xs
xsm
sm
md
lg

ราคาทองคำใหม่และระเบียบโลกใหม่

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท

<b>นายSergey Shvetsov</b>
วันนี้...คงได้เวลาเปิดเล้าบินออกไปนอกบ้าน นอกประเทศกันอีกซักครั้ง เพราะในบ้านเรา...คงไม่ถึงกับมี “มุกใหม่ๆ” อะไร ให้พูดถึงกันอีกแล้ว โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลทหารของท่านนายกฯ “บิ๊กตู่” ท่านดูจะ “หมดมุก” ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่นอกบ้าน นอกประเทศช่วงนี้ นอกจากเรื่อง “คิมน้อย” ออกมาอวดโชว์ศักยภาพ ขีดความสามารถในการสาดสากกะเบือบิน บ้องข้าวหลามยักษ์ ใส่หัวกบาลชาวอเมริกันชนได้ทุกเมื่อแล้ว คงแทบไม่มีอะไรใหม่ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างยังออกไปแนวกึ๊กๆ กั๊กๆ ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก กันไปตามสภาพนั่นแล...

แต่ก็มีอยู่ข่าวหนึ่ง...ที่ไม่เพียงแต่ “ใหม่” ยังเป็นอะไรที่น่าคิด น่าสนใจ พอสมควร แม้ว่าผู้คนในบ้านเราจะไม่ค่อยหยิบมาพูดถึงซักเท่าไหร่ นั่นก็คือข่าวที่สำนักข่าว “Sputnik” ของรัสเซีย เขาได้นำมาเผยแพร่เอาไว้เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกาฯ ที่ผ่านมา คือข่าวที่รองประธานคนที่ 1 ของธนาคารกลางรัสเซีย “นายเซอร์เกย์ ชเวตซอฟ” (Sergey Shvetsov) ได้ออกมาเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ถึงการหารือระหว่างรัฐบาลและธนาคารกลางประเทศรัสเซีย จีน อินเดีย บราซิล และแอฟริกาใต้หรือประเทศกลุ่ม “BRICS” นั่นเอง ที่กำลังคิดจะแสวงหาความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง “ระบบและมาตรฐานการซื้อ-ขายทองคำ” ขึ้นมาใหม่ ที่แยกและแตกต่างไปจากระบบเดิมๆ มาตรฐานเดิมๆ ซึ่งถูกกำหนดศูนย์กลางเอาไว้ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และบางส่วนของประเทศสวิตเซอร์แลนด์...

คือการที่ระบบและมาตรฐานการซื้อ-ขายทองคำแบบเดิมๆ ได้ถูกกำหนดไว้ที่กรุงลอนดอน และบางส่วนของประเทศสวิสนั้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม แต่ต้องถือว่ามันมีส่วนสำคัญเอามากๆ ที่ทำให้ “ระบบเศรษฐกิจโลก” หรือกระทั่ง “ระเบียบโลก” ย่อมต้องเป็นไปในแบบเดิมๆ ตามมาตฐานเดิมๆ นั่นเอง คือเป็นโลกที่ต้องหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามความปรารถนา ความต้องการของพวก “อีลิท” ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นพวกนายธนาคารจาก Barclays Capital, Deutsche Bank, Scotiabank, HSBC, Societe General ที่จะมานั่งร่วมประชุมในห้องประชุมเล็กในสำนักงานของอภิมหาเศรษฐีระดับโลกอย่างตระกูล “รอธส์ไชลด์” (Rothschild) ระหว่างเวลา 10.30-15.00 ของแต่ละวัน เพื่อกำหนดราคาขึ้นๆ-ลงๆ ของทองคำในแต่ละวันนั่นเอง...

ซึ่งตามความเห็นของ “นายเซอร์เกย์ ชเวตซอฟ” สรุปไว้ดังนี้ว่า... “ระบบการค้า การซื้อ-ขายทองคำตามมาตรฐานเดิมๆ นั้น ค่อนข้างที่จะไม่สอดคล้องกับภาวะที่เป็นจริง โดยเฉพาะในแหล่งซื้อ-ขายใหญ่ๆ ที่กำลังปรากฏตัวขึ้นมา ไม่ว่าในจีน อินเดียหรือแอฟริกาใต้ ดังนั้น...เราจึงได้เริ่มหารือถึงความเป็นไปได้ ที่จะจัดตั้งระบบซื้อ-ขายทองคำร่วมกันภายในกลุ่มประเทศ BRICS โดยอาศัยความร่วมมือตามพื้นฐานข้อเท็จจริงของแต่ละฝ่าย...” และไม่ว่าเป็นไปได้-เป็นไปไม่ได้ แต่ภายใต้ความพยายามรวมตัวกันของกลุ่มประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจระดับ 16.6 ล้านล้านดอลลาร์ ไม่น้อยกว่า 22 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีโลก แถมแต่ละประเทศยังพยายามหันมาเพิ่มทองคำสำรองให้กับประเทศตัวเอง ชนิดพร้อมที่จะซื้อทองทุกเส้นที่ขวางหน้าไม่ว่าระดับเท่าหนวดกุ้ง หรือระดับใหญ่โตปานโซ่รถไฟก็ตาม ย่อมทำให้ความร่วมมือดังกล่าว กลายเป็นอะไรที่ “ท้าทาย” ต่อระบบเดิมๆ มาตรฐานเดิมๆ อย่างน่าคิด น่าสนใจเอามากๆ ไม่ต่างไปจากการปรากฏตัวของสถาบันการเงินระดับโลก อย่าง “ธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่” (BRICS-New Development Bank) และ “กองทุนเงินสำรองฉุกเฉิน” (Contingent Reserve Arrangement-CRA) ที่โผล่ขึ้นมาทาบรัศมี “ธนาคารโลก” (World Bank) และ “กองทุนการเงินระหว่างประเทศ” (IMF) นั่นเอง...

ปัจจุบันนี้...ว่ากันว่าปริมาณทองคำสำรองของรัสเซีย พุ่งพรวดขึ้นไปอยู่อันดับ 6 ของประเทศที่มีทองคำสำรองสูงสุดในโลก ตามหลังอเมริกา เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส และจีนอยู่แค่ไม่กี่โค้ง จากที่เคยมีปริมาณทองคำสำรองประมาณ 343 ตัน นับจากช่วงที่ประธานาธิบดี “ปูติน” ได้รับเลือกเป็นผู้นำรัสเซีย มาถึงทุกวันนี้...ทองคำสำรองของรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็น 1,801 ตัน หรือเพิ่มพรวดพราดขึ้นไปกว่า 500 เปอร์เซ็นต์เอาเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงหลังจากที่เกิดการลงประชามติผนวกไครเมียเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ประธานาธิบดี “ปูติน” ท่านกลายสภาพเป็น “คุณน้าเกี่ยวสร้อย” (คนละแบบกับคุณน้องเกี่ยวก้อยบ้านเรา) คือหันมาซื้อแหลก กวาดทองทุกเส้นที่ขวางหน้า ไม่น้อยไปกว่าคุณพี่จีนที่หันมากวาดทอง ซื้อทอง เข้าพก เข้าห่อ จนปริมาณทองคำสำรองน่าจะไม่น้อยไปกว่า 1,842.6 ตันเป็นอย่างน้อย หรือคุณปู่อินตะระเดียที่กวาดๆเก็บๆ ไม่น้อยไปกว่ากัน เพิ่มปริมาณทองคำสำรองภายในประเทศไปถึง 557.8 ตัน ไล่หลังตามมาในแต่ละโค้ง...

เหตุที่รัสเซีย จีน หรืออินเดีย ต่างหันมาเป็น “คุณน้องเกี่ยวสร้อย” ไปตามๆ กัน ก็อาจด้วยเหตุผลอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหะมีค่า “นายแมทธิว เทอร์เนอร์” (Matthew Turner) แห่งบริษัทวิเคราะห์สินทรัพย์ “Macquarie Group” ได้ให้คำอธิบายไว้กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อไม่นานมานี้นั่นแหละว่า... “ด้วยเหตุเพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่เป็นอิสระจากอำนาจอิทธิพลโดยการแทรกแซง กดดันของรัฐบาลใดๆ ก็ตาม และด้วยผลกระทบแห่งความเสี่ยงที่มีอยู่น้อยมากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ จึงได้ถูกนำเอามาเป็นทุนสำรองของแต่ละประเทศภายใต้สถานการณ์ที่อัตราความเสี่ยง ความไม่แน่นอนปรากฏเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และด้วยสิ่งเหล่านี้นี่เอง...ที่ทำให้รัสเซียสามารถเผชิญหน้ากับการบอยคอตทางเศรษฐกิจการเงินจากฝ่ายตะวันตกมาได้โดยตลอด...”

แต่ไม่เพียงแค่หวังเผชิญหน้าต่อการกดดันแทรกแซงใดๆ เท่านั้น...ความพยายามรวมตัวของกลุ่มประเทศ BRICS เพื่อจัดตั้งระบบการซื้อ-ขายทองคำและกำหนดมาตรฐานราคาทองคำขึ้นมาใหม่ในคราวนี้ อาจไม่ต่างอะไรไปจากการรุกคืบ การพร้อมที่จะยืนหยัด ตอบโต้ เพื่อหาทาง “เปลี่ยนระบบโลก” หรือ “ระเบียบโลก” ให้ผิดแผกแตกต่างไปจากเดิมนั่นเอง!!!
กำลังโหลดความคิดเห็น