xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**“หนูปู”ปักหมุดลอนดอน!! เปิดที่ซุกหัว“ยิ่งลักษณ์”จำเลยหนีคดี สุขสบายกลางมหานครลอนดอน ละแวกเดียวกับ“บ้านพี่ษิณ”รอฟังคำพิพากษา ก่อนยื่นขอลี้ภัย

คงไม่มีอะไรต้องลุ้นมาก .. วันนี้ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาในคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่มี “หนูปู”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็น“จำเลยเดี่ยว”ในคดี .. ซึ่งแน่นอนแล้ว่า “จำเลยปู”คงไม่โผล่มาฟังคำพิพากษา จากคำยืนยันของ“รองฯป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้ซึ่งเพิ่งกลับจากราชการที่ประเทศอังกฤษ ที่ฟันธงแล้วว่า“ไม่มาชัวร์”.. ส่วนผลการตัดสินจะออกหน้าไหน แล้วต้องดำเนินการอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง .. แต่ผ่านมา 1 เดือนเต็มๆ หลังจากที่สามารถรวบตัว“พลขับ”ที่เป็น“นายตำรวจในราชการ”ผู้พา “หนูปู”ไปส่งถึงชายแดน ก่อนหลบหนีออกจากประเทศไทย ด้าน“บูรพาทิศ”อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ไปตั้งแต่ วันที่ 23 ส.ค. .. ก็เพิ่งมีข้อมูลแพลมออกจากปาก "นายกฯตู่" ว่าตอนนี้พอรู้แล้วว่า“น้องปู”หนีไปพำนักอยู่ที่ประเทศไหน .. หากแต่“พี่ตู่”ก็ยังไม่ชัวร์ ขอรอให้“ประเทศปลายทาง”ยืนยันมาก่อนว่า“สาวปู”ไปกบดานอยู่จริง ..
ในระหว่างรอความแน่นอนจากรัฐบาล กลับมีมีรายงานข่าวที่ชัวร์ป๊าบแล้วว่า ตอนนี้“อดีตนายกฯปู”อยู่ที่ “กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ”มาพักใหญ่ๆแล้ว .. โดยข้อมูลหลายแหล่งชี้ตรงกันว่า “จำเลยหลบหนีคดี”ไม่ได้ตกระกำลำบากอย่างที่เข้าใจ หลังจากข้ามแดนไปกัมพูชา ต่อไปที่ประเทศสิงคโปร์ และไปซุกอ้อมอก“พี่ษิณ” ทักษิณ ชินวัตร ที่มหานครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แล้ว .. ก็พากันข้ามน้ำข้ามทะเล ไปใช้ชีวิตสุขสบายตามประสาคนมีกะตังค์ อยู่ที่ “แดนผู้ดี”ประเทศอังกฤษ .. โดย “สาวปู”พักอยู่ในอพาร์ตเมนต์หรูแห่งหนึ่ง ในย่าน Knights Bridge ว่ากันว่าอารมณ์ประมาณ“ย่านราชประสงค์”ของเมืองไทย แวดล้อมไปด้วยร้านรวง สุดหรู ไม่ใกล้ไม่ไกลกับ“แฮร์รอด”ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ที่ “พี่ษิณ”ชอบไปเดินชอปปิ้งนั่นแหละ .. ถ้าจะเอาพิกัดเป๊ะๆ ก็อยู่บน ถนน “Brompton Rd.”กลางกรุงลอนดอน ซึ่งเป็น“จุดเช็คอินยอดฮิต” ส่วนตัวของ“น้องอิ๊ง”แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของทักษิณ ในเวลาที่แวะไปเยี่ยม“พ่อษิณ”ที่ประเทศอังกฤษนั่นเอง .. ซึ่งตอนนี้ทั้ง“น้องอิ๊ง”และ “คุณแม่เอม”พินทองทา ชินวัตร ก็อยู่ระหว่างพาหลานๆ ไปหา“ตาทักษิณ”ที่กรุงลอนดอน แถมโพสต์ภาพกันรัวๆ เอาให้แฟนคลับหายคิดถึงกันเลยทีเดียว .. จนมีภาพหนึ่งที่ก่อกระแสดราม่าขึ้น เมื่อมี“ภาพตัดต่อ”ให้เห็นภาพสะท้อนในแว่นตาของ“สาวอิ๊ง”ว่า “อาปู”เป็นผู้ถ่ายภาพให้ จนมีคนฮุบเหยื่อไปเผยแพร่ต่อ ก่อนจะเงิบตามๆ กัน เมื่อ “สาวอิ๊ง”โพสต์รูปจริงแท้ ไร้เอฟเฟกต์ ให้เห็นว่า ไม่มีเงาใครอยู่ในแว่นตา .. คงรอคำพิพากษาออกมาอย่างเป็นทางการ แล้วค่อยเปิดตัวแบบ“แกร์นด์โอเพ่นนิ่ง”ขอลี้ภัยอย่างเป็นทางการกันไปเลย .. แต่ถึงปฏิเสธได้แค่ว่า“อาปู”ไม่ได้เป็นคนแชะภาพให้เท่านั้น เพราะคงไม่มีใครเชื่อหรอกว่า อยู่ใกล้กันแค่คืบ “อาปู”ไม่ได้ไปร่วมจอยชีวิตแสนสุขของ“ครอบครัวชินวัตร”..เฉกเช่นเดียวกับเมื่อครั้ง“ลุงป้อม”ไปราชการที่กรุงลอนดอนนั่นแหละ บอกไม่เจอกัน ใครจะเชื่อ !?.

**กลับลำ 360 องศา!! “รัฐบาลประยุทธ์”อาการหนัก ออกมติล้างมติตัวเอง คืนตำแหน่ง“ผอ.สำนักพุทธฯ”หลังยอมลงให้ “โจรผ้าเหลือง”แต่เจอ “สัญญาณแปร่ง”จากปฏิบัติการ ปปป.-ปปง. ตบหน้าฉาดใหญ่

ท่าจะอาการหนัก .. หลังที่ประชุมครม.ที่มี “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน มีมติแต่งตั้ง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กลับมาทำหน้าที่เดิม .. เป็นมติครม.ที่“กลับลำ 360 องศา”จากเมื่อวันที่ 29 ส.ค.60 ที่“ครม.ลุงตู่”มีมติโอน“ผอ.พงศ์พร” ไปเป็นผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกฯ และให้ "มานัส ทารัตน์ใจ" อธิบดีกรมการศาสนา มาเป็น ผอ.พศ. แทน .. ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า“รัฐบาล คสช.” สะดุดตอเข้าให้แล้ว จากบทบาทของ“ผอ.พงศ์พร”ที่ลุยเรื่อง“ทุจริตเงินทอนวัด”แบบไม่ไว้หน้าใคร .. จนเจอ“โจรผ้าเหลือง”ต่อรองขอให้ย้าย“ผอ.พงศ์พร” ออกไปให้พ้นทาง .. แต่คนในรัฐบาล ไล่ตั้งแต่“นายกฯตู่”มาถึง วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ด้านกฎหมาย และ ออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี กำกับ พศ. ต่างดาหน้าออกมายืนยันว่า เป็นไปเพื่อความเหมาะสมในการทำงาน .. โดยเฉพาะตัว“รองฯวิษณุ”ถึงกับออกหน้าว่าเป็น“ผู้อยู่เบื้องหลัง”คำสั่งเด้ง“ผอ.พงศ์พร”เองด้วย .. ทว่า “ผอ.พงศ์พร”ผู้ที่ได้อภินิหารพิลึกกึกกือ จากคำสั่ง ม.44 เหาะจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาเป็น ผอ.พศ. และยังมีข่าวว่า“ถอดใจ” ไม่อยากข้องแวะกับ“ปู่โสมเฝ้าทรัพย์”ทั้งหลาย เนื่องจากต้องเผชิญแรงเสียดทานอย่างหนัก ตลอดเวลาที่เข้าไปตรวจสอบงบบูรณะปฏิสังขรณ์-งบอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม .. ถึงขั้นเจอผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น“พระผู้ใหญ่”อย่าง “เจ้าคุณพิพิธ”พระเทพปฏิภาณวาที แห่งวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ชี้นิ้วด่าต่อหน้าธารกำนัลมาแล้ว .. ก็ยังรับไม่ได้กับมติ ครม. ที่สั่งย้ายตัวเองกลางอากาศ จนมีการประท้วงด้วยการ“เก็บตัวเงียบ”ไม่ยอมไปรายงานตัวกับ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ผู้บังคับบัญชาใหม่ ที่มีคำสั่งให้ไปเป็นผู้ตรวจฯ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ .. พร้อมๆ กับการทิ้งบอมบ์ลูกใหญ่ ร่อนจดหมายถึง“รมต.ออมสิน”ระบุถึงการไม่ยอมรับคำสั่ง ที่ส่อไปในทาง“ขัดกฎหมาย”หลายประการ จน “บิ๊กในรัฐบาล”ตกอยู่ในภวังค์ พูดไม่ออก บอกไม่ถูก เลยทีเดียว
ระหว่างนั้นก็เกิด“สัญญาณแปร่งๆ”ขึ้น เพราะในขณะที่ “รัฐบาล คสช.”กำลังม้วนเสื่อ ไม่ไปต่อล้อต่อเถียงกับ“วงการผ้าเหลือง”ที่เกี่ยวกับการ“ทุจริตเงินทอนวัด”อยู่ดีๆ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ก็สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วย รวมทั้งสำนักงานป้องกันและปราบการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าตรวจค้น“เครือข่ายทุจริตเงินทอนวัด”หลายจุดทั่วประเทศ .. พร้อมทั้งเรียก“แก๊งเปรต”อันประกอบด้วยฆราวาส และ “4พระผู้ใหญ่”โดย 1 ในนั้น มีเลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วย เข้ารับทราบข้อกล่าวหา .. ซึ่งมี“เบื้องลึก”ระบุตรงกันว่า ปฏิบัติการของ ปปป.-ปปง. หนนั้น ไม่ใช่เป็นคำสั่งของ“รัฐบาลกลาง”แต่เป็นการตบหน้า“รัฐบาลประยุทธ์”ฉาดใหญ่ .. สะท้อนว่า “รัฐบาล คสช.”เดินหมากผิด กับการล้างบาง"เปรตอมเงินวัด” การยอมถอยให้กับ “มาเฟียสงฆ์”ถือเป็นก้าวย่างที่พลาด“สวนทางลม”มากกว่า“ลู่ไปตามลม” .. แม้“รมต.ออมสิน”จะพยายามออกแอกชั่นว่า รัฐบาลจะฟันไม่เลี้ยง หากพบว่ามีความผิด โดยเฉพาะ“ผู้ได้ชื่อเป็นสงฆ์”ก็จะถูกจับสึกทันที .. หากแต่แอกชั่นของ “รมต.ออมสิน”ก็มาถูกจับได้ว่า เป็นเพียงความพยายาม“ปาดหน้าเค้ก”เท่านั้น เนื่องจากในมติ ครม. ที่คืนตำแหน่งให้“ผอ.พงศ์พร”นั้น ยังมีคำสั่งให้“บิ๊กเจี๊ยบ”พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี มากำกับดูแล พศ. แทน “รมต.ออมสิน”..เสมือนเป็นการชี้เป้าว่า“รมต.ออมสิน”คือ “จุดอ่อน”ในปฏิบัติกวาดล้าง “เปรตปมเงินวัด”นั่นเอง ..
การที่ “ครม.ลุงตู่”มีมติกลับไปกลับมา คล้ายกับไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยเช่นนี้ หากมองผิวเผินแล้ว อาจจะเป็นเพราะเห็นว่า“คำโต้แย้ง”ของ “ผอ.พงศ์พร”ที่ชี้ว่า มติโอนย้ายเขานั้น“ผิดกฎหมาย”จึงรีบแก้ไข-เยียวยาให้แก่ผู้เสียหาย .. แต่ก็ต้องบอกว่าเป็นเหตุผลที่“เบาหวิว” ด้วยว่า“รัฐบาล คสช.”ก็มีมาตรา 44 อำนาจครอบจักรวาล แก้ปัญหาได้แค่ลัดนิ้วมือ คงไม่กลัวประเด็นหยุมหยิมเช่นนี้ .. อีกทั้งหาก“ผอ.พงศ์พร”จะเอาผิด ครม.จริง ก็คงโร่ไปร้องต่อ ศาลปกครอง เหมือนอย่าง ถวิล เปลี่ยนศรี อดีต เลขาฯสมช. เคยเขี่ย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตกเก้าอี้มาแล้ว แต่นี่ไม่!! .. การกลืนน้ำลายคืนตำแหน่งให้“ผอ.พงศ์พร”จึงเสมือนเป็นการ“สารภาพบาป” ว่าให้ความสำคัญต่อ“แก๊งโกงเงินวัด”ผิดไป .. รวมทั้งคงจับ“ทิศทางลม”ได้แล้วว่า ต้องทำอย่างไรกับ "แก๊งเปรตในผ้าเหลือง”ที่นั่งคร่อม “ขุมทรัพย์แสนล้าน”ต่อไป .. เป็นบทเรียนครั้งสำคัญของ“รัฐบาลประยุทธ์”ว่า หากจะ“อยู่ให้เป็น”ในยุคนี้ต้อง ใช้อำนาจที่มีขจัด“เหลือบไร”ให้สิ้นซาก มิใช่ตั้งหน้าตั้งตา“เกี้ยเซียะ-ซูเอี๋ย”อย่างที่ “บิ๊ก คสช.”ถนัด แบบนั้นมันอยู่ไม่ได้ดอกนาย

** ความผิดสำเร็จแล้ว!!“บิ๊กป๊อก”เพิ่งตื่น “ขบวนการฮุบป่า”ฮึ่มผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด สำรวจใช้ที่ดินสาธารณะเอื้อเอกชน พบมีคนค้านต้องเพิกถอนทันที แต่อย่าลืมเอาผิดคนอนุมัติ ด้วยนะท่าน

ง่ายดีแฮะ!! เห็นว่า“บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เด้งดึ๋งรับลูกที่“ชาวบ้านบ้านแลง”จ.ระยอง ออกมาคัดค้านการที่“กระทรวงมหาดไทย”อนุญาตให้ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะในพื้นที่บ้านแลง .. รวดเร็วทันใจ “มท.ป๊อก”สั่งการให้ “ผู้ว่าฯระยอง”ในฐานะผู้อนุมัติ ทำการ“เพิกถอน”การใช้พื้นที่ดังกล่าวทันที .. พร้อมสั่งให้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงว่า เหตุใดจึงอนุญาต ทั้งที่ประชาชนในพื้นที่ได้ออกมาคัดค้าน .. ก็คล้ายกับกรณีที่ “บิ๊กป๊อก”ลงนามอนุมัติให้ “บริษัทเครือกระทิงแดง”ไปใช้ที่ดินสาธารณะที่ขึ้นทะเบียนเป็น “ป่าชุมชน”ในพื้นที่ห้วยเม็ก อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น นั่นแหละ .. พอมีประเด็น “ห้วยเม็ก”ขึ้นมา ก็เหมือนรื้อขยะใต้พรม และกลายเป็นว่า“ขบวนการฮุบป่า”เอื้อประโยชน์เอกชน ไม่ได้มีที่เดียว .. ครั้น“ท่าน มท.1”จะแค่สั่งการให้ผู้ว่าฯ ทุกพื้นที่พิจารณาเพิกถอนการใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะทันที หากพบว่ามีการคัดค้านจากประชาชนชน อย่างเดียวก็คงไม่จบ .. เพราะหลายแห่งมีการใช้ประโยชน์มาหลายปีแล้ว ก็เท่ากับ“ความผิดสำเร็จแล้ว”ก่อนความเสียหายมาหลายปีแล้วเช่นกัน .. เรื่องพรรค์นี้ จะไป“ล้มมวย”ตรวจสอบแบบจับมือใครดมไม่ได้ ก็ค้านสายตาประชาชน อย่าง “ป่าห้วยเม็ก”มันก็มีลายเซ็นต์ “พะนะท่านป๊อก”โชว์อยู่ทนโท่ จะไปโทษ“ข้าราชการระดับล่าง”อย่างเดียวก็กระไรอยู่.
ช.ชฎา
กำลังโหลดความคิดเห็น