xs
xsm
sm
md
lg

บินไปดูโลกกันอีกเที่ยว (จบ)

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท

นายชาร์ลส์ ดับเบิลยู ฟรีแมน - นายราจา อัลมาร์ซูกี
ถ้าย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 2000 “นายชาร์ลส์ ดับเบิลยู ฟรีแมน” (Charles W. Freeman) อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำซาอุดีอาระเบีย และอดีตประธานสภานโยบายด้านตะวันออกกลาง (Middle East Policy Council) ได้เคยตั้งข้อสังเกตถึงสัมพันธภาพระหว่างรัฐบาลอเมริกันกับรัฐบาลซาอุฯ ไว้น่าคิด น่าสนใจไม่น้อย ด้วยคำกล่าวที่ว่า... “สิ่งสำคัญที่ประเทศซาอุดีอาระเบียได้สร้างเอาไว้อย่างชนิดต้องจดจารึกเป็นประวัติศาสตร์ก็คือ การยืนหยัดที่จะซื้อ-ขายน้ำมันของพวกเขาด้วยเงินสกุลดอลลาร์ เพราะฉะนั้น...รัฐบาลของเราจึงยังคงสามารถพิมพ์เงินดอลลาร์ออกมาได้เรื่อยๆ โดยอาศัยความได้เปรียบที่ประเทศอื่นไม่ได้มีเหมือนเรา แต่ด้วยการปรากฏตัวขึ้นมาของเงินสกุลอื่น และด้วยความตึงเครียดระหว่างเรากับซาอุฯ ซึ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผมกังวลว่า...ในอีกไม่นาน-ไม่ช้า พวกเขาอาจไม่คิดที่จะทำสิ่งนี้ต่อไป โดยเฉพาะเมื่อประชาชนชาวซาอุฯ ต่างร้องถามขึ้นมาว่า...ทำไมเราต้องใจดีกับพวกอเมริกันถึงขนาดนั้น...”

และตามความเป็นจริง...บรรดาชาวซาอุฯ จำนวนไม่น้อย ก็ส่งเสียงตะโกนถามทำนองนี้มานานแล้ว โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลซาอุฯ กำลังเจอกับแรงกดดันภายในประเทศ นับตั้งแต่ช่วง “อาหรับสปริง” เป็นต้นมา นักธุรกิจการเงินชาวซาอุฯอย่าง “นายราจา อัลมาร์ซูกี” (Raja Al-Marzouki) ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ วิทยาลัยบริหารธุกิจซาอุฯ อย่าง “นายอับดุล ราห์มาน อัล-ษานี” (Abdul Rahman Al-Sanie) ไปจนถึงสมาชิกสภาซูเราะห์ (Shoura Council) อย่าง “นายอิห์ชาน บูฮูไลกา” (Ihsan Bu-Hulaiga) ที่ได้ออกมาเรียกร้องผ่านนิตยสาร “อัล เอคติซะดิอะห์” (Al-Eqtisadiah) แบบตรงไป-ตรงมา ให้รัฐบาลและนักธุรกิจซาอุฯ รีบหาทางสลัดตัวเองออกจากเงินดอลลาร์ซะแต่เนิ่นๆ...

ซึ่งจะเป็นด้วยกระแสแรงกดดันเหล่านี้หรือไม่ อย่างไร ก็มิอาจทราบได้...ที่ทำให้เกิดข่าวคราวสร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งโลกเมื่อหนังสือพิมพ์ “The Independent”ของอังกฤษ ได้ตีพิมพ์บทรายงานเชิงลึกของนักข่าวประเภทสืบสวนสอบสวนชาวอังกฤษผู้มีนามว่า “โรเบิร์ต ฟิสก์” (Robert Fisk) ที่ได้ชื่อว่าเชี่ยวชาญด้านการเมือง เศรษฐกิจในตะวันออกกลางจากประสบการณ์การหาข่าวในพื้นที่แห่งนี้มาไม่น้อยกว่า 30 ปี นั่นก็คือบทรายงานเรื่อง “The Demise of The Dollar” หรือ “อวสานของเงินดอลลาร์” โดยการอ้างถึงข้อมูลจาก “แหล่งข่าวระดับสูง” ที่ระบุถึงการประชุมลับของบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันในย่านตะวันออกกลางไม่ว่าซาอุดีอาระเบีย โอมาน บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ฯลฯ กับบรรดาประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่อย่างจีนและญี่ปุ่น เพื่อหารือถึงการเปลี่ยนไปใช้เงินตราสกุลอื่นที่ไม่ใช่ดอลลาร์ หรือใช้ระบบตะกร้าเงิน ในการกำหนดการซื้อ-ขายน้ำมันกันแทนที่...

ข่าวคราวที่ว่านี้...กลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตถึงขั้นทำให้ประเทศที่ถูกระบุว่ามีส่วนร่วมในการประชุมลับ ต้องออกมาแก้ข่าวกันอุตลุด แม้แต่สถานทูตซาอุฯ ในประเทศไทยยังถึงกับต้องออกมาแถลงแก้ข่าวอย่างเป็นทางการ แต่แม้จะมีการแก้ข่าวในแบบไหนก็ตาม ในทัศนะของผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน อย่างเช่น “นายวิลเลียม อิงดาห์ล” (William Engdahl) ผู้เขียนหนังสือเรื่อง “A Century of War : Anglo American Oil Politic and the New World Oder” กลับเห็นว่าน่าจะเป็นเรื่องจริงที่ไม่ได้อิงนิยายใดๆ แม้แต่น้อย แถมยังอ้างว่าตัวเองก็เคยได้ข่าวทำนองนี้มาโดยตลอด เนื่องจาก “บรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันทั้งหลาย ต่างรู้สึก...เต็มกลืน...มานานเต็มที สำหรับการกำหนดราคาน้ำมันของตัวเองด้วยเงินสกุลดอลลาร์” โดยเฉพาะหลังจากที่เกิด “วิกฤตซับไพรม์” ในปี ค.ศ. 2007 เป็นต้นมา...

แต่นั่นก็เป็นเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจซะเป็นหลัก ยังไม่ได้ผนวกรวมไปถึงเรื่องการเมือง การทหาร ที่ความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของมหาอำนาจสูงสุดอย่างอเมริกา ยังพอรับประกัน การันตีให้กับบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางทั้งหลาย พร้อมที่จะ “ขาดทุนกำไร” จากการซื้อ-ขายน้ำมันเพื่อแลกมากับการคุ้มครอง ป้องกัน หรือการดำเนินวิเทโศบายต่างประเทศของแต่ละประเทศ อันทำให้เงินดอลลาร์ของสหรัฐ กลายเป็นเงินตราที่ไม่จำเป็นต้องมีทองคำหนุนหลัง หรือเป็น “Fiat money” นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1971 หรือนับตั้งยุคประธานาธิบดี “ริชาร์ด นิกสัน” เป็นต้นมา...

แต่เมื่อมาถึง ณ ขณะนี้...ไม่ใช่แค่เฉพาะต้อง “ขาดทุนกำไร” ในเรื่องเงินๆ-ทองๆ เท่านั้น กระทั่งการเมือง การทหาร หรือแม้แต่การก่อการร้าย การสนับสนุนการก่อการร้าย ต่างมีแต่จะ “ขาดทุน” ไปด้วยกันทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้...ข่าวคราวเรื่องการเลิกซื้อ-ขายน้ำมันด้วยเงินดอลลาร์ จะด้วยแรงกด แรงบีบของจีน ด้วยการเกลี้ยกล่อม โน้มน้าวของรัสเซีย รวมทั้งความพยายามรับมือกับปัญหาภายในของประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อย่างซาอุฯ เอง ไปจนถึงความตกต่ำทางการเมือง การทหารของอเมริกา ที่แม้แต่ “คิมน้อย” ก็ยังเอาไม่อยู่ ข่าวคราวที่ว่าจึงมีโอกาส “เป็นไปได้” สูงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และนั่นย่อมทำให้ “อวสานของเงินดอลลาร์” อาจนำมาซึ่ง “อวสานของอเมริกา” ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ อันนี้นี่แหละ...ที่น่าคิด น่าสนใจเอามากๆ เพราะนั่นเท่ากับว่า...ระเบียบโลก หรือระบบการเงินโลก อาจกำลังใกล้ถึง “จุดเปลี่ยน” ในอีกไม่นาน-ไม่ช้า!!! ส่วนเมื่อโลกเปลี่ยน หรือระบบโลกเปลี่ยนแปลงไป “ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” >/b>ของประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม จะต้องเปลี่ยนไปด้วยหรือไม่ อย่างไร??? อันนั้น...คงต้องวาน “หมวดเจี๊ยบ” ให้ลองไปถาม“บิ๊กตู่” กันเอาเองนั่นแล...
กำลังโหลดความคิดเห็น