นอยู่ตลอด ล่าสุดยังทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีป ที่ไปได้ไกลถึง “วอชิงตัน” เมืองหลวงของอเมริกาโน่นเลย
เล่นเอาสหประชาชาติและชาติตะวันตก ต้องออกมาต่อต้านคัดค้านกันยกใหญ่ โดยเฉพาะอเมริกาที่รีบวางมาตรการแซงชั่นเกาหลีเหนืออย่างเข้มข้น “ทรัมป์” ประกาศเสียงหลงว่า ถ้าเกาหลีเหนือยังไม่หยุดทดลองและพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ล่ะก้อ... ประเทศเกาหลีเหนืออาจถูกลบออกจากแผนที่โลกนะ...กลัวมั้ยๆ?
แต่ดูเหมือน “คิมน้อย” ผู้นำเกาหลีเหนือ จะไม่ให้ราคาประธานาธิบดีชาติมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกอย่าง “ทรัมป์” เลยหมูไม่กลัวน้ำร้อนอย่าง “คิมน้อย” สวนกลับ “ทรัมป์” ชนิด “ตาต่อตา-ฟันต่อฟัน” ว่า ก็ลองดูสิ! เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธถล่มใส่มะกันก่อน ถ้ามะกันทำท่าจะทำมิดีมิร้ายกับเกาหลีเหนือ
เรื่องของเกาหลีเหนือที่จบไม่ลง ส่งผลให้ “ทรัมป์” เสียสติรึเปล่าไม่รู้ เพราะจู่ๆ “ทรัมป์” ก็สร้างความวุ่นวายให้โลกเพิ่มขึ้นอีก โดยใช้ความกร่างแห่งการเป็น “ผู้นำมะกัน” ที่มาจากการเลือกตั้ง ประกาศให้ “กรุงเยรูซาเล็ม” ซึ่งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของ 3 ศาสนา คือ ยูดาห์ อิสลาม และคริสต์ ให้เป็นเมืองหลวงของ “อิสราเอล”
นครเยรูซาเล็ม เป็นที่ตั้งของมัสยิดอัลอักซอ มัสยิดที่สำคัญเป็นอันดับ 3 เป็นสถานที่ที่ศาสดามุฮัมมัดได้ละหมาดก่อนถูกนำตัวขึ้นสู่ชั้นฟ้าเบื้องสูง
สำหรับชาวยิว นครเยรูซาเล็มคือที่ตั้งของพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกสร้าง-ถูกทำลาย มาแล้วสองครั้ง มหาวิหารยุคที่ 2 ถูกโรมันทำลายจนเหลือแต่ “กำแพงร้องไห้”
ความเชื่อของชาวยิว คือการฟื้นฟูมหาวิหารยุคที่ 3 ซึ่งมีพิกัดที่ตั้งเดียวกันกับมัสยิดอัลอักซอและโดมทองแห่งศิลาของชาวมุสลิม!
บัดนี้ “ทรัมป์” เป็น “ผู้สาดน้ำมันเบนซิน” เข้าใส่ “กองเพลิง” ของภูมิภาคนี้แล้ว!
ประเทศมุสลิมทั่วโลก และประเทศทั้งหลายพากันคัดค้านต่อต้านการกระทำอันไร้ความยั้งคิดครั้งนี้ของ “ทรัมป์” กันอย่างกว้างขวาง เพราะพฤติกรรมที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ จะนำไปสู่สถานการณ์ก่อการร้าย และสงครามที่จะปะทะกันอย่างเปิดเผย ระหว่างอิสราเอลที่มะกันหนุนหลัง กับปาเลสไตน์ที่มีชาติอาหรับหนุนหลัง ซึ่งอาจลุกลามบานปลายนั่นเอง
งานนี้..มะกันที่ยกตนเป็น “ตำรวจโลก” ได้เผยตัวตนอีกครั้งว่า มิใช่ “ตำรวจผู้สร้างสันติภาพโลก” แต่เป็น “ตำรวจสามานย์ทำลายสันติภาพโลก” คอยสร้างสงครามต่างหาก!
การกระทำอันจะนำความเลวร้ายมาสู่โลกของประธานาธิบดี “ทรัมป์” ที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยแบบมะกัน “ชาวมะกัน” ทั้งที่เลือกและไม่เลือก “ทรัมป์” จะรับผิดชอบเช่นไรกับความเดือดร้อนและการบาดเจ็บล้มตายของชาวโลก?
“ชาวมะกัน” จะจัดการเช่นไร?กับประธานาธิบดีของพวกเขา เป็นเรื่องน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง..
แต่สำหรับไทย “ผู้นำชาติไทย” คนปัจจุบัน ได้เตรียมรับสถานการณ์โลกที่ระอุขึ้นเรื่อยๆ นี้อย่างไร เพื่อลดผลกระทบให้น้อยที่สุด หรือแปรให้เป็นบวกแก่ชาติไทยให้ได้ นั่นคือสิ่งที่ “ผู้นำชาติไทย” ต้องคิดและต้องทำ
ในสถานการณ์ที่ชาติมหาอำนาจ กำลังแก่งแย่งอำนาจทั้งทางการเมือง-การทหาร-การค้า ฯลฯ โลกที่ระอุด้วยเหตุการณ์ “เกาหลีเหนือ” เหตุการณ์ “กรุงเยรูซาเล็ม” และสถานการณ์เลวร้ายอื่นๆ อีกมากมาย จะบานปลายแค่ไหนก็เป็นเรื่องน่าติดตาม…
คำถาม คือ สถานการณ์แหลมคมดังกล่าว รัฐบาลไทยที่มี “บิ๊กตู่” บริหารชาติมานานกว่า 3 ปีชาญฉลาดและมีศักยภาพพอไหม ที่จะรับสถานการณ์โลกได้อย่างเป็นบวกมากกว่าลบ?
เฮ้อ...แค่ปฏิรูปชาติในเรื่องสำคัญๆ บางเรื่อง จนทุกวันนี้ “ผู้นำบิ๊กตู่” ยังทำไม่ได้เลย!
สถานการณ์โลกที่ว่าน่าเป็นห่วงแล้ว สถานการณ์ในไทยภายใต้ “ผู้นำบิ๊กตู่” ดูจะน่าห่วงกว่าเสียอีก!