xs
xsm
sm
md
lg

มหาอำนาจใหม่กับสงครามและสันติภาพ

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท


การเปิดฉาก เปิดผ้าม่านกั้น เปิดประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้ง 19 เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นไปอย่างคึกคัก โครมครามพอสมควร โดยเฉพาะสำหรับสายตาของชาวโลก ที่จำต้องหันไปมองอภิมหาอำนาจรายใหม่ผู้กำลังขึ้นมาไล่เบียด ไล่แซง อภิมหาอำนาจรายเก่าซึ่งกำลังเสื่อมโทรม ทรุดโทรมลงไปทุกที...

แต่นอกเหนือไปจากการได้เห็น “มังกร” พ่นไฟ ขยับปีก ขยับหางแล้ว...สิ่งที่บรรดาชาวโลกพอถอนหายใจได้มั่ง ก็คือในช่วงวันสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์จีนคราวนี้ ไม่ได้เกิดบรรยากาศ “ความบ้า” ใดๆ โผล่เข้ามาสอดแทรกให้ต้องเสียงานเสียอารมณ์ความรู้สึก อย่างที่เคยมีผู้คาดๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า โดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดติดพันอยู่กับจีนคือ “เกาหลีเหนือ” ที่แม้ว่าโดยลักษณะอาการของผู้นำประเทศอย่าง “คิมน้อย” นั้น จะได้รับการโจษจัน กล่าวขาน ในเรื่อง “ความบ้า” อยู่ไม่น้อย เรียกว่า...บ้าชนิดส่งผลให้ผู้ที่บ้าสุดๆ อย่าง “ทรัมป์บ้า” ผู้นำอเมริกาแทบ “หายบ้า” เอาเลยก็ว่าได้ เมื่อต้องมาเจอกับ “ลูกบ้า” ของ “มนุษย์จรวด” หรือ “Rocket Man” รายนี้...

คือก่อนหน้านั้น...ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น รัฐมนตรีในคณะรัฐบาลเกาหลีใต้ ตลอดไปจนรองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเกาหลีของหน่วยงานซีไอเอ เคยออกมาเก็งๆ คาดๆ เอาไว้ทำนองว่า การอวดโชว์ความบ้าของ “คิมน้อย” ในการจัดให้มีการทดสอบขีปนาวุธครั้งใหม่ เพื่อยั่วส้นตีนคุณพ่ออเมริกานั้น ถ้าหากไม่อุบัติขึ้นมาในวันที่ 10 ตุลาคม อันเป็นวันตรงกับวันเฉลิมฉลองการก่อตั้งพรรคคนงานของเกาหลีเหนือ หรือตรงกับการเดินทางค้นพบอเมริกาของโคลัมบัสแล้ว โอกาสที่จะอุบัติขึ้นในวันถัดๆ ไป ก็คือวันที่ 18 ตุลาคม อันตรงกับวันเปิดประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 นี่เอง จะด้วยเหตุเพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่า “คิมน้อย” นั้นไม่เคยกลัวใคร หรือไม่เห็นหัวผู้หนึ่ง ผู้ใด เอาเลยแม้แต่น้อย หรือไม่ อย่างไร ผู้ที่ออกมาคาดเดาในลักษณะนี้ ก็ไม่ได้ให้คำอธิบายเอาไว้โดยละเอียด...

แต่โดยอาศัยการโยงใยจินตนาการเอาเองแบบคิดเอง เออเอง ประมาณว่า...ด้วยเหตุเพราะสัมพันธภาพระหว่างคุณพี่จีนกับเกาหลีเหนือในช่วงหลังๆ ออกจะไม่กินเส้น หรือหนักไปทางเกาเหลามิใช่น้อย โดยเฉพาะระหว่างผู้นำจีนอย่าง “สีทนได้” กับผู้นำเกาหลีเหนืออย่าง “คิมน้อย” ที่แทบไม่เคยเจอะเจอหน้าตากันและกันเอาเลยแม้แต่น้อย แม้เป็นประเทศบ้านเรือนเคียงกัน แอบมองทุกวันเลยเชียว เห็นหน้าหน่อยเดียวจิตใจโน้มเหนี่ยวฝันหา อะไรประมาณนั้น แต่สุดท้าย...เมื่อไม่ได้เกิดเหตุการณ์ใดๆ หรือไม่ได้เกิดการทดสอบขีปนาวุธเกาหลีเหนือในวันที่ 18 ตุลาคมตามการคาดการณ์ อันนี้...จึงอาจนำไปสู่ข้อสรุปในระดับหนึ่งได้ว่า แม้ “คิมน้อย” นั้นอาจจะ “บ้า” แต่ยังไง...ย่อมไม่ “โง่” โดยเด็ดขาด!!!

คือไม่ว่าสัมพันธภาพระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือ...จะออกไปทางเกาเหลาไม่ใส่เส้น สด ตับ เปื่อย เอ็นงอก เอ็นไม่งอก อย่างที่บรรดาพวกกูรู กูรู้ ออกมาวิเคราะห์ แยกแยะไว้ในแง่มุมต่างๆ โดยละเอียดปานประดุจตาเห็น แต่เรื่องของเกมการเมืองระหว่างประเทศ หรือวิเทโศบายระหว่างประเทศนั้น มันคงไม่อาจอาศัยเพียงแค่ความชอบ-ไม่ชอบ ความรัก-ความชัง แบบเป็นการส่วนตัวได้โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะระดับอภิมหาอำนาจที่กำลังขึ้นสู่ระดับสูงสุดอย่างจีนนั้น แม้พร้อมจะก้าวเดินไปตามจังหวะของสหประชาชาติ เช่นเดียวกับคุณน้ารัสเซีย ในการ “บอยคอต” เกาหลีเหนือรอบแล้ว รอบเล่า แต่ถ้าดูจากคำประกาศแบบตรงไป-ตรงมาของจีน ประมาณว่า...ถ้าหากเกาหลีเหนือเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีอเมริกาก่อน จีนคงต้องเอามือซุกหีบ หรือปล่อยให้ฟัดกันเอาเอง แต่ถ้าเมื่อใดที่อเมริกาเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีเกาหลีเหนือก่อน จีนคงมิอาจหลีกเลี่ยงได้เลยที่จะต้องตอบโต้ต่อใครก็ตาม ผู้คิดจะล้มล้างระบอบการเมือง การปกครองของเกาหลีเหนือ อันถือเป็นการส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของจีน ไม่ว่าทางการเมือง เศรษฐกิจ แบบจะจะจังๆ...

และด้วยการแสดง “จุดยืน” ของจีนแบบตรงไป-ตรงมาเช่นนี้นี่เอง...ที่ทำให้ “คิมน้อย” ยังพอมีโอกาสสร้างความ “เปรี้ยวเท้า” ให้กับคุณพ่ออเมริกาได้โดยตลอด คือตราบใดที่ “คิมน้อย” ยังไม่บ้าถึงขั้นส่งจรวดไปถล่มเกาะกวม ถล่มแคลิฟอร์เนีย โดยไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมากับตัวเองเอาเลยแม้แต่น้อย โอกาสที่คุณพ่ออเมริกาจะสั่งให้เครื่องบิน B-1B มาหย่อนระเบิดลูกแรกใส่เกาหลีเหนือนั้น อย่างน้อย “ทรัมป์บ้า” คงต้องนั่งคิด นอนคิด ประมาณ 18 ตลบเป็นอย่างน้อย เพราะนั่นเท่ากับไม่ใช่แค่เป็นการ “เปิดฉากสงครามเกาหลี” รอบใหม่เท่านั้น แต่ถือเป็นการ “เปิดฉากสงครามโลก” เอาเลยก็ว่าได้...

ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าจะ “บอยคอต” กันแบบไหน อย่างไร หนักหนาสาหัสอีกซักเท่าไหร่ โดยจุดยืนของจีนและรัสเซียที่เป็นไปรูปนี้ ก็เท่ากับเป็นตัวรับประกัน การันตี ให้ “คิมน้อย” สามารถสร้างความ “เปรี้ยวเท้า” ต่อไปได้เรื่อยๆ ถึงจะทุนหาย กำไรหด จากการไม่มีโอกาสส่งออกแร่เหล็ก ตะกั่ว สินค้าอาหารทะเล ฯลฯ แต่ยังอาจแอบหารายได้เล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นการแอบส่งจรวด 30,000 ลูก มูลค่าถึง 300 ล้านดอลลาร์ ไปขายพ่อค้าอาวุธอียิปต์ เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้ หรือจะโดยวิธีอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้แม้จะถูก “บอยคอต” มาโดยตลอด ก็ไม่เคยก่อให้เกิดความระเคือง ระคายต่อประเทศที่ได้ชื่อว่า “ฤาษีแห่งเอเชีย” มากมายซักเท่าไหร่นัก...

ตรงกันข้าม...ยิ่งนานวันความเปรี้ยวของ “คิมน้อย” หรือปมปัญหา “นิวเคลียร์เกาหลีเหนือ” นั้น ยิ่งทำให้ความเป็นอภิมหาอำนาจสูงสุดของคุณพ่ออเมริกายิ่งมีแต่จะเสื่อมโทรมลงไปเรื่อยๆ ยิ่งเมื่อบวกเข้ากับปมปัญหา “นิวเคลียร์อิหร่าน” ที่จู่ๆ อเมริกาเองนั่นแหละกลับเป็นฝ่ายเบี้ยวใครต่อใครเขาดื้อๆ จนอาจส่งผลให้พันธมิตรผู้เคยยืนเคียงบ่า-เคียงไหล่กับอเมริกามาโดยตลอด อย่างยุโรปทั้งยุโรป ลุกหนีเอาง่ายๆ ด้วยเหตุนี้...แม้จะไม่ต้องเปิดฉากสงครามใดๆ เอาเลยก็แล้วแต่ แต่ความเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่ง หรือมหาอำนาจสูงสุดของอเมริกา กำลังถูกเปลี่ยนมือไปยังจีนและรัสเซีย อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ยิ่งขึ้นทุกที...
กำลังโหลดความคิดเห็น