เด็กสวนกุหลาบเขียนป้ายไทยแลนด์แดนกะลาในงานพาเหรดฟุตบอลจตุรมิตรกลายเป็นดราม่าของสังคมไทยมีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แล้วแปลกไหมฝ่ายที่เห็นด้วยส่วนใหญ่แม้ไม่ใช่ทั้งหมดจะมีจุดยืนทางการเมืองไปทางเสื้อแดง และที่ไม่เห็นด้วยส่วนใหญ่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับเสื้อแดง
วาทกรรมชังชาติและอยากไปอยู่แผ่นดินอื่นได้ยินและอ่านบ่อยครั้งในโซเชียลมีเดียไปทางฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าก้าวหน้า ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดระบบความคิดของคนกลุ่มนี้จึงไปในทางเดียวกันคือไม่เอาเจ้า หนุนธรรมกาย และเย้ยหยันสิ่งที่ตูน บอดี้สแลมทำอยู่ ดูถูกวัฒนธรรมตัวเอง ราวกับว่าต้องมีความคิดอย่างนี้เท่านั้นที่เป็นพวกฟ้ากว้าง เป็นเสรีนิยม
กะลาที่แท้จริงมาจากผลของลูกมะพร้าวที่มีประโยชน์เพราะสามารถนำไปแปรรูปเพื่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากมาย ส่วนคำว่า กบในกะลา หรือที่ถูกต้องตามสุภาษิตคือ “กบในกะลาครอบ” หมายความว่า ผู้มีความรู้และประสบการณ์น้อยแต่สำคัญตนว่ามีความรู้มาก
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับว่า คำว่า กะลาแลนด์ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เป็นคำที่นำมาหมิ่นคนที่มีทัศนคติทางการเมืองไม่ตรงกับตัวเอง และหมิ่นระบอบการเมืองที่ตัวเองไม่ศรัทธา บางครั้งก็ใช้กันทั้งสองฝั่งการเมือง แต่คนเสื้อแดงจะใช้คำนี้มากกว่า
จนดูเหมือนว่า ปัจจุบันนี้ความหมายมันเปลี่ยนไปกลายเป็นการชังชาติ เพราะสังคมแบ่งเป็นสองขั้วมีความดีและความชั่วไม่เหมือนกัน ต่างก็กล่าวหาว่าสิ่งที่อีกฝ่ายทำนั้นเลว เหมือนถ้าเราไปตามเพจเสื้อแดงก็จะด่าอีกฝ่ายว่าชั่ว ควาย มีคำพูดทำนองว่าอะไรทำให้คนเราคิดไปทำนองนั้น เหมือนจะบอกว่าเรื่องนี้มันผิดเห็นๆ คิดได้ยังไง แต่เมื่อเราไปอ่านเพจฝั่งตรงข้ามกับเสื้อแดงก็เหมือนกัน เหมือนสีที่เห็นฝ่ายหนึ่งบอกขาว แต่ฝ่ายหนึ่งบอกดำ ซึ่งในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้ต้องมีฝ่ายหนึ่งที่มองเห็นสีผิดหรือตาบอดสีแน่ๆ ไม่ใช่อาหารที่คนหนึ่งจะบอกว่าอร่อย แต่อีกฝ่ายอาจจะบอกว่าไม่อร่อยได้
พูดกันตามความเป็นจริงความขัดแย้งในบ้านเมืองเราทุกวันนี้นั้น ทำให้ต่างฝ่ายต่างก็ถือกะลาคนละใบเพื่อเอาไปครอบคนอื่นแล้วแสดงความเห็นและท่าทีที่เย้ยหยัน เครื่องมือสื่อสารในปัจจุบันที่ทุกคนมีโซเชียลมีเดียทำให้มันง่ายที่จะประกาศศักดาเช่นนั้นเข้าใส่กัน
สำหรับผมแล้วความคิดความเชื่อทางการเมืองไม่ใช่เรื่องที่ผิด คนที่นิยมระบอบประชาธิปไตยก็ไม่ผิด คนนิยมระบบสาธารณรัฐก็ไม่ผิด คนนิยมเผด็จการก็ไม่ผิด ตราบเท่าที่ความนิยมนั้นมันไม่ส่งผลกระทบต่อสังคม แต่มันจะผิดเมื่อสนับสนุนการกระทำผิดของฝ่ายที่ตัวเองสนับสนุน มองเรื่องฝ่ายที่ตัวเองผิดเป็นเรื่องที่ถูก หรือมีทัศนะผิดเช่นมาจากการเลือกตั้งถ้ารัฐบาลทำผิด ต้องตัดสินด้วยการเลือกตั้งของประชาชนในสมัยหน้า ไม่ใช่ออกมาชุมนุมขับไล่
หลายปีมานี้เกิดคนที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย พวกนี้เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่เรียกประเทศตัวเองว่ากะลาแลนด์ เพราะเขาไม่พอใจคนกลุ่มหนึ่งที่มีความคิดตรงข้ามกับเขา แล้วเรียกว่าพวกต่อต้านประชาธิปไตย แต่เมื่อเราพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล้ว ไม่มีใครต่อต้านประชาธิปไตย แต่เขาต่อต้านคนที่ได้รับอำนาจจากการเลือกตั้งจากสิทธิในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนไปในทางที่ไม่ชอบต่างหาก
แต่ฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าประชาธิปไตยมีความคิดว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ตัวเองเลือกมา เป็นรัฐบาลที่ชนะการเลือกตั้งดังนั้นจึงมีความชอบธรรม ความคิดนี้ครอบงำเหนือหลักการของความถูกผิด โดยยึดหลักการว่า ถ้ารัฐบาลที่ชนะเลือกตั้งทำไม่ถูกต้องเมื่อครบวาระก็ให้ประชาชนตัดสิน พวกนี้ก็เลยครอบกะลาใส่ฝ่ายที่คิดว่า ถ้ารัฐบาลทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องประชาชนก็มีความชอบธรรมที่จะออกมาขับไล่ว่า เป็นฝ่ายต่อต้านประชาธิปไตยและนิยมเผด็จการ
แล้วก็ครอบกะลาขังตัวเอง ไม่เชื่อว่ารัฐบาลที่ตัวเองเลือกนั้นทำในสิ่งที่ไม่ชอบธรรม ไม่เชื่อว่ารัฐบาลที่ตัวเองชอบนั้นทุจริตคอร์รัปชัน ไม่เชื่อว่ารัฐบาลที่ตัวเองชอบนั้นทุจริตเชิงนโยบาย แม้ต่อมาศาลได้ตัดสินความผิดออกมาแล้ว ก็สร้างกะลาว่า ศาลนั้นถูกแทรกแซงใส่ร้าย แม้จะอธิบายให้เห็นรูปธรรม มีตัวเลขบัญชีที่ทุจริตไปอย่างชัดแจ้ง มีหลักฐานเชิงประจักษ์ ก็ไม่เชื่อว่า รัฐบาลที่ตัวเองเลือกมานั้นทำอย่างนั้นจริงๆ
เพราะคำพูดที่ว่า รัฐบาลที่ตัวเองชื่นชอบดูกลั่นแกล้งจากชนชั้นสูงที่อิจฉาที่ประชาชนนิยมผู้นำที่ตัวเองเลือกมากกว่า มันฟังแล้วเร้าใจกว่าและความเชื่อก็อยู่เหนือกว่าเหตุผลอยู่แล้วในเบื้องลึกของมนุษย์
ดังนั้นนอกจากครอบกะลาผู้อื่นแล้ว บางครั้งก็เอากะลาครอบตัวเองเพื่อรักษาความเชื่อของตัวเองเอาไว้
เมื่อผิดหวังจากระบอบที่ตัวเองไม่ได้เลือก ความรู้สึกก็บีบคั้นจนกลายเป็นความชังชาติและวัฒนธรรมของตัวเอง
กานดา นาคน้อย เซเลปของฝ่ายชังชาติ โพสต์ทวิตเตอร์ว่า ชายนิรนามถามว่า “ทำไมคุณชอบแซะประเทศไทยไม่มีดีเลยเหรอครับ?” ฉันคิดว่าไทยก็น่าไปเที่ยวชั่วครั้งชั่วคราว น่าศึกษาว่าทำไมไทยติดกับดักประเทศปานกลางหลายทศวรรษ แต่ฉันไม่อยากโกหกว่าไทยน่าอยู่เพราะฉันไม่เลือกอยู่ไทยนี่คะ คนเลือกอยู่เมืองนอกแต่สรรเสริญว่าไทยน่าอยู่สิคะแปลก
เราอาจพูดว่าเธอพูดความจริง แต่เชื่อเลยว่ามีคนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับเธอ ไม่ใช่ทัศนะที่เธอพูดเป็นเรื่องที่ผิด เพราะไม่ใช่เรื่องสีขาวกับสีดำ เธอมีสิทธิคิดเช่นนั้น เรื่องรสนิยมเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ ขณะเดียวกันก็มีชาวต่างชาติมากมายที่อยากอยู่ในประเทศไทย ย้ายจากประเทศตัวเองที่มีรายได้ประชาชาติสูงมาอยู่เมืองไทย พูดถึงเมืองไทยในแง่ดี เข้าใจถึงความหมายของคำว่าความแตกต่างทางวัฒนธรรม ความแตกต่างของมุมมองเหล่านี้เองที่จะตัดสินว่าเธอเป็นคนเช่นไร ดังนั้นความคิดเรื่องกะลาแลนด์ก็ไม่ต่างกัน เพราะมันมาจากจิตใต้สำนึกของตัวเองที่กักขังไว้ภายในตัวนั่นเอง
ถ้าเราสังเกตในฐานะของพวกที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายก้าวหน้า ถ้าใครพูดถึงความเป็นไทย พูดถึงรูปแบบการปกครองแบบไทยๆ พวกนี้ก็จะเย้ยหยันว่า เป็นพวกใต้กะลา ก้าวไม่ทันโลกกว้างและวิวัฒนาการของโลกที่เปลี่ยนไป ถ้าใครเชื่อมั่นและศรัทธาต่อสถาบันพวกนี้ก็จะเอากะลามาครอบว่า ล้าหลัง งมงาย มีจิตสำนึกความเป็นทาส
คล้ายกับพวกที่ไม่เชื่อมั่นศรัทธา ความคิด ศักยภาพของตัวเอง และชาติตัวเองว่า จะสามารถกำหนดทิศทางของตัวเองได้ มันต้องเดินแนวทางที่ชาติตะวันตกทำไว้เท่านั้นจึงจะถูกต้องและเปิดโลกใต้กะลาออกมา ทั้งๆ ที่จริงแล้วมันอาจจะแตกต่างกันแค่รูปแบบของกะลาเท่านั้นเอง
การชังชาติและมองชาติของตัวเองเป็นกะลาแลนด์ มันก็เริ่มจากการไม่เชื่อมั่นตัวเอง ไม่เคารพความคิดต่างของเพื่อนร่วมชาติ และหมิ่นแคลนความคิดของคนอื่นว่าคับแคบ ซึ่งก็คือการเอากะลาครอบตัวเองเอาไว้
ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan