xs
xsm
sm
md
lg

พฤหัส เสาร์ ราหู : เหตุทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

เผยแพร่:   โดย: สามารถ มังสัง

เมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้เขียนได้ฟังโหรสมัครเล่นท่านหนึ่ง ได้พูดถึงสถานการณ์บ้านเมืองของประเทศไทยในด้านเศรษฐกิจ และการเมือง โดยอาศัยแนวทางแห่งโหราศาสตร์สรุปได้ดังนี้

1. เศรษฐกิจจากนี้ไปจะเป็นขาขึ้น เนื่องจากดาวพฤหัสโคจรเข้าเล็งลัคนาดวงเมือง และในขณะเดียวกันดาวเสาร์จากเรือนมรณะ และทำมุมเล็งอังคารเข้าสู่เรือนศุภะ ทำให้ภาคเกษตรกรรมมีผลผลิตดีขึ้น

2. ในด้านการเมืองอยู่ในระหว่างขาลง รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงโดยการปรับ ครม. เพื่อลดแรงกดดันทางการเมืองด้วยการปรับรัฐมนตรีซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งวิกฤตศรัทธาออกไป และนำคนใหม่ซึ่งเป็นคนดี เป็นคนเก่ง เป็นคนที่เชื่อถือของประชาชนเข้ามาแทน หรือไม่อาจเปลี่ยนแปลงทั้งชุดเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง

เกี่ยวกับ 2 ประเด็นข้างต้น ผู้เขียนในฐานะโหรสมัครเล่น และพอจะมีสถิติเกี่ยวกับการเปลี่ยนในแง่ของโหราศาสตร์อยู่บ้าง เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองว่า จะมีการปรับ ครม.ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 60 และถ้าไม่มีการปรับหรือปรับแล้วไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนอาจไปทั้งชุดในช่วง 6 ม.ค.-24 เม.ย. 61

แต่ไม่เห็นด้วยกับประเด็นที่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นขาขึ้น เนื่องจากดาวพฤหัสเล็งลัคนาและเสาร์ย้ายเข้าเรือนศุภะ เนื่องจากว่าดาวราหูทำมุมกับพุธ ถึงแม้การผลิตทางด้านเกษตรจะมากขึ้น แต่ราคาไม่ดีขึ้นเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น กำลังซื้อของเกษตรกรยังมีไม่มากนัก ประกอบกับปัญหาการเงินการคลังของประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากการจ่ายในภาครัฐเพิ่มขึ้น ในขณะที่การจัดเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงทำให้งบประมาณที่ขาดดุลอยู่แล้วขาดดุลเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบถึงค่าเงินบาทไม่มีเสถียรภาพ ทำให้ผู้ส่งออกเสี่ยงต่อการขาดทุน อัตราแลกเปลี่ยนในปลายปี 61-กลางปี 62 ทั้งยังอาจเกิดภัยแล้งรุนแรง ผลผลิตทางด้านการเกษตรเสียหายในห้วงเวลาเดียวกัน เนื่องจากดาวเสาร์จะทำมุมเล็งมฤตยูเดิม และมฤตยูจะทำมุมโยคกับมฤตยูเดิมบีบอังคารเจ้าเรือนลัคนา ในขณะเดียวกันดาวพฤหัสจะโคจรในเรือนมรณะ ดังนั้น เศรษฐกิจจึงไม่น่าจะเป็นขาขึ้นในช่วงนี้ แต่ปลายปี 62 ไปแล้วดีขึ้นแน่นอน

แต่อย่างไรก็ตาม การทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองโดยดูจากดวงเมืองเพียงอย่างเดียว อาจผิดพลาดและคลาดเคลื่อนได้ถึง 30% แต่ถ้าจะให้คำทำนายถูกต้องเพิ่มขึ้น และมีความผิดพลาดน้อยลงกว่านี้ ก็จะต้องนำดวงชะตาของผู้นำรัฐบาลมาดูประกอบด้วย

ดังนั้น ถ้าโหรท่านใดมีดวงผู้นำรัฐบาลก็ลองนำมาเทียบเคียงกับดวงเมืองในช่วงเวลาเดียวกัน

1. ลัคนาของดวงชะตาไม่เป็น 6 8 หรือ 12 กับลัคนาของดวงเมือง

2. ในดวงจะต้องไม่มีดาวเสาร์หรือราหูทำมุมเปลี่ยนดวงชะตา ทั้งโดยเรือนและทักษา

3. ดาวพฤหัสในดวงจะโคจรในเรือนที่ให้คุณแก่ดวงชะตา

ถ้าอยู่ในเงื่อนไข 3 ประการดังกล่าวข้างต้น คงจะอยู่ในตำแหน่งผู้นำได้ต่อไป แต่จะต้องมีการปรับครม.

ในทางตรงกันข้ามคือ

1. ดวงชะตามีลัคนาเป็น 6 8 หรือ 12 กับลัคนาของดวงเมือง

2. ในดวงจะมีดาวเสาร์หรือราหูโคจรในตำแหน่งให้โทษแก่ดวงชะตา โดยเรือนหรือโดยทักษาเป็นกาลกิณี

3. ดาวพฤหัสโคจรในตำแหน่งไม่ให้คุณแก่ดวงชะตา จะโดยเรือนคือเป็น 6 8 หรือ 12 กับลัคนาหรือตำแหน่งคือเป็นประและนิจ เป็นต้น

ถ้าดวงผู้นำเข้าเงื่อนไข 3 ประการนี้ เป็นที่แน่นอนว่า หมดความชอบธรรมที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไป

อนึ่ง การคาดการณ์เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอนาคต โดยอาศัยศาสตร์พยากรณ์ทุกแขนงไม่ว่าจะเป็นการคาดการณ์เกี่ยวกับคนหรือบ้านเมือง นอกจากจะต้องอาศัยหลักวิชาการของศาสตร์นั้นๆ แล้ว จะต้องนำสถิติที่นักพยากรณ์แต่ละท่านเก็บไว้จากอดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นฐานในการพยากรณ์อนาคตจึงจะทำให้เกิดความแม่นยำเป็นที่น่าเชื่อถือ และยังประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่ผู้ที่มาขอคำปรึกษาทางด้านวิชาการสาขานี้

แต่ถ้าไม่ยึดหลักวิชาการ และให้ทำนายโดยใช้พรรณนาโวหาร ก็จะทำให้เกิดความผิดพลาดและทำให้ศาสตร์เสื่อมขาดความเชื่อถือ และสูญหายไปจากสังคมได้
กำลังโหลดความคิดเห็น