ผู้จัดการรายวัน360- ดีเอสไอรับ"ทุจริต สกสค.-จีทูจี" เป็นคดีพิเศษ ยันไม่ปล่อยคดี “โอ๊ค”พัวพันทุจริตกรุงไทยปล่อยกู้กลุ่มกฤษดามหานคร หมดอายุความแน่ ด้าน ปปง. ยึดอายัดทรัพย์ "เสี่ยเปี๋ยง" เอี่ยวทุจริตจากการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐเพิ่มอีก 25 รายการ มูลค่ากว่า 2,300 ล้านบาท เพื่อป้องกันโยกย้ายทรัพย์สิน
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีมติให้รับเรื่องไว้เป็นคดีพิเศษ 4 เรื่องคือ 1. กรณีกล่าวหาขบวนการฟอกเงินเกี่ยวกับการทุจริตในการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กับบริษัทบิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด 2. กรณีกล่าวหาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เซนลิสซิ่ง จำกัด มีพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และหลีกเลี่ยงภาษี 3. กรณีบริษัทเอ็ม -แลนดาร์ช จำกัด กับพวก ได้ร่วมกันฉ้อโกง หรือลวงขายเครื่องตรวจหาสารเสพติดยี่ห้อ อัลฟ่า 6 ที่ไม่มีประสิทธิภาพให้กับกรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย 4. กรณีขบวนการฟอกเงินอันเนื่องมาจากการทุจริตสัญญาระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ตามโครงการรับจำนำข้าวปี 2554 - 2555 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มาร้องทุกข์ให้ ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาในส่วนของ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง จำเลยในคดีดังกล่าว เนื่องจาก ปปง. ดำเนินคดีฟอกเงินในทางแพ่งไปแล้ว แต่อยากให้ดีเอสไอ ดำเนินในส่วนของคดีอาญา
เมื่อถามถึงความคืบหน้าภายหลังแจ้งข้อกล่าวหา นายพานทองแท้ ชินวัตร กรณีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้เครือกฤษดามหานคร พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างรอผู้ถูกกล่าวหา นำเอกสารมาชี้แจงเพิ่มเติม เราดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้ให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง และแสดงหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งนายพานทองแท้ แจ้งว่าจะมีการส่งเอกสารเพิ่มเติม แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงกำหนดนัด ยืนยันจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในอายุความที่จะสิ้นสุดในกลางปี 2561
ด้านเว็บไซต์สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เผยแพร่ คำสั่งคณะกรรมการการธุรกรรม ที่ ย.125/2560 ลงวันที่ 25 ต.ค.2560 เรื่องอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) รายกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวกับการทุจริตจากนโยบายการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง กับพวก (เพิ่มเติม) กรณี บริษัท ทีซี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นผู้ครอบครอง จำนวน 25 รายการ รวมราคาประเมินทั้งสิ้น 2,300 ล้านบาท พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน อาทิเช่น โฉนดที่ดิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ,โฉนดที่ดิน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี , โฉนดที่ดิน ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ , โฉนดที่ดิน ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ , โฉนดที่ดิน แขวงและเขตลาดพร้าว จ.กรุงเทพฯ , โฉนดที่ดิน แขวงและเขตคันนายาว จ.กรุงเทพฯ , โฉนดที่ดิน แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง จ.กรุงเทพฯ และ โฉนดที่ดิน แขวงสามเสนนอก เขตบางกะปิ จ.กรุงเทพฯ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง (ถ้ามี)
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคล รวมทั้งผู้ซึ่งเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานฟอกเงินคดีดังกล่าว พบข้อมูลว่า กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง กับพวก เป็นเจ้าของทรัพย์สิน 25 รายการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วปรากฏว่า เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 2542 และเนื่องจากทรัพย์สินในคดีนี้เป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินตามโฉนดที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง โดยผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อาจดำเนินการทางนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงชื่อในทางทะเบียนได้ หากมิได้มีการออกคำสั่งอายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดำเนินการโอน จำหน่าย ยักยอก ปกปิด ซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว และหากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน สำนักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้
ส่วนกรณีที่ผู้ถูกอายัดทรัพย์สินประสงค์จะขอให้มีการเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์สินดังกล่าว ให้ยื่นคำขอต่อ เลขาธิการปป. พร้อมด้วยหลักฐานที่เกี่ยวข้องแสดงว่าเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกอายัดดังกล่าวนั้น มิใช่ทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิด ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือทราบคำสั่งนี้
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ตามที่คณะกรรมการธุรกรรม ได้มีคำสั่ง เรื่องการอายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง กับพวก มาแล้ว 9 ครั้ง จำนวนทั้งสิ้น 1,865 รายการ พร้อมดอกผล
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีมติให้รับเรื่องไว้เป็นคดีพิเศษ 4 เรื่องคือ 1. กรณีกล่าวหาขบวนการฟอกเงินเกี่ยวกับการทุจริตในการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กับบริษัทบิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด 2. กรณีกล่าวหาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เซนลิสซิ่ง จำกัด มีพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และหลีกเลี่ยงภาษี 3. กรณีบริษัทเอ็ม -แลนดาร์ช จำกัด กับพวก ได้ร่วมกันฉ้อโกง หรือลวงขายเครื่องตรวจหาสารเสพติดยี่ห้อ อัลฟ่า 6 ที่ไม่มีประสิทธิภาพให้กับกรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย 4. กรณีขบวนการฟอกเงินอันเนื่องมาจากการทุจริตสัญญาระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ตามโครงการรับจำนำข้าวปี 2554 - 2555 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มาร้องทุกข์ให้ ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาในส่วนของ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง จำเลยในคดีดังกล่าว เนื่องจาก ปปง. ดำเนินคดีฟอกเงินในทางแพ่งไปแล้ว แต่อยากให้ดีเอสไอ ดำเนินในส่วนของคดีอาญา
เมื่อถามถึงความคืบหน้าภายหลังแจ้งข้อกล่าวหา นายพานทองแท้ ชินวัตร กรณีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้เครือกฤษดามหานคร พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างรอผู้ถูกกล่าวหา นำเอกสารมาชี้แจงเพิ่มเติม เราดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้ให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง และแสดงหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งนายพานทองแท้ แจ้งว่าจะมีการส่งเอกสารเพิ่มเติม แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงกำหนดนัด ยืนยันจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในอายุความที่จะสิ้นสุดในกลางปี 2561
ด้านเว็บไซต์สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เผยแพร่ คำสั่งคณะกรรมการการธุรกรรม ที่ ย.125/2560 ลงวันที่ 25 ต.ค.2560 เรื่องอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) รายกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวกับการทุจริตจากนโยบายการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง กับพวก (เพิ่มเติม) กรณี บริษัท ทีซี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นผู้ครอบครอง จำนวน 25 รายการ รวมราคาประเมินทั้งสิ้น 2,300 ล้านบาท พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน อาทิเช่น โฉนดที่ดิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ,โฉนดที่ดิน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี , โฉนดที่ดิน ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ , โฉนดที่ดิน ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ , โฉนดที่ดิน แขวงและเขตลาดพร้าว จ.กรุงเทพฯ , โฉนดที่ดิน แขวงและเขตคันนายาว จ.กรุงเทพฯ , โฉนดที่ดิน แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง จ.กรุงเทพฯ และ โฉนดที่ดิน แขวงสามเสนนอก เขตบางกะปิ จ.กรุงเทพฯ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง (ถ้ามี)
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคล รวมทั้งผู้ซึ่งเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานฟอกเงินคดีดังกล่าว พบข้อมูลว่า กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง กับพวก เป็นเจ้าของทรัพย์สิน 25 รายการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วปรากฏว่า เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 2542 และเนื่องจากทรัพย์สินในคดีนี้เป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินตามโฉนดที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง โดยผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อาจดำเนินการทางนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงชื่อในทางทะเบียนได้ หากมิได้มีการออกคำสั่งอายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดำเนินการโอน จำหน่าย ยักยอก ปกปิด ซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว และหากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน สำนักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้
ส่วนกรณีที่ผู้ถูกอายัดทรัพย์สินประสงค์จะขอให้มีการเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์สินดังกล่าว ให้ยื่นคำขอต่อ เลขาธิการปป. พร้อมด้วยหลักฐานที่เกี่ยวข้องแสดงว่าเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกอายัดดังกล่าวนั้น มิใช่ทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิด ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือทราบคำสั่งนี้
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ตามที่คณะกรรมการธุรกรรม ได้มีคำสั่ง เรื่องการอายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง กับพวก มาแล้ว 9 ครั้ง จำนวนทั้งสิ้น 1,865 รายการ พร้อมดอกผล