อุดรธานี - ตำรวจคุมตัวอดีตเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ทำแผนประกอบคำรับสารภาพขวานฟันคอโยมดับ แล้วโบกปูนอำพรางศพในวัด สารภาพแบบหน้าตาเฉยผู้ตายมาทวงเงินค่าไก่ชน 500 บาทที่นำมาทำอาหารเลี้ยงคนงานก่อสร้าง
วานนี้ (24 ต.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้คุมตัวนายสงกรานต์ สินไชย อายุ 41 ปี ที่อยู่ 30 ม.8 ต.เก่าลอย อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง บ้านหนองแคน ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายหลังตกเป็นผู้ต้องหาฆ่านายวิชาญ พรหมมินทร์ โดยเริ่มจากจุดแรกที่กุฏินายสงกรานต์ ซึ่งผู้ตายได้ทะเลาะมีปากเสียงกับนายสงกรานต์ก่อนที่ผู้ต้องหาจะลงมือฆ่า จุดที่ 2 บริเวณบ่อส้วม ซึ่งเป็นจุดที่นำขวานที่ใช้ก่อเหตุมาทิ้ง จุดที่ 3 คือบริเวณที่ฝังศพที่ผู้ต้องหานำศพนายวิชาญมาฝังเพื่ออำพรางโดยใช้ปูนเทลาดหลุมศพ
ทั้งนี้ นายสงกรานต์รับสารภาพขณะทำแผนว่า ภายหลังลงมือฆ่าแล้วตนยังไม่คิดจะหลบหนีทันที เนื่องจากยังติดกิจนิมนต์ของชาวบ้านในวันรุ่งขึ้น อีกทั้งศพนายวิชาญยังซ่อนอําพรางไม่เสร็จ หลังอำพรางศพแล้วได้สึกจากการเป็นพระ และหลบหนีไปกบดานที่พัทยากับ ด.ช.ดี จนกระทั่งมาถูกจับกุม โดยยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง และสั่งให้ผู้คนอื่นร่วมอำพรางศพ ตนบวชมาแล้ว 11 พรรษา สาเหตุและแรงจูงใจในการฆ่าครั้งนี้เนื่องจากผู้ตายได้มาทวงเงินค่าไก่ชนที่ตนนำมาทำอาหารเลี้ยงคนงานก่อสร้าง จำนวนเงิน 500 บาท โดยตนก็ไม่รู้ว่าเป็นไก่ชนของผู้ตาย
พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ เพื่อปิดบังสาเหตุการตาย แก่นายสงกรานต์ สินไชย แม้ว่าในขณะนี้ผู้ต้องหาจะบอกว่าที่ทำไปเพราะอารมณ์ความโกรธ หลังจากนี้จะนำตัวนายสงกรานต์ สินไชย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วานนี้ (24 ต.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้คุมตัวนายสงกรานต์ สินไชย อายุ 41 ปี ที่อยู่ 30 ม.8 ต.เก่าลอย อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง บ้านหนองแคน ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายหลังตกเป็นผู้ต้องหาฆ่านายวิชาญ พรหมมินทร์ โดยเริ่มจากจุดแรกที่กุฏินายสงกรานต์ ซึ่งผู้ตายได้ทะเลาะมีปากเสียงกับนายสงกรานต์ก่อนที่ผู้ต้องหาจะลงมือฆ่า จุดที่ 2 บริเวณบ่อส้วม ซึ่งเป็นจุดที่นำขวานที่ใช้ก่อเหตุมาทิ้ง จุดที่ 3 คือบริเวณที่ฝังศพที่ผู้ต้องหานำศพนายวิชาญมาฝังเพื่ออำพรางโดยใช้ปูนเทลาดหลุมศพ
ทั้งนี้ นายสงกรานต์รับสารภาพขณะทำแผนว่า ภายหลังลงมือฆ่าแล้วตนยังไม่คิดจะหลบหนีทันที เนื่องจากยังติดกิจนิมนต์ของชาวบ้านในวันรุ่งขึ้น อีกทั้งศพนายวิชาญยังซ่อนอําพรางไม่เสร็จ หลังอำพรางศพแล้วได้สึกจากการเป็นพระ และหลบหนีไปกบดานที่พัทยากับ ด.ช.ดี จนกระทั่งมาถูกจับกุม โดยยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง และสั่งให้ผู้คนอื่นร่วมอำพรางศพ ตนบวชมาแล้ว 11 พรรษา สาเหตุและแรงจูงใจในการฆ่าครั้งนี้เนื่องจากผู้ตายได้มาทวงเงินค่าไก่ชนที่ตนนำมาทำอาหารเลี้ยงคนงานก่อสร้าง จำนวนเงิน 500 บาท โดยตนก็ไม่รู้ว่าเป็นไก่ชนของผู้ตาย
พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ เพื่อปิดบังสาเหตุการตาย แก่นายสงกรานต์ สินไชย แม้ว่าในขณะนี้ผู้ต้องหาจะบอกว่าที่ทำไปเพราะอารมณ์ความโกรธ หลังจากนี้จะนำตัวนายสงกรานต์ สินไชย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป