xs
xsm
sm
md
lg

มาตรา44และร่าง พ.ร.บ.อีอีซี คนไทยและประเทศได้ประโยชน์อะไร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“หนึ่งความคิด”
“สุรวิชช์ วีรวรรณ”

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้ประกาศใช้มาตรา 44 ออกคําสั่ง ยกเลิกการบังคับใช้ผังเมืองของจังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ซึ่งถูกกำหนดเป็นพื้นที่เศรษฐกิจด้านตะวันออกหรืออีอีซี และให้หน่วยงานของรัฐจัดทำแผนผังการพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคขึ้นใหม่ ถูกตั้งคำถามเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องประกาศในห้วงที่สังคมไทยอยู่ในระหว่างพระราชพิธีสำคัญ

แน่นอนว่า รัฐบาลนั้นมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกให้เป็นเขตพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงและสร้างนวัตกรรมใหม่ และรัฐบาลพูดหลายครั้งว่าจะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในภาคตะวันออกนั้นมีนิคมอุตสาหกรรมอยู่หลายแห่ง แต่การบริหารยังแยกส่วนกระจัดจายรัฐบาลจึงต้องการบูรณาการเพื่อให้การจัดการมีเอกภาพมากขึ้นด้วยการร่างกฎหมายที่ชื่อ ร่าง พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกพ.ศ....ขึ้นมา เพื่อรวบอำนาจบริหารไว้ใต้คณะกรรมการนโยบายชุดเดียว

ผมเข้าใจว่า รัฐบาลเองมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาประเทศชาติให้เติบโตทางเศรษฐกิจ พัฒนาศักยภาพของแรงงานไทย และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยให้สูงขึ้น ยกระดับอุตสาหกรรมประเทศให้เป็นอุตสาหกรรมชั้นสูง ไม่มีใครบอกหรอกว่าสิ่งที่รัฐมีความมุ่งมั่นจะทำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่คำถามว่า สิ่งที่จะทำนั้นต้องแลกกับอะไรบ้าง สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างไร คุณภาพชีวิตของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เป็นอย่างไร และสามารถยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยโดยรวมได้จริงหรือ หรือจริงๆ แล้วยิ่งทำให้สังคมเกิดความเหลื่อมล้ำมากยิ่งขึ้น คนได้ประโยชน์มีเพียงกลุ่มทุนระดับบน และคนต่างชาติที่เข้ามาประกอบกิจการและใช้แรงงานในประเทศไทย

เมื่อผมได้อ่านร่าง พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกพ.ศ....ที่สนช.กำลังพิจารณาอยู่ในวาระที่1นั้นก็มีคำถามมากเหมือนกันว่า สุดท้ายแล้วประเทศชาติและประชาชนส่วนรวมได้ประโยชน์หรือใครได้ประโยชน์กันแน่

อย่าลืมว่า การกระทำหลายอย่างของรัฐบาลชุดนี้ถูกสังคมมองว่ามุ่งที่จะตอบสนองผลประโยชน์ของกลุ่มทุนมากกว่าประชาชน

ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ให้อำนาจเลขาธิการและคณะกรรมการนโยบายมีอำนาจเหนือกฎหมายทั่วไปหลายฉบับ ถ้าไปดูมาตรา37และ43 คือกระบวนการใดๆที่ต้องไปขออนุญาตต้องผ่านคุณสมบัติตามกฎหมายนั้นเช่น มาตรา 37 กฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในเขตน่านน้ำไทย กฎหมายว่าด้วยการชลประทานหลวง กฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการพลังงาน กฎหมายว่าด้วยทางหลวงสัมปทาน กฎหมายว่าด้วยพลังงานนิวเคลียร์เพื่อชาติ และกฎหมายว่าด้วยเรื่องอื่นใดตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา

กฎหมายที่ว่ามาทั้งหมดข้างบนนี้แทนที่จะต้องไปขออนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายนั้นๆ ในเขตอีอีซีนี้ก็จะถูกยกให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการนโยบายที่จะอนุญาต อนุมัติ ให้สิทธิ หรือให้สัมปทานได้เลย โดยอ้างเหตุผลเพื่อความรวดเร็วและประสิทธิภาพ โดยมอบอำนาจให้เลขาธิการเป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายนั้น

เช่นเดียวกับมาตรา 43 การขออนุญาต ใบอนุญาตตามกฎหมายนี้ เช่นกฎหมายว่าด้วยการขุดดินและถมดิน กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร กฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนเครื่องจักร กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข กฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์ กฎหมายว่าด้วยโรงงาน กฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน และกฎหมายอื่นใดตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ทั้งหมดนี้แทนที่จะไปขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ให้เป็นอำนาจของเลขาธิการอีอีซีทั้งสิ้น

เห็นได้ว่าเลขาธิการอีอีซีมีอำนาจเบ็ดเสร็จในทุกด้านที่กว้างขวางมาก นอกจากนั้นตามมาตรา 30-32 เลขาธิการยังมีอำนาจเป็นเจ้าพนักงานในการกำหนดผังเมืองแทนกรมโยธาธิการและผังเมืองด้วย โดยเนื้อหาในมาตรา 32ก็เหมือนกับคำสั่งตามมาตรา44ที่เพิ่งออกมา โดยมาตรานี้เขียนไว้ว่า เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและคณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว ให้ผังเมืองว่าด้วยกฎหมายผังเมืองในส่วนที่ใช้บังคับในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกอยู่ก่อนคณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนนั้นเป็นอันยกเลิกไป และให้กรมโยธาธิการและผังเมืองดำเนินการจัดตั้งผังเมืองขึ้นมาใหม่ให้สอดคล้องกันแผนผังดังกล่าว

พูดง่ายๆ ว่า หลังจากมีมาตรา44ออกมาตรงกับมาตรา32ที่ว่านี้ซึ่งกฎหมายยังไม่แล้วเสร็จ ผังเมืองของ3จังหวัดนั้น ก็ต้องว่ากันใหม่หมด และเลขาธิการจะไปขีดตรงไหนอย่างไรก็ได้ และสามารถเดินหน้าได้ก่อนที่ร่างพรบ.ฉบับนี้จะเสร็จ

นอกจากนั้นหากอยากได้ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ใด เช่า ซื้อ เช่าซื้อ แลกเปลี่ยน เวนคืน ถมทะเลก็ทำได้หมดตามมาตรา 34 เพียงแต่ต้องตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่ ความเหมาะสมด้านการเงิน ผลกระทบและแนวทางหรือมาตรการป้องกัน หรือเยียวยาผลกระทบดังกล่าว และความคุ้มค่าที่ประชาชนในพื้นที่จะได้รับ แต่ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในเขตน่านน้ำไทย และกฎหมายว่าด้วยการประมง

นอกจากนั้นจะประกาศใช้ที่สปก.ก็ได้ โดยถ้าจะใช้ที่สปก.ก็เป็นอำนาจของคณะกรรมการนโยบาย และให้เลขาธิการเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายสปก.ด้วย ไม่ว่าที่ดินสปก.นั้นจะมีใครครอบครองอยู่ก็ตาม เลขาธิการอีอีซีเป็นเจ้าพนักงานที่จะดำเนินการได้เลย

จะเห็นได้ว่า เลขาธิการอีอีซีมีอำนาจมากตามกฎหมายแทนหลายองค์กรและหน่วยราชการในประเทศไทย

ขณะเดียวกัน ถ้าเราไปดูแรงจูงใจที่จะชวนคนต่างชาติเข้ามาลงทุนและดึงแรงงงานต่างชาติเข้ามาทำงานประเทศไทยในเขตพื้นที่เศรษฐกิจด้านตะวันออกหรืออีอีซี จะพบว่า ผู้ประกอบการต่างชาติและแรงงานต่างชาติได้รับสิทธิพิเศษมาก

มาตรา 48 ให้ผู้ประกอบการหรืออยู่อาศัยในเขตเศรษฐกิจพิเศษได้รับสิทธิประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามที่คณะกรรมการนโยบายกำหนดดังต่อไปนี้

(1)สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นของคนต่างด้าว
(2)สิทธิในการนำคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่อาศัยในราชอาณาจักร
(3)สิทธิในการที่จะได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากร
(4)สิทธิในการทำธุรกรรมทางการเงิน
(5)สิทธิประโยชน์อื่น

สรุปง่ายๆ ว่าแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในเขตเศรษฐกิจอีอีซีแล้วไม่ต้องเสียภาษีให้ประเทศไทย ก็เป็นคำถามว่า ในเขตอีอีซีนี้ ถ้าคนไทยเข้าไปทำงานจะต้องเสียภาษีหรือไม่ หรือว่านี่เป็น “สิทธิสภาพนอกอาณาเขต” ของชาวต่างชาติในประเทศไทย หรือว่า มาตรานี้ครอบคลุมถึงคนไทยที่ทำงานอยู่ในอีอีซีด้วย

นอกจากนั้น มาตรา 58 ยังเขียนไว้ว่า ผู้ประกอบกิจการหรืออยู่อาศัยในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งได้สิทธิตามมาตรา 48(4)มีสิทธิดังต่อไปนี้

(1)ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินทั้งหมดหรือบางส่วน โดยคณะกรรมการกำหนดเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติไว้ด้วยก็ได้

(2)สามารถใช้เงินตราต่างประเทศเพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการระหว่างผู้ประกอบการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด

นอกจากนั้น มาตรา54 ยังให้ผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา48(2)มีสิทธินำคนต่างด้าวดังต่อไปนี้เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรได้ตามจำนวนและระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตจากเลขาธิการ แม้จะเกินกำหนดจำนวนหรือระยะเวลาให้อยู่ได้ในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง

(1)ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านใดๆที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
(2)ผุ้บริหารหรือผู้ชำนาญการ
(3)คู่สมรสและบุคคลซึ่งอยู่ในอุปการะของบุคคลใน(1)และ(2)

พูดง่ายๆ ได้ว่าแรงงานฝีมือที่มีความสามารถจากต่างชาตินั้นเข้ามาทำงานในเขตอีอีซีได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องระยะเวลาอยู่ในประเทศ นอกจากนั้นในมาตรา 55 คนที่เข้ามาทำงานไม่ต้องได้รับใบอนุญาตทำงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวอีกด้วย ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่า แรงงานระดับฝีมือชั้นสูงนั้นจะเหลือพื้นที่ให้กับคนไทยสักเท่าไหร่

ทีนี้มาดูว่าแล้วคณะกรรมการนโยบายมาจากไหน มาตรา 10 ระบุว่าประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีรองนายกฯที่ได้รับมอบหมายเป็นรองประธาน และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอีกหลายกระทรวงเป็นกรรมการ นอกจากนั้นแทบจะเป็นสูตรสำเร็จของกฎหมายเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ออกในรัฐบาลชุดนี้เลยว่าจะมีกรรมการที่เข้าร่วมมาจากกลุ่มทุนใหญ่3กลุ่ม คือ ประธานหอการค้าแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารไทย

เราจะเห็นได้ว่า ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาตินอกจากนายกฯ รองนายกฯ รัฐมนตรี ผู้นำเหล่าทัพแล้วก็ยังระบุผุ้ที่มาตามตำแหน่งไว้ด้วยคือ 1) ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ 2) ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย 3) ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 4) ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ 5) ประธานสมาคมธนาคารไทย

แม้แต่ในร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ...ที่ถูกวิจารณ์จากหลายฝ่ายว่าเป็นกฎหมายแปรรูปรัฐวิสาหกิจอำพรางแบบยกเข่ง นอกจากมีนายกรัฐมนตรี รองนายกฯ รัฐมนตรีตัวแทนภาครัฐที่เป็นข้าราชการ และยังประกอบด้วย ประธานหอการค้าแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารไทย เช่นเดียวกัน

ดังนั้น ประธานหอการค้าแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารไทยที่เป็นตัวแทนของกลุ่มทุนจะเข้ามาไปมีบทบาทอย่างมากในการกำหนดนโยบายของชาติในอนาคต แต่เราไม่เห็นตัวแทนภาคประชาชนเลย

พูดง่ายว่าต่อไปนี้ ประเทศจะถูกกำหนดด้วยผู้มีอำนาจและกลุ่มทุนนั่นเอง ซึ่งอย่างที่ว่ามาว่ารัฐบาลนี้ก็ถูกมองว่าทำแต่สิ่งที่เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนอยู่แล้ว

ผมไม่ได้ขัดขวางการพัฒนา และเห็นว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกน่าจะมีประโยชน์ต่อประเทศไทยอยู่บ้าง แต่ก่อนจะเดินหน้าช่วยตอบคำถามว่า ประเทศไทยและคนไทยจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง เราจะทำให้คนไทยกินดีอยู่ดีขึ้นจะลดความเหลื่อมล้ำในประเทศลงหรือจะถ่างช่องว่างให้ห่างยิ่งขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น