xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**สายเปย์ที่แท้ทรู!! อีกผลงานสร้างสรรค์ของ “เสือป๊อก ป่ากระทิงแดง” คงคอนเซปต์ “ถูกและดีไม่มีจริง แพงแต่ใช้ไม่ได้สิแน่นอน” ชำแหละสเปกเทพ “เครื่องตรวจความเร็ว” ราคาเหยียบล้าน ที่คนเขาว่า “เต็มที่แค่หลักหมื่น”

ย้อนกลับไปดูข้อมูลที่ “ครม.ลุงตู่” มีมติไฟเขียว 573 ล้านบาทเศษ ในโครงการจัดหา “เครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา” จำนวน 849 เครื่อง ที่เสนอโดย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน .. ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า “เงียบเชียบ” ผิดปกติ ราวกลับมีอะไรที่ต้องปิดบังอย่างไรอย่างนั้น .. ก็เมื่อครั้งมติ ครม.อนุมัติเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ทั้งในการแถลงข่าวผลการประชุม ครม. โดย “บิ๊กไก่อู” พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล หรือกระทั่งเอกสารสรุปวาระ ครม. ที่ ส่งให้ “กระจอกข่าว” ก็มิได้เอ่ยถึงโครงการจัดซื้อเครื่องที่ว่านี้แม้แต่นิดเดียว .. ทั้งที่เป็นโครงการที่น่าภูมิใจ และเป็นผลงานที่ควรเอาหน้าอย่างยิ่งยวดที่ประหยัด “งบประมาณชาติ” ได้ถึง 384 ล้านบาทเศษ จากเดิมที่จะใช้เกือบพันล้าน .. อีกทั้งยังสามารถต่อราคาลดฮวบ 25% จากเครื่องละ 9 แสนเหลือ 6.75 แสนบาท .. เห็นมะ!! มีแต่เริ่องดีๆที่ไม่น่าจะต้องปิดบังอะไรเลย แถมเป็นโครงการที่ค้างเติ่ง ยืดเยื้อมาเป็นแรมปี พอได้ “ไฟเขียว” จาก ครม. “บิ๊กบางคน” แถวคลองหลอด ควรจะจุดพลุเฉลิมฉลองด้วยซ้ำไป ..
ทว่าก็มีข้อสงสัยตามมานานัปประการ ตั้งแต่ราคาค่างวดของเครื่องที่ว่า ซึ่ง “สำนักงบประมาณ” ได้ทักท้วงว่า “ราคาแพงเกินจริง” มาแล้ว เทียบกับเครื่องตรวจจับความเร็วที่ตำรวจใช้ในปัจจุบันตกเครื่องละ 1.3 แสนบาท แพงกว่ากัน 7 เท่าตัว บร๊ะเจ้า!! .. แล้วไฉนเจ้าเครื่องรุ่นเดียวกันนี้ก็ “มท.ป๊อก” เคยชงไว้เมื่อ 2 ปีก่อนในราคาเครื่องละ 9 แสนบาท ถึงราคาคงที่แบบไม่ตกรุ่น จากเมื่อครั้งที่ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” อนุมัติซื้อให้ตำรวจใช้เมื่อปี 2556 เลย .. ก็มี “ข้ออ้าง” มารองรับว่าเจ้าเครื่องที่ว่านี้ “สเปกเทพ” เหลือเกิน จับความเร็วได้ไม่น้อยกว่า 320 กม./ชม. เลยทีเดียวเชียว .. ทั้งที่ในเมืองไทยขับแค่เกิน 120 กม./ชม. ก็ถูกจับปรับแล้ว อีกทั้งตามสถิติของ สตช.เองก็เคยมีความเร็วสูงสุดที่จับได้อยู่แค่ไม่เกิน 240 กม./ชม.เท่านั้น .. ด้วยความสงสัยเลยหนีบ “สเปกเทพ” ที่ มท.ไล่เรียงไล้ประกอบโครงการไปให้ “กูรูไอที” ตรวจดู ก็ฟันโช๊ะแทบไม่ต้องคิดว่า “เต็มที่แค่หลักหมื่น” ยิ่งหากไม่ติดแบรนด์ สั่งซื้อเว็บออนไลน์ “เมด อิน ไชน่า” แล้วก็ “หลักพัน” ก็ยังหาได้ ด้วยสเปกที่ไม่ขี้เหร่กว่ากันเท่าไร .. มองแบบโลกสวยว่า จะถูกจะแพงคงเป็นเรื่องทางเทคนิค อาจจะตั้งแง่ว่า มีความพยายามตีโป่งราคากลางไว้ให้สูงๆ สวมวิญญาณ “สายเปย์” จ้องผลาญงบประมาณ “เจี๊ยะคอมมิชชั่น” ก็นานาจิตตัง .. แต่ที่อดห่วงไม่ได้ก็การ “ชอปปิ้ง” ภายใต้การกำกับของ “บิ๊กป๊อก” เจ้าของสมญา “เสือเงียบแห่งป่ากระทิงแดง” ด้วยแล้ว ภาพของ “เรือเหาะบุโรทั่ง - รถถังยูเครน – ไม้ล้างป่าช้า จีที 200” ลอยขึ้นมาหลอน ทุกรายการจุดจบไม่ต่างกัน ซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ ปลดประจำการเป็นเศษเหล็กไร้ค่าในที่สุด .. ออเดอร์ล่าสุดจะคงคอนเซปต์ “ถูกและดี” ไม่มีจริง “แพงแต่ใช้ไม่ได้” สิแน่นอน อีกหรือเปล่า !?

** ไร้สัจจะ!! “เฮียกวง” หลังเดาะเจอ“บิ๊กสื่อ” จุดพลุข่าว “เจ้าพ่อเฟซบุ๊ก” เตรียมเข้าพบ “ลุงตู่” ทั้งที่เกี่ยวก้อยสัญญาว่าจะเหยียบไว้ก่อน ก่อนซ้ำดอกสองขยี้ข่าว “ซักเคอร์เบิร์ก” เมินเยือนไทย จนหน้าแหกไปทั้ง “เรือแป๊ะ”

กลายเป็นปมร้อน ที่ตีกรรเชียงกันหมด .. ทั้ง “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สับขาหลอกกระจอกข่าว เพราะรู้ว่ารอซักกรณี มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ปฏิเสธแผนการมาเยือนไทย ทั้งที่ “บิ๊กรัฐบาล” ตีปิ๊บไปล่วงหน้า จนหน้าแหกทั้ง “เรือแป๊ะ” .. หรือรายของ “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ที่ถึงกับ “โดดร่ม” ไม่เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ด้วยเหตุผลว่า “ป่วยกระทันหัน” .. สืบสาวราวเรื่องได้ความว่า ต้นตอของข่าวมาจาก “เฮียกวง” จริงๆ แต่เป็นการเล่าในวงปิดกับ “ผู้บริหารสื่อค่ายหนึ่ง” ที่คุ้นเคยกันดี แต่ขอไว้ว่าอย่าเพิ่งเป็นข่าว หรือที่ภาษาในวงการเรียกว่า “ออฟเรกคอร์ด” .. โบราณว่า “สัจจะไม่มีในหมู่โจร” เป็นมูลเหตุทำให้เรื่องลับๆ ที่รับปากกันตามประสา “ผู้ใหญ่คุยกัน” กลับถูกนำมาตีเป็น “ข่าวเดี่ยว” บนหน้าหนึ่งของ “สื่อค่ายหนึ่ง” ส่วนค่ายไหน ย้อนกลับไปดูกันเอาเอง .. อีกทั้งเรื่องเล่าสู้กันฟังในวงลับ ก็มีเพียงว่า “เฮียกวง” ไปได้ข่าวว่า “เฮียมาร์ก” มีแพลนมาเวเคชั่นที่แลนด์ออฟสมายด์ ช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ .. ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ก็เลยปิ๊งไอเดียว่า จะเชิญ “เจ้าพ่อเฟซบุ๊ก” มาพูดคุยกับ “ลุงตู่” สร้างภาพ “ผู้นำอินเตอร์” รวมทั้งเคลียร์หลายประเด็นที่ของ “เฟซบุ๊ก” กับประเทศไทยค้างคากันอยู่ด้วย แต่ยังไม่คอนเฟิร์ม!! ..
พอ “สื่อค่ายดัง” ไปตีข่าว ก็ต้องเลยตามเลย พอเจอถาม “นายกฯตู่” ก็ตอบไวตามสไตล์ว่า เตรียมหารือด้าน “อาชญากรรมระหว่างประเทศ” ว่าไปนู้น .. “ดอกแรก” ที่ว่าเอาเรื่องลับมาไขที่แจ้งว่า เจ็บปวดแล้ว “สื่อค่ายเดิม” ยังซ้ำ “ดอกสอง” ด้วยการไปถาม “โฆษกเฟซบุ๊ก” ทำเอา “ไก่ตื่น” และได้คำตอบกลับมาว่า “บิ๊กเฟซบุ๊ก” ไม่มีแผนมาเยือนไทยช่วงนี้ พร้อมระดม “สื่อทั้งค่าย” มีอยู่หลายหัว “รุมขยี้” ว่า "เจ้าพ่อเฟซบุ๊ก" ไม่มาไทยแล้วจ้าาา .. จนกลายเป็นประเด็นเข้า “รัฐบาลลุงตู่” โดนถล่มหูดับตับไหม้ รวมทั้ง “ค่ายผู้จัดการ” ด้วยแฮ่!! .. จนเพิ่งมารู้เบื้องหลังการถ่ายทำ ก็อดเห็นใจ “เฮียกวง” ไม่ได้ .. ข่าวว่าตอนนี้ “บิ๊ก คสช.” พร้อมใจกันตัดสัมพันธ์-ไม่เผาผี “สื่อค่ายดัง” ไปเรียบร้อยแล้ว.

** อย่าหาเรื่องเชียวนะ...!! “ชีคโอซีเอ” บุกไทยหวังกล่อมรับเจ้าภาพเอเชี่ยนอินดอร์ฯ2021 หลังไม่มีชาติใดเสนอตัวรับหน้าเสื่อ มหาอำนาจเมินเป็นแถบ เหตุสปอนเซอร์ไม่เข้า-ขายลิขสิทธิ์ไม่ออก หวังว่า “บิ๊กรัฐบาล” ไม่บ้าจี้เอา “เผือกร้อน” มาอุ้ม

วันก่อน ชีคอาหมัด อัล ฟาฮัด อัล ซาบาห์ ประธานสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) ชาวคูเวต เข้าพบ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ เพื่อทาบทามให้ “ไทยแลนด์” รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์-มาร์เชี่ยลอาร์ตเกมส์ 2021 หรือในอีก 4 ปีข้างหน้า .. จนแปลกใจว่ามหกรรมกีฬาระดับนี้ ปกติต้องมีการเสนอตัวชิงเป็นเจ้าภาพ เพราะถือเป็นทัวร์นาเมนต์น้องๆโอลิมปิกเกมส์ หรือเอเชียนเกมส์ เลยทีเดียว .. จนสงสัยว่า ทำไม “ประธานโอซีเอตลอดกาล” ถึงต้องลงทุนจับเครื่องมาเมืองไทย ชักชวนรัฐบาลไทยด้วยตัวเอง .. แล้วก็มาถึงบางอ้อ เมื่อ "บิ๊กจา" พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิก บอกว่า “ท่านชีค” มาเสนอให้เราเป็นเจ้าภาพ เพราะหลังจบการแข่งขันเอเชี่ยนอินดอร์-มาร์เชี่ยลอาร์ตเกมส์ 2017 ครั้งล่าสุด ที่ประเทศเติร์กเมนิสถาน เมื่อเดือนก.ย.ผ่านมา ยังไม่มีชาติใดประกวดประขันขอรับช่วงเป็นเจ้าภาพในอีก 4 ปีข้างหน้า .. เลยเห็นว่าประเทศไทยมีประสบการณ์จัดการแข่งขันกีฬาระดับชาติมาหลายครั้ง จึงเสนอให้ “เมืองพัทยา จ.ชลบุรี” เป็นเจ้าภาพในครั้งต่อไป ..
ดูท่า “บิ๊กเจี๊ยบ” จะสนใจไม่น้อย ด้วยเหตุที่ว่าไทยไม่ได้เป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬานานาชาติใดๆ เลยในช่วงนี้ ติดก็แต่ต้องเสนอให้ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พิจารณาเสียก่อน .. เท่าที่ติดตามก็อดห่วงไม่ได้ ด้วยเอเชี่ยนอินดอร์-มาร์เชี่ยลอาร์ตเกมส์ แม้จะมีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้โอลิมปิกเกมส์ หรือ เอเชียนเกมส์ หากแต่ไม่ใช่ “ของดี” อย่างที่คิด .. ด้วยความป๊อปปูล่าร์ที่ต่างกัน ส่งผลให้ “สิทธิประโยชน์” ต่างๆ ก็เทียบกันไม่ได้ พูดง่ายๆว่า ที่ผ่านมาทุกประเทศที่รับเป็นเจ้าภาพ ประสบปัญหาเรื่องสปอนเซอร์ รวมทั้งการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่ไม่ได้ตามเป้า เจ็บตัวกันมานักต่อนัก .. จึงเป็นเหตุให้ไม่มีชาติใดให้ความสนใจเสนอตัวเป็นเจ้าภาพนั่นเอง ถามว่าทำไมต้องเป็นไทย ไม่ใช่“มหาอำนาจ” อย่างจีน ญี่ปุ่น เกาหลี หรือกระทั่งคูเวต เศรษฐีตะวันออกกลาง ประเทศของ “ท่านชีค” เอง กลับจะมาโยนภาระให้เมืองไทย .. อาจจะมีสายข่าวรายงาน “ท่านชีค” ว่า ไทยเรามี “รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา” ที่ชอบออกงานอีเว้นต์ อย่าง “เจ๊น้อง” กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวฯ ก็เลยกะมาอ่อยเหยื่อ เผื่อปลาจะกินเบ็ดนั่นเอง .. ก็ได้แต่หวังว่า “ลุงตู่” คงไม่บ้าจี้ ไม่รู้จักปฏิเสธ ยิ่งด้วยสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน อย่าริไปเอา “เผือกร้อน” มาอุ้มเชียวนะ...ท่าน.

ช.ชฎา
กำลังโหลดความคิดเห็น