“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
เรื่องราวที่คนไทยและชาวต่างชาติ พูดถึง“ในหลวงรัชกาลที่ 9” มีหลายหลากรูปแบบ นับไม่ถ้วน!
หลังพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ “ในหลวงรัชกาลที่ 9”ของปวงชนชาวไทย ผ่านพ้นไปอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติสูงสุด ผมได้รับไลน์ที่มีแง่มุมชวนคิดมากมาย..ชื่อว่า..
“อย่าแค่แขวนพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ไว้ในบ้าน..”
โดย ศาสตราจารย์ แมนเฟรด คราเมส (Prof. Manfred Krames) ชาวเยอรมันที่เคยอาศัยอยู่ศรีลังกามาหลายปี กระทั่งหลังมหาสึนามิไม่นาน เขาก็ย้ายมาพำนักในประเทศไทย ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยเป็นที่ปรึกษาบริษัทประกอบธุรกิจสปาใหญ่แห่งหนึ่ง
ฝรั่งชาวเยอรมันคนนี้ มีแง่คิดและมุมมองที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ในเรื่อง“ในหลวง”กับ“คนไทย” “ศจ.คราเมส”บอกว่า เวลาได้ยินคนไทยพูดว่า รักในหลวง เขารู้สึกเศร้าใจ
เขาถามว่า เป็นคุณ คุณจะไม่เศร้าใจหรือ ถ้าคุณมีลูกที่ไม่เคยเชื่อคำสอนของคุณเลย ไม่เคยเดินตามแนวทางที่คุณวางไว้ ไม่ต้องการเรียนรู้อะไรจากคุณ
“สิ่งที่พวกเขาทำนั้น เพียงแค่ก่อปัญหา แล้วก็เรียกร้องให้ท่านยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเสมอ ในขณะ
เดียวกันก็พร่ำพูดว่า ลูกรักพ่อ ท่านจะรู้สึกอย่างไร”
ในทัศนะของเขา ในหลวง คือครูผู้ยิ่งใหญ่ หรือ บรมครูผู้ที่เราต้องเรียนรู้จากพระองค์ท่าน
“..ทรงเป็นครูของเรา แต่ได้โปรดตระหนักไว้เสมอว่า อย่าศึกษาเล่าเรียนเพื่อเอาใจครู แต่จงศึกษาเล่าเรียนเพื่อประโยชน์ และความดีงามให้แก่ตัวท่านเอง..
..ผมคิดว่า เป็นการไม่รับผิดชอบ ที่จะนั่งๆนอนๆใช้ชีวิตอย่างสบาย และให้คนคนเดียวทำงานอย่างหนัก เพื่อดูแลและแก้ไขปัญหาของชาติ ท่าทีเช่นนี้เป็นสิ่งที่แสดงถึงความไม่เคารพพระองค์ ซึ่งแย่เสียกว่าการพูดถึงพระองค์ในทางที่ไม่ดีในที่สาธารณะ
ประเทศหลายแห่งในโลกจะดีใจมาก ที่มีพระมหากษัตริย์เช่นนี้ แต่ท่านเองเป็นคนไทย มีพระองค์เป็นกษัตริย์ แต่ไม่ได้นำประโยชน์จากพระองค์มาใช้ประโยชน์ในชีวิตเลย
ผมคิดว่า น่าละอาย ถ้าหากเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปสู่วาระใหม่ และมีกระแสลมแรงมาจากทิศทางอื่น ประเทศหลายแห่งในโลกจะชี้มายังประเทศไทยและดูแคลนว่า ดูสิ พวกเขามีครูที่ยิ่งใหญ่ แต่ได้เรียนรู้จากพระองค์น้อยมาก!
ผมรู้สึกสงสารพระองค์อย่างสุดซึ้ง เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นบุคคลเพียงคนเดียวที่พยายามพัฒนาชาติ ในขณะที่คนอื่นๆในชาติ เฝ้าแต่รอให้สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น..”
“ศจ.คราเมส”ระบุว่า จะพบเห็นว่า นักการเมืองจำนวนมากในเอเซีย ที่หลังจากครองอำนาจ และได้ผลประโยชน์แล้ว มักจะไม่ได้ช่วยเหลืออะไรแก่ประชาชนเลย นักการเมืองเหล่านั้น ทำให้ในหลวงทุกข์ใจ พวกเขาเสแสร้งว่า ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ แต่นั่นเป็นการสร้างภาพไม่ใช่ความจริง!
“พวกเขาเพียงแค่ต้องการใช้ภาพความจงรักภักดีนี้ เพื่อโน้มน้าวให้ประชาชนเทคะแนนให้ ในการเลือกตั้ง และขึ้นสู่อำนาจในเวลาต่อมาเท่านั้น ประชาชนไทยมุ่งหวังว่า นักการเมืองจะอุทิศตนเพื่อประเทศชาติ เฉกเช่นเดียวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่พวกเขาก็ทำให้คนไทยทั้งชาติผิดหวัง พวกเขาไม่สามารถเป็นเช่นนั้นได้ เพราะพวกนักการเมืองไทย ได้รับอิทธิพลแนวคิดแบบตะวันตก และมีหัวใจที่ถูกครอบงำไว้ด้วยธุรกิจ
สำหรับผม พวกเขาจึงไม่ได้มีความเป็นไทยอีกแล้ว นั่นคือ เหตุผลที่ว่า ทำไมคนธรรมดาสามัญทั้งหลาย จึงรู้สึกรับไม่ได้กับการคอร์รัปชั่น ฉ้อราษฏร์บังหลวง และนักโกหกที่ทำลายประเทศ ลงด้วยมือของพวกเขาเอง..”
“ศจ.คราเมส”เสนอแนะว่า คนไทยจะต้องเข้าใจคุณค่าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างถ่องแท้และผสมผสานแนวทางแห่งพระพุทธศาสนาของพระองค์ ลงไปในการดำเนินชีวิตประจำวัน และถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ในโรงเรียน เพื่อให้คนรุ่นใหม่ๆ ได้ศึกษาด้วย
เขาเห็นว่า พระราชดำริหรือสิ่งที่ทรงทำในทุกๆ เรื่องนั้น ทรงใช้หัวใจทั้งสิ้น เพราะพระองค์เข้าใจดี ถึงคุณค่าของความรักและความซื่อสัตย์ คนไทยทั้งหลายรู้สึกเชื่อมโยงถึงพระองค์ท่านได้ก็เพราะสิ่งนี้
เขาคิดว่า คำสอนของในหลวงนั้นเป็นสากล เช่นเดียวกับคำสอนของพระพุทธเจ้า ด้วยเหตุนี้ คนทั่วโลกจึงเรียนรู้ และปรับเอาความรู้จากในหลวงไปใช้ได้เช่นกัน
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ทรงเป็นทั้งสัญลักษณ์ของความชาญฉลาดแบบตะวันตก และภูมิพลังปัญญาแบบตะวันออก ในบุคคลเดียวกัน ซึ่งถือว่า เป็นสิ่งสมบูรณ์พร้อมอย่างมาก..”
“ศจ.คราเมส” ระบุว่า นักการเมืองไทยนั้น ตกอยู่ในค่านิยมตะวันตก มักกระตุ้นคนด้วยการบริโภคนิยม กับอำนาจล่อใจของอิทธิพลการเมือง และวัตถุนิยมกำลังเข้มแข็งมากเกินไปในสังคมไทย เพราะมองเห็นเช่นนี้ เขาจึงเตือนว่า
“คำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงกำลังสูญหายไปตลอดกาล หากยังไม่มีใครตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญแห่งคำสอนนั้น.. ทุกคนควรตระหนักว่า หนทางเดียวที่จะแสดงความเคารพต่อครูก็คือ เรียนรู้จากพระองค์ เพื่อที่จะนำความรู้นั้นไปช่วยเหลือคนอื่น ไม่ใช่เพียงแค่แขวนพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ไว้ในบ้าน..”
..หากทุกคนช่วยกันเก็บรักษาเจตนารมย์อันแรงกล้า และคำสอนของพระองค์เอาไว้ ให้อยู่สืบต่อไปตราบชั่วลูกชั่วหลาน ผมเชื่อเหลือเกินว่า พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของทุกคนพระองค์นี้ จะอยู่ในหัวใจคนไทยตลอดกาล”
ฝรั่งเยอรมันคนนี้เป็นใคร ยังไม่ได้สืบค้นกัน แต่หลายคำของเขานั้น มีคุณค่าน่าเอามาใส่ใจ
บัดนี้ สิ่งที่เขาเตือนคนไทยมาหลายปีนั้น ปรากฏชัดว่า เป็นเช่นนั้นจริงๆ เช่น หลายประเทศในโลก เห็นคุณค่าของในหลวง กับสิ่งที่พระองค์คิด และสิ่งที่พระองค์ทำ แม้กระทั่งองค์การสหประชาชาติ ก็ยกย่องสดุดีพระองค์ท่าน
ในไม่ช้านี้ คำเตือนของเขาอีกหลายอย่างก็คงจะเกิดขึ้นตามมา
น่าคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่เราควรช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันสืบทอด ช่วยกันบำรุงรักษา หรือพัฒนาพระราชมรดก ที่พระราชทานไว้ให้แก่สังคมเราสืบต่อไปได้อย่างไร
ภัทระ คำพิทักษ์ เรียบเรียงจากบทความเรื่อง เรียนรู้จากพระเจ้าอยู่หัว โดย ศจ.แมนเฟรด คราเมส ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Lips ปีที่ 4 ฉบับที่ 16 วันที่ 6 สิงหาคม 2552 (ซึ่งผ่านพ้นมาแล้วถึง 8 ปี)
ทั้งปวงที่ฝรั่งชาวเยอรมัน “ศจ.แมนเฟรด คราเมส” คิด-เขียน-พูดถึง“ในหลวงรัชกาลที่ 9”กับ“คนไทย”นั้น ประชาชนคนไทย(จำนวนมิใช่น้อย) ทั้งรู้-ทั้งเห็น-ทั้งตระหนัก-ทั้งพูด-ทั้งเตือน ฯลฯ
สิ่งที่ “ศจ.คราเมส” คิดและเขียนได้ตรงจุดที่สุด คือ ปัญหาเกิดเพราะ“นักการเมือง”(ทั้งมาจากการเลือกตั้งและรัฐประหาร) ที่มีอำนาจในการบริหารชาติ ไม่ทำตามคำสอนของ“ในหลวงรัชกาลที่ 9”อย่างจริงจัง-จริงใจ จึงทำให้ชาติและประชาชนคนไทย ต้องจมปลักอยู่กับวิกฤติความเหลื่อมล้ำในแทบทุกมิติ
ชาติไทยควรเป็นสังคมที่น่าพิศมัยอย่างยิ่ง แต่เพราะกระแสทุนสามานย์หลั่งไหลเข้าครอบงำ ทั้งนักการเมือง-ข้าราชการ-กลุ่มทุนในชาติ ที่นำพาชาติไปสู่สังคม“มือใครยาว สาวได้สาวเอา”หรือสังคม“คนกินคน” ที่ทำลายคุณธรรม-ศีลธรรม-จริยธรรม ฯลฯ ให้เสื่อมทรามลงไปเรื่อยๆ
โดยเฉพาะทำให้สังคมไทยยึดถือ“อำนาจ-และ-เงินตรา”เป็นสรณะ จนความเอื้ออาทร-ความซื่อสัตย์-ความรักชาติ-ความดีแทบทุกมิติ ลดลงอย่างฮวบฮาบจนน่าตระหนก
นักการเมือง-ข้าราชการ-พ่อค้านักธุรกิจ สมคบกันคอร์รัปชั่นโกงชาติอย่างหน้าด้านๆ ขายชาติขายประชาชนได้หน้าตาเฉย เพราะคนไม่ดีจำนวนแค่น้อยนิด ที่มีอำนาจในกำมือ ไม่ทำตามคำสอนของ“ในหลวงรัชกาลที่ 9” จึงทำให้สังคมไทยดารดาษด้วยความชั่วและการเห็นแก่ตัว เต็มไปด้วยการสร้างภาพลวงตา และการโกหกตอแหล ฯลฯ
ในขณะที่ ประชาชนคนไทยทำตามคำสอนสั่ง ของ“ในหลวงรัชกาลที่ 9”มาโดยตลอด!
อีกทั้งมีนักการเมือง-ข้าราชการ-พ่อค้านักธุรกิจ ฯลฯ ที่ดี-ที่รัก-ที่จริงใจ-ทำตามคำสอนสั่ง ของ“ในหลวงรัชกาลที่ 9” มาโดยตลอด แต่คนเหล่านี้ ไม่มีโอกาสได้บริหารชาติบ้านเมือง.. น่าเสียดายจริงๆ..!