ผู้จัดการรายวัน360-นายทหารอดีตอนุศาสนาจารย์กองทัพบก อ้าง "พระราชรัชมุนี" ที่หนีคดี หลังจับได้ว่าเป็นคนเมียนมาและสวมบัตรประชาชนคนตาย เป็นคนดี ยกตั้งแต่โบราณกาล สมณทูตเผยแผ่ประกาศศาสนา ไม่เห็นต้องมีวีซ่า ย้ำเข้ามาเมืองไทย ทำแต่ความดีมากมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่พระราชรัชมุนี (นิมิต ทิพย์ปัญญาเมธี) เจ้าอาวาสวัดสวนดอก พระอารามหลวง ต.สุเทพ อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ และเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งถูกปลัดอำเภอแม่อายแจ้งความดำเนินคดีในข้อหายื่นคำขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทย ด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ , แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หลังพบว่าเลขที่บัตรประชาชนตรงกับของ ด.ช.ดวงดี หรือนายดวงดี เวียงดินดำ ชาว ต.บ้านแก้ง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2538 จึงถูกร้องเรียนว่าเป็นการสวมสิทธิคนตายหรือไม่ และยังถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง กระทบวงการสงฆ์ของไทย ซึ่งภายหลังพบว่าพระราชรัชมุนี มีสัญชาติเมียนมา
ขณะเดียวกัน ได้มีความเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องพระราชรัชมุนี โดยเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา พระครูอมรธรรมทัต (บุญส่ง อมรทตฺโต) เจ้าอาวาสวัดพันอ้น ย่านประตูท่าแพ ต.ศรีภูมิ อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ และเลขานุการศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนา จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับพระสงฆ์และตัวแทนองค์กรชาวพุทธในจังหวัดเชียงใหม่ ประชุมร่วมกันเพื่อหารือในกลุ่มพุทธศาสนาของจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้มีแนวทางเคลื่อนไหวปกป้อง และดำเนินการตอบโต้ทางกฎหมาย กรณีที่เห็นว่ามุ่งทำลายพระส่วนใหญ่เหมารวมว่าประพฤติไม่ดี แต่ในส่วนของความผิดทางโลกของพระราชรัชมุนี ก็ว่าไปตามกฎหมาย
ล่าสุด วานนี้ (16 ต.ค.) ในเฟซบุ๊ก "ท่านมหาฮักษา คุ้มหลวงดอยฮาง" ได้โพสต์ข้อความ อ้างถึงคำพูดของ พ.อ.นเรศร์ จิตรักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ และอดีตอนุศาสนาจารย์ กองทัพบก ระบุว่า ได้ติดตามกระแสอยู่ เห็นว่าต้องกล้าเผชิญความจริงแล้ว ประเด็นที่ควรออกมาชี้แจงสังคม คือ 1.สมณทูต ตั้งแต่โบราณกาลเป็นต้นมา เดินทางเผยแผ่ประกาศศาสนาโดยไม่มีบัตรเข้าเมืองหรือวีซ่า ถือเจตนาบริสุทธิ์ จรถ ภิกฺขเว พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย เป็นประการสำคัญ 2.คนชั่วเข้าเมืองกับคนดีเข้าเมือง มีผลต่างกัน ท่านเจ้าคุณราช (พระราชรัชมุนี) เป็นคนดี เข้าเมืองมาทำแต่ความดีมากมาย
3.ท่านเจ้าคุณฯ ด้วยเหตุใดก็ตามที่เกิดเรื่องสวมบัตร ผิด กฎหมาย แต่พฤติกรรมของท่านตั้งแต่เข้ามาเมืองไทยแต่เด็กไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติเลย ไม่เคยทำความเดือดหรือสร้างความเสียหายให้กับสังคมไทย ตรงข้ามกลับทำแต่ความดี สร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นแก่ประเทศชาติพระพุทธศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือสิ่งใด ดังปฏิปทาสมณคุณของท่านที่ปรากฏเป็นที่ประจักษ์แก่คณะสงฆ์ทุกระดับและท้องถิ่นท้องที่ต่างเคารพกราบไหว้ท่านในฐานะพระผู้สร้างคุณูปการแก่สังคมไทยอย่างมากมายรูปหนึ่ง จนคณะสงฆ์ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ต่างยกย่องชื่นชมความดีของท่าน
4.เรื่องต่างด้าวนี้ผิดกฎหมาย แล้วทำดีตลอดชีวิต เปรียบเทียบกับเข้ามาไม่ผิดกฎหมาย (เพราะมีบัตร) แต่โคตรเลวทำร้ายสังคมไทย ก็มาอยู่มากมายขณะนี้ หรือเข้ามาแบบหลบๆ ซ่อนๆ แต่ก็มาเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ขณะนี้ก็มีอยู่เกลื่อนเมือง เรื่องนี้จึงต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่พระราชรัชมุนี (นิมิต ทิพย์ปัญญาเมธี) เจ้าอาวาสวัดสวนดอก พระอารามหลวง ต.สุเทพ อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ และเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งถูกปลัดอำเภอแม่อายแจ้งความดำเนินคดีในข้อหายื่นคำขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทย ด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ , แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หลังพบว่าเลขที่บัตรประชาชนตรงกับของ ด.ช.ดวงดี หรือนายดวงดี เวียงดินดำ ชาว ต.บ้านแก้ง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2538 จึงถูกร้องเรียนว่าเป็นการสวมสิทธิคนตายหรือไม่ และยังถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง กระทบวงการสงฆ์ของไทย ซึ่งภายหลังพบว่าพระราชรัชมุนี มีสัญชาติเมียนมา
ขณะเดียวกัน ได้มีความเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องพระราชรัชมุนี โดยเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา พระครูอมรธรรมทัต (บุญส่ง อมรทตฺโต) เจ้าอาวาสวัดพันอ้น ย่านประตูท่าแพ ต.ศรีภูมิ อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ และเลขานุการศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนา จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับพระสงฆ์และตัวแทนองค์กรชาวพุทธในจังหวัดเชียงใหม่ ประชุมร่วมกันเพื่อหารือในกลุ่มพุทธศาสนาของจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้มีแนวทางเคลื่อนไหวปกป้อง และดำเนินการตอบโต้ทางกฎหมาย กรณีที่เห็นว่ามุ่งทำลายพระส่วนใหญ่เหมารวมว่าประพฤติไม่ดี แต่ในส่วนของความผิดทางโลกของพระราชรัชมุนี ก็ว่าไปตามกฎหมาย
ล่าสุด วานนี้ (16 ต.ค.) ในเฟซบุ๊ก "ท่านมหาฮักษา คุ้มหลวงดอยฮาง" ได้โพสต์ข้อความ อ้างถึงคำพูดของ พ.อ.นเรศร์ จิตรักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ และอดีตอนุศาสนาจารย์ กองทัพบก ระบุว่า ได้ติดตามกระแสอยู่ เห็นว่าต้องกล้าเผชิญความจริงแล้ว ประเด็นที่ควรออกมาชี้แจงสังคม คือ 1.สมณทูต ตั้งแต่โบราณกาลเป็นต้นมา เดินทางเผยแผ่ประกาศศาสนาโดยไม่มีบัตรเข้าเมืองหรือวีซ่า ถือเจตนาบริสุทธิ์ จรถ ภิกฺขเว พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย เป็นประการสำคัญ 2.คนชั่วเข้าเมืองกับคนดีเข้าเมือง มีผลต่างกัน ท่านเจ้าคุณราช (พระราชรัชมุนี) เป็นคนดี เข้าเมืองมาทำแต่ความดีมากมาย
3.ท่านเจ้าคุณฯ ด้วยเหตุใดก็ตามที่เกิดเรื่องสวมบัตร ผิด กฎหมาย แต่พฤติกรรมของท่านตั้งแต่เข้ามาเมืองไทยแต่เด็กไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติเลย ไม่เคยทำความเดือดหรือสร้างความเสียหายให้กับสังคมไทย ตรงข้ามกลับทำแต่ความดี สร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นแก่ประเทศชาติพระพุทธศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือสิ่งใด ดังปฏิปทาสมณคุณของท่านที่ปรากฏเป็นที่ประจักษ์แก่คณะสงฆ์ทุกระดับและท้องถิ่นท้องที่ต่างเคารพกราบไหว้ท่านในฐานะพระผู้สร้างคุณูปการแก่สังคมไทยอย่างมากมายรูปหนึ่ง จนคณะสงฆ์ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ต่างยกย่องชื่นชมความดีของท่าน
4.เรื่องต่างด้าวนี้ผิดกฎหมาย แล้วทำดีตลอดชีวิต เปรียบเทียบกับเข้ามาไม่ผิดกฎหมาย (เพราะมีบัตร) แต่โคตรเลวทำร้ายสังคมไทย ก็มาอยู่มากมายขณะนี้ หรือเข้ามาแบบหลบๆ ซ่อนๆ แต่ก็มาเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ขณะนี้ก็มีอยู่เกลื่อนเมือง เรื่องนี้จึงต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเท่านั้น