xs
xsm
sm
md
lg

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ18ต.ค. ทรงยก"นพปฎลมหาเศวตฉัตร"พระเมรุมาศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน360-งานก่อสร้างพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว 100% "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" เสด็จฯ ทรงยก "นพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ" วันที่ 18 ต.ค.นี้ "ธนศักดิ์"ยันพร้อมรับมือทุกปัญหาทั้งระบบไฟฟ้า ฝนตกหนัก ระบุหลังเสร็จงานพระราชพิธี จะเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมตั้งแต่วันที่ 2-30 พ.ย. ด้านรัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนที่จะเข้าร่วมงานในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ แต่งกายและใช้อุปกรณ์ประกอบที่สุภาพและเหมาะสม เผยรัฐบาลได้จัดพิมพ์บัตรเชิญสำหรับผู้เข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ 5 พันใบ

พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เปิดเผยว่า ขณะนี้งานก่อสร้างพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้างโดยรอบเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว โดยที่ยังเหลือนั่งร้านไว้ตรงกลาง เพราะวันที่ 17 ต.ค. จะมีการซักซ้อมยกนพปฎลมหาเศวตฉัตรก่อนที่วันที่ 18 ต.ค.2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินยกนพปฎลมหาเศวตฉัตร ซึ่งเมื่อพิธียกนพปฎลมหาเศวตฉัตรเสร็จสิ้นแล้ว จะมีการรื้อนั่งร้านออกทั้งหมด และทุกอย่างจะเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ จากนั้นวันที่ 20 ต.ค.จะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าชมความสมบูรณ์ของการก่อสร้างทั้งหมด

"งานก่อสร้างพระเมรุมาศ มีเวลาสร้าง 10 เดือน แต่สร้างเสร็จเพียง 9 เดือน เพราะความร่วมมือของทุกฝ่าย ตลอดจนจิตอาสาจากทั่วประเทศ ที่สำคัญการดำเนินงานพระราชพิธี มีการเตรียมพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะระบบไฟ มีแผนสำรอง หากไฟดับจะมีรถจ่ายไฟสำรองภายใน 30 วินาที ถึง 1 นาที ซึ่งถือว่าจนถึงขณะนี้ มีความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นแล้ว"

สำหรับการซักซ้อมริ้วขบวน เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ภาพรวมถือว่าสมบูรณ์ มีความเหมาะสมทุกจุด อาจมีการแก้ไขบางจุดให้ดีมากยิ่งขึ้น แต่ทุกอย่างถือว่าสมพระเกียรติ ทุกคนในริ้วขบวนมีความพร้อม จึงไม่มีสิ่งไหนน่ากังวล ส่วนการเตรียมการรับมือกับปัญหาฝนตก เรื่องนี้ไม่มีปัญหา เพราะได้เตรียมการไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว จะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ทางด้านการปลูกดอกไม้ คาดว่าในวันพระราชพิธีจะบานสะพรั่งเต็มที่ โดยดอกไม้และข้าวที่ปลูกจะอยู่ได้นานถึงสิ้นเดือนพ.ย.2560 เพื่อจัดนิทรรศการให้ประชาชนได้เข้าชมในช่วงวันที่ 2-30 พ.ย.2560

พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ต่างประเทศให้ความสนใจงานพระราชพิธีมาก ตั้งแต่เริ่มงานพระราชพิธี เพราะเขาสงสัยว่าทำไมคนไทยถึงรักพระราชวงศ์ไทย รักในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ที่ทรงมีจิตอาสามากมาย พระองค์ท่านสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยตั้งแต่ยังมีพระชนม์ชีพ จนสวรรคต ก็ยังมีการสร้างชื่อเสียงให้คนประกาศกันกึกก้อง ทุกคนรวมเป็นหนึ่งเดียว สิ่งเหล่านี้ มีการเผยแพร่ไปทั่วโลก นี่คือ ความรักความสามัคคีของประเทศไทย ที่เราต้องรักษาไว้ เพื่อประเทศชาติจะได้อยู่อย่างมั่นคง

ทั้งนี้ ในด้านการท่องเที่ยวในช่วงงานพระราชพิธี จากการสำรวจโรงแรมรอบ ๆ พื้นที่เต็มหมดแล้ว โดยหลังเสร็จงานพระราชพิธี จะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศเข้าเยี่ยมชม โดยกำหนดไว้ 5 จุด คือ คนไทย 3 จุด คนพิการและพระสงฆ์ 1 จุด และนักท่องเที่ยว 1 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2560 สำนักพระราชวังแจ้งหมายกำหนดการ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยกนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันที่ 18 ต.ค.2560 เวลา 17.00 น. โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พล.อ.ธนะศักดิ์ และนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร และคณะกรรมการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เฝ้าฯ รับเสด็จ

***จัดพิมพ์บัตรเชิญ 5พันใบ

วันเดียวกันนี้ นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แสดงตัวอย่างบัตรเชิญสำหรับผู้เข้าร่วมงาน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในวันที่ 26 ต.ค.2560 ที่จัดพิมพ์ไว้จำนวน 5 พันใบ เพื่อใช้ยืนยันการเข้าร่วมงาน โดยบัตรเชิญดังกล่าวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และการแก้ไขข้อความที่สำคัญ ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ขณะที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานลายบนบัตรเชิญ ซึ่งทำให้บัตรเชิญมีความสมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง

"ไม่มีบัตรเชิญใดในโลกใบนี้ที่พระราชโอรส และพระราชธิดาทรงทำถวายสมเด็จพระบรมราชชนก ตนอยากให้คนไทยได้รับทราบ พร้อมกับซาบซึ้งในสิ่งที่ทั้งสองพระองค์ได้ทำไว้ ทางสปน.หวังว่าผู้ที่ได้รับบัตรเชิญดังกล่าวจะเทิดทูนไว้เป็นสิ่งสูงสุด"นางพัชราภรณ์กล่าว

นางพัชราภรณ์กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนก่อนเดินทางเข้าร่วมงาน ทุกคนจะต้องไปรวมตัวที่จุดรวมพลตามที่รัฐบาลกำหนด และนั่งรถที่จัดไว้ให้ตามรอบเวลา เพื่อเดินทางเข้าพื้นที่ก่อน เวลา 14.45 น. ส่วนการอำนวยความสะดวกกับประชาชนที่จะเดินทางเข้าร่วมงาน รัฐบาลขอความร่วมมือและเชิญชวนประชาชน เตรียมความพร้อมในการเดินทางไปเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในวันที่ 26 ต.ค. โดยคำนึงถึงรายละเอียด เพื่อความเหมาะสม นอกเหนือจากการแต่งกายแล้ว อุปกรณ์ที่จะนำไปใช้ เช่น ร่ม ขอให้ใช้เป็นสีที่สุภาพไว้ทุกข์ด้วย

นอกจากนี้ รัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนให้กระจายไปยังบริเวณพระเมรุมาศจำลองที่รัฐบาลได้จัดไว้ และขอให้ติดตามพระราชพิธีสำคัญครั้งนี้ผ่านทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และจอทีวีที่ติดตั้งไว้ทั่วทุกมุมเมือง

นางพัชราภรณ์ ยังได้รับมอบน้ำดื่มจำนวน1 แสนขวด จากภาคเอกชนเพื่อใช้สนับสนุนในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งข้าวของเครื่องใช้ที่ได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน รัฐบาลจะส่งไปประจำในพระเมรุมาศจำลอง ทั้ง 9 แห่ง ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

**เปิดศูนย์สื่อมวลชนที่ม.ธรรมศาสตร์

ที่หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายออมสิน ชีวพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นประธานแถลงข่าวการเปิดศูนย์สื่อมวลชนและการให้บริการและอำนวยความสะดวกประชาชนที่เข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พร้อมด้วยนางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.องอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร (กทม.) พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.

นายออมสิน กล่าวว่า คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีฯ ได้จัดตั้งศูนย์สื่อมวลชน ประกอบด้วย ศูนย์สื่อมวลชน ศูนย์ถ่ายทอดวิทยะกระจายเสียง โดยกรมประชาสัมพันธ์เป็นแม่ข่ายในการถ่ายทอดเสียงไปยังสถานนีวิทยุ 5,000 สถานีทั่วประเทศ และศูนย์ถ่ายทอดวิทยุโทรทัศน์ โดยโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) เป็นแม่ข่ายการถ่ายทอดสดไปยังสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง รวมถึงสถานีโทรศัศน์ภาคภาษาอังกฤษ NBT World และ Thai TV TGN Global Network ส่งสัญญาณเผยแพร่ภาพและเสียงไปยัง 177 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งถ่ายทอดสดผ่านทาง เว็บไซต์ www.kingrama9.th และเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูลข่าวสารงานพระบรมศพฯ เพื่อให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ได้รับชมงานพระราชพิธีครั้งนี้ได้ทุกแห่งในโลก และได้รับความร่วมมือจากบริษัท ห้าง ร้านเจ้าของจอ LED รับสัญญาณถ่ายทอดสด เสมือนหนึ่งประชาชนได้อยู่ร่วมในพระราชพิธีจริง และพื้นที่แห่งนี้สามารถรองรับสื่อมวลชนได้ประมาณ 1,500 คน

โดยศูนย์สื่อแห่งนี้ ได้รับการเอื้อเฟื้อสถานที่ จาก ม.ธรรมศาสตร์ และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ การไฟฟ้านครหลวง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน ) บริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ภายในศูนย์ฯ มีการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน ได้แก่ คอมพิวเตอร์ จุดเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงรองรับผู้ใช้ได้ 1,500 คน มีพื้นที่แถลงข่าว พร้อมบริการอาหารว่าง เครื่องดื่ม สำหรับผู้ปฏิบัติงานถ่ายทอดสดและสื่อมวลชน ขณะนี้มีสื่อมวลชนลงทะเบียนทำบัตรแล้ว จำนวน 1,687 คน เป็นสื่อไทย 1,372 คน สื่อต่างประเทศ 318 คน จาก 86 สำนักข่าวทั่วโลก

"ศูนย์สื่อมวลชน ได้เปิดทำการในวันที่ 16 ต.ค. เป็นวันแรก และเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ แก่สื่อมวลชนที่ปฏิบัติงานตามหมายกำหนดการ โดยสื่อมวลชนสามารถนำบัตรแสดงตนเป็นสื่อมวลชนที่กรมประชาสัมพันธ์ออกให้เท่านั้น และขอความร่วมมือสื่อมวลชนช่วยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน และส่งเสริมการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ เพื่อทุกคนจะได้ร่วมกันทำหน้าที่ช่วงเวลาอันสำคัญยิ่งจากนี้ต่อไป”นายออมสินกล่าว

***กทม.เตรียมที่พักรองรับประชาชน

นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้ช่วยปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความพร้อมในการดูแลประชาชน ในช่วงที่เดินทางมาร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ว่า กรุงเทพฯได้จัดพื้นที่พักคอยและที่พักแรมให้กับประชาชน 29 เขตทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 25-27 ต.ค.นี้ โดยสามารถติดตามรายชื่อสถานที่ต่างๆ ได้ที่ www.prbangkok.com และติดต่อเข้าพักคอยได้ตามสถานที่นั้นๆ ขณะที่จุดประกอบอาหาร ได้เตรียมไว้ 22 แห่ง เพื่อส่งไปยังซุ้มอาหารจุดต่างๆ ทั้งสนามหลวงและเมรุมาศจำลอง 119 จุด ใช้เจ้าหน้าที่ 600 คน และจิตอาสา 4,000 คน

สำหรับเรื่องดอกไม้จันทน์ ขณะนี้กทม.ได้จัดเตรียมไว้ 13 ล้านดอก โดยจะจัดให้ที่จุดพระเมรุมาศจำลอง แห่งละ 150,000 ดอก, ซุ้มขนาดใหญ่แห่งละ 150,000 ดอก, ซุ้มขนาดกลาง แห่งละ 120,000 ดอก และ วัดต่างๆ 62 แห่ง แห่งละ 80,000 ดอก ซึ่งขณะนี้พระเมรุมาศจำลองและซุ้มต่างๆ ได้จัดสร้างเสร็จสิ้นแล้ว เหลือเพียงตกแต่งพื้นที่โดยรอบ

***ห้ามโดรนขึ้นบินโดยไม่ได้รับอนุญาต

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการร่วมพระราชพิธี โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

พล.อ.ประวิตร กล่าวภายหลังการประชุม ว่า การประชุมวันนี้ ทุกอย่างมีความเรียบร้อย ตนเน้นการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนเป็นหลัก จึงสั่งการให้ทุกภาคส่วนดูแลริ้วขบวนและประชาชน รวมถึงเฝ้าระวังกลุ่มต่อต้าน ซึ่งตอนนี้การข่าวยังไม่มีอะไรผิดปกติ ทุกอย่างเรียบร้อย 100% ถ้าไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น ส่วนการดูแลอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ขณะนี้ทางกองทัพอากาศ ได้ตั้งศูนย์อำนวยการแอนตี้โดรนขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ ซึ่งโดรนที่จะใช้งานได้ในช่วงพระราชพิธี ทั้งส่วนกลาง และต่างจังหวัด ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น หากใครไม่ขออนุญาต ห้ามนำโดรนขึ้นบินเด็ดขาด โดยตอนนี้ทางกองทัพอากาศควบคุมได้ทั้งหมด พร้อมทั้งออกคำสั่งบังคับใช้ทั่วประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น