ผู้จัดการรายวัน360- ที่ประชุมคณะกรรมการสรรหา กกต. เลือกว่าที่กกต.5 คนแล้ว "เรืองวิทย์-ฐากร-อิสสรีย์-ชมพรรณ์-ประชา" ส่วนอีก 2 คนรอมติที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาคัดเลือก "สมชัย"เสียดาย"ลัดดาวัลย์"ไม่ติด 1 ใน 5 ของการสรรหากกต. ทำให้ขาดตัวแทนภาคประชาสังคม
เมื่อเวลา 14.30 น. วานนี้ (5ธ.ค.) นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะกรรมการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวภายหลังการประชุม คณะกรรมการสรรหาฯว่า ภายหลังการรับฟังวิสัยทัศน์ และซักถามของผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ ทั้ง 15 คน คณะกรรมการสรรหาฯ ได้ประชุมและลงคะแนนโดยเปิดเผย เลือกผู้ที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งกกต. ซึ่งตามพ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกต้องได้คะแนน 2 ใน 3 ของจำนวนคณะกรรมการสรรหา ซึ่งกรรมการสรรหาฯ ได้ลงคะแนนในรอบแรก ได้ผู้ที่เหมาะสมจำนวน 4 คน จากนั้นได้มีการลงคะแนนในรอบที่ 2 คัดเลือกจากผู้ที่ได้รับคะแนนในรอบแรก แต่มีคะแนนไม่ถึง 2 ใน 3 โดยมีจำนวน 5 คน ซึ่งผลการลงคะแนนรอบที่ 2 ปรากฏว่า นายประชา เตรัตน์ ได้รับเลือกเป็นคนสุดท้าย
นายพรเพชร กล่าวว่า วันที่ 7 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. คณะกรรมการสรรหาฯ จะมีการประชุมกันอีกครั้ง เพื่อรับรองมติการประชุมครั้งนี้ เพื่อเสนอให้สนช. พิจารณาต่อไป ส่วนจะบรรจุเข้าวาระการพิจารณาของ สนช.วันไหน ยังไม่ทราบ
ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องการไม่ผ่านการคัดเลือกจากปัญหาคุณสมบัตินั้น ที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ ได้มีการพิจารณาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาไปตามกฎหมายที่วางไว้ จะไปเปลี่ยนหลักเกณฑ์ได้อย่างไร โดยกรรมการสรรหาฯ ยืนยันในมติเดิม ทั้งนี้ในกรณีที่ผู้สมัครถือเป็นผู้ถือหุ้นในสื่อนั้น กรรมการสรรหาฯ มีบรรทัดฐานในครั้งก่อนๆ อยู่แล้ว หากมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะไม่เป็นธรรมกับผู้ที่ถูกตัดสิทธิจากเข้ารับการสรรหาในองค์กรอิสระอื่นๆ นอกจากนั้น ก็เป็นกรณีของการดำรงตำแหน่งที่ไม่ครบตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้
สำหรับในส่วนของการเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นกกต. จำนวน 2 คน ของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกานั้น ทราบจากข่าวว่า ขณะนี้ได้มาแล้ว 1 คน และในวันนี้ (6ธ.ค.) ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จะมีการประชุมเพื่อลงมติเลือกอีก 1 คน ที่เหลือ
สำหรับรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาฯ ให้ดำรงตำแหน่ง กกต. ประกอบด้วย 1. นายเรืองวิทย์ เกษสุวรรณ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ 2. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ 3. นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ 4.นางชมพรรณ์ พงษ์เจริญ สุธีรชาติ ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท วรวิสิฏฐ์ จำกัด และหัวหน้าสำนักงานกฎหมายสุธีรชาติ 5. นายประชา เตรัตน์ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวหลังคณะกรรมการสรรหากกต.ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหา5 คนจาก15 คน ซึ่งในจำนวนนั้นไม่มี นางลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ เพราะนางลัดดาวัลย์ เคยมีส่วนร่วมกับการสังเกตุการณ์เลือกตั้ง ในฐานะกรรมการองค์กรกลางการเลือกตั้ง ตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งตอนนั้น นายโคทม อารียา เป็นเลขานุการองค์กรกลาง กฌจะเห็นนางลัดดาวัลย์ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขาฯ ของนายโคทม ทำงานอย่างขยันขันแข็ง คอยตอบคำถาม คอยประสานงานกับเครือข่าย คอยแก้ปัญหาจุกจิกนานับประการ ทำงานในฐานะอาสาสมัครอย่างเสียสละ
เมื่อนายโคทม มาเป็นกกต.ชุดที่1 นางลัดดาวัลย์ ได้เข้ามาช่วยทำงานด้านกิจการการมีส่วนร่วม ในการสร้างและประสานเครือข่ายองค์กรเอกชน เพื่อมาช่วยในการสังเกตการณ์การเลือกตั้ง สร้างมิติแห่งประชาสังคมให้เป็นจริง และยังบุกเบิกในเรื่องการให้การศึกษาทางการเมืองหรือ civic education อย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นพื้นฐานของหน้างานหนึ่ง ในสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขณะนี้
"นางลัดดาวัลย์ ลาออกจากสำนักงานกกต.ไปทำหน้าที่บริหารสำคัญคือไปเป็นเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปกฎหมาย(คปก.) ที่มี อ.คณิต ณ นคร เป็นประธาน ช่วงนั้นเราก็จะเห็นฝีมือของเธอ ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการปฏิรูปกฎหมายของประเทศ จนถึงวัยเกษียณ" นายสมชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตนคงไม่ก้าวล่วงการตัดสินใจของคณะกรรมการสรรหาฯ เพราะถือว่าน่าจะเป็นการตัดสินใจที่รอบคอบแล้ว เพียงแต่เสียดายในใจว่า องค์ประกอบ กกต.ชุดใหม่ ละเลยการมีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคม ทั้งๆ ที่มีตัวเลือกที่โดดเด่นมากที่สุด เท่าที่จะมีในปัจจุบันแล้ว
เมื่อเวลา 14.30 น. วานนี้ (5ธ.ค.) นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะกรรมการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวภายหลังการประชุม คณะกรรมการสรรหาฯว่า ภายหลังการรับฟังวิสัยทัศน์ และซักถามของผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ ทั้ง 15 คน คณะกรรมการสรรหาฯ ได้ประชุมและลงคะแนนโดยเปิดเผย เลือกผู้ที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งกกต. ซึ่งตามพ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกต้องได้คะแนน 2 ใน 3 ของจำนวนคณะกรรมการสรรหา ซึ่งกรรมการสรรหาฯ ได้ลงคะแนนในรอบแรก ได้ผู้ที่เหมาะสมจำนวน 4 คน จากนั้นได้มีการลงคะแนนในรอบที่ 2 คัดเลือกจากผู้ที่ได้รับคะแนนในรอบแรก แต่มีคะแนนไม่ถึง 2 ใน 3 โดยมีจำนวน 5 คน ซึ่งผลการลงคะแนนรอบที่ 2 ปรากฏว่า นายประชา เตรัตน์ ได้รับเลือกเป็นคนสุดท้าย
นายพรเพชร กล่าวว่า วันที่ 7 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. คณะกรรมการสรรหาฯ จะมีการประชุมกันอีกครั้ง เพื่อรับรองมติการประชุมครั้งนี้ เพื่อเสนอให้สนช. พิจารณาต่อไป ส่วนจะบรรจุเข้าวาระการพิจารณาของ สนช.วันไหน ยังไม่ทราบ
ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องการไม่ผ่านการคัดเลือกจากปัญหาคุณสมบัตินั้น ที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ ได้มีการพิจารณาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาไปตามกฎหมายที่วางไว้ จะไปเปลี่ยนหลักเกณฑ์ได้อย่างไร โดยกรรมการสรรหาฯ ยืนยันในมติเดิม ทั้งนี้ในกรณีที่ผู้สมัครถือเป็นผู้ถือหุ้นในสื่อนั้น กรรมการสรรหาฯ มีบรรทัดฐานในครั้งก่อนๆ อยู่แล้ว หากมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะไม่เป็นธรรมกับผู้ที่ถูกตัดสิทธิจากเข้ารับการสรรหาในองค์กรอิสระอื่นๆ นอกจากนั้น ก็เป็นกรณีของการดำรงตำแหน่งที่ไม่ครบตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้
สำหรับในส่วนของการเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นกกต. จำนวน 2 คน ของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกานั้น ทราบจากข่าวว่า ขณะนี้ได้มาแล้ว 1 คน และในวันนี้ (6ธ.ค.) ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จะมีการประชุมเพื่อลงมติเลือกอีก 1 คน ที่เหลือ
สำหรับรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาฯ ให้ดำรงตำแหน่ง กกต. ประกอบด้วย 1. นายเรืองวิทย์ เกษสุวรรณ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ 2. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ 3. นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ 4.นางชมพรรณ์ พงษ์เจริญ สุธีรชาติ ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท วรวิสิฏฐ์ จำกัด และหัวหน้าสำนักงานกฎหมายสุธีรชาติ 5. นายประชา เตรัตน์ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวหลังคณะกรรมการสรรหากกต.ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหา5 คนจาก15 คน ซึ่งในจำนวนนั้นไม่มี นางลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ เพราะนางลัดดาวัลย์ เคยมีส่วนร่วมกับการสังเกตุการณ์เลือกตั้ง ในฐานะกรรมการองค์กรกลางการเลือกตั้ง ตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งตอนนั้น นายโคทม อารียา เป็นเลขานุการองค์กรกลาง กฌจะเห็นนางลัดดาวัลย์ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขาฯ ของนายโคทม ทำงานอย่างขยันขันแข็ง คอยตอบคำถาม คอยประสานงานกับเครือข่าย คอยแก้ปัญหาจุกจิกนานับประการ ทำงานในฐานะอาสาสมัครอย่างเสียสละ
เมื่อนายโคทม มาเป็นกกต.ชุดที่1 นางลัดดาวัลย์ ได้เข้ามาช่วยทำงานด้านกิจการการมีส่วนร่วม ในการสร้างและประสานเครือข่ายองค์กรเอกชน เพื่อมาช่วยในการสังเกตการณ์การเลือกตั้ง สร้างมิติแห่งประชาสังคมให้เป็นจริง และยังบุกเบิกในเรื่องการให้การศึกษาทางการเมืองหรือ civic education อย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นพื้นฐานของหน้างานหนึ่ง ในสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขณะนี้
"นางลัดดาวัลย์ ลาออกจากสำนักงานกกต.ไปทำหน้าที่บริหารสำคัญคือไปเป็นเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปกฎหมาย(คปก.) ที่มี อ.คณิต ณ นคร เป็นประธาน ช่วงนั้นเราก็จะเห็นฝีมือของเธอ ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการปฏิรูปกฎหมายของประเทศ จนถึงวัยเกษียณ" นายสมชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตนคงไม่ก้าวล่วงการตัดสินใจของคณะกรรมการสรรหาฯ เพราะถือว่าน่าจะเป็นการตัดสินใจที่รอบคอบแล้ว เพียงแต่เสียดายในใจว่า องค์ประกอบ กกต.ชุดใหม่ ละเลยการมีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคม ทั้งๆ ที่มีตัวเลือกที่โดดเด่นมากที่สุด เท่าที่จะมีในปัจจุบันแล้ว