xs
xsm
sm
md
lg

"สมคิด"ช่วยSMEsรับมือบาทแข็ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน360-"สมคิด"เป็นประธานประชุมบอร์ด สสว. แทนนายกฯ เคาะมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน วงเงิน 500 ล้านบาท นำร่องเฟสแรกช่วยผู้ประกอบการ 5,000 ราย เน้นเฉพาะรายที่มีรายได้ไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปีก่อน พร้อมตั้งอนุกรรมการสรรหา ผอ.สสว. คนใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการทำหน้าที่ประธานประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (บอร์ดสสว.) ซึ่งเป็นการประชุมเฉพาะกิจแทนนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ว่า รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณปี 2561 จำนวน 1,007 ล้านบาท ผ่าน สสว. เพื่อช่วยยกระดับการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) และสตาร์ทอัพ ให้มีความเข้มแข็ง และยังได้เห็นชอบมาตรการเพิ่มขีดความสามารถและส่งเสริมความรู้ให้กับเอสเอ็มอีในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนงบประมาณ 500 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังได้มีมติเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณอนุะกรรมสรรหาผู้อำนวยการ สสว. คนใหม่ เนื่องจากนางสาลินี วังตาล ได้สิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สสว. ลงแล้ว ในวันที่ 21 ก.ย.2560 โดยรายชื่อคณะอนุกรรมการสรรหาจะมีไม่เกิน 5 คน ให้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ดเป็นผู้พิจารณาแต่งตั้ง หลังจากนั้นตามระเบียบจะสรรหาให้เสร็จภายใน 45 วัน โดยให้นายชัยพร ชยานุรักษ์ รองผู้อำนวยการ รักษาการในตำแหน่ง ผอ.สสว. ไปก่อนจนกว่าจะแต่งตั้งผอ.สสว. แล้วเสร็จ

นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า จากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อเอสเอ็มอีที่เป็นผู้ส่งออกกว่า 20,000 ราย เพราะผู้ประกอบการไม่มีความรู้การประกันความเสี่ยง ซึ่งการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา นายสมคิดได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) สมาคมธนาคารไทย และ สสว. ที่จะช่วยเหลือ และในการประชุมครั้งนี้ จึงมีมติเห็นชอบในหลักการและงบประมาณ 500 ล้านบาทในการดำเนินงาน ซึ่งได้หารือกับสำนักงบประมาณเพื่อใช้เงินงบกลางดำเนินการ

ทั้งนี้ ธสน. และสมาคมธนาคารไทย จะเป็นผู้ดำเนินการหลักในการจัดอบรมเอสเอ็มอีที่ประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เน้นการให้ความรู้ โดยจะจัดสัมมนาทั่วประเทศเรื่องการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ระยะแรกจะมีการมอบคูปอง มูลค่า 3 หมื่นบาทต่อราย ให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 5,000 รายที่เข้าอบรม และเป็นลูกค้าของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อนำไปซื้อ FX Options ขั้นพื้นฐานกับธนาคารที่เข้าร่วมดำเนินงานตามมาตรการภายในระยะเวลาที่กำหนด

โดยคูปองดังกล่าวไม่สามารถซื้อขาย เปลี่ยนมือ แลกเปลี่ยนหรือทอนเป็นเงินสดได้ และสามารถใช้สิทธิ์เมื่อใดก็ได้ ในช่วงเวลาที่กำหนดและใช้ได้จนกว่าจะครบวงเงิน หรือหมดอายุ (เบื้องต้นกำหนดอายุของคูปองไว้สิ้นสุด 30 มิ.ย.2561) ซึ่งในระยะแรกจะเน้นเฉพาะเอสเอ็มอีที่เป็นผู้ส่งออกที่มียอดขายไม่เกิน 400 ล้านบาทต่อปี และเป็นสมาชิกของ สสว. โดยจะพิจารณาคัดเลือกเอสเอ็มอีที่มียอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปีเป็นลำดับแรก และผู้เข้าอบรมจะต้องเป็นเจ้าของกิจการ หรือผู้มีอำนาจตัดสินใจเท่านั้น เพราะได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์การผันผวนของค่าเงินบาท

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการเอ็กซิมแบงก์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งระบบ 3 ล้านราย เป็นเอสเอ็มอีมีศักยภาพส่งออกและนำเข้าสินค้าเพียง 20,000 ราย จึงกำหนดเป้าหมายให้ความรู้กับเอสเอ็มอีระยะแรก 5,000 ราย โดยเน้นช่วยเหลือเอสเอ็มอีรายได้ไม่เกิน 100 ล้านบาทเป็นอันดับแรก

"ยอมรับว่าเอสเอ็มอีรายย่อยไม่ถึง 20% เห็นความสำคัญในการทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่เมื่อเงินบาทแข็งค่าและผันผวนต่อเนื่อง จึงเริ่มเห็นความสำคัญ โดยปัจจุบันเงินบาทไทยแข็งค่าถึง 7.4% สูงสุดเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน ดังนั้น ในการจัดสัมมนาครั้งแรก จะเชิญเอสเอ็มอีรายย่อยนับพันรายมาให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้"นายพิศิษฐ์กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า การสรรหาผอ.สสว. คนใหม่ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเลือกแต่งตั้ง ผอ.สสว.คนใหม่ แทนการต่ออายุให้นางสาลินี โดยมีกระแสข่าวว่ามีแคนดิเดตประมาณ 2-3 คน มีทั้งคนใน สสว. และคนนอกที่เป็นมืออาชีพ เช่น นายชัยพร ชยานุรักษ์ รอง ผอ.สสว. และที่ปรึกษานายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์

"ตอนนี้อยู่ระหว่างเลือกทั้ง 2 แนวทาง กำลังชั่งน้ำหนักกันอยู่ว่าจะเลือกแบบใด ระหว่างต่ออายุให้นางสาลินีอีกรอบ ก็ต้องให้นายกฯ ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แต่งตั้ง ลักษณะเดียวกับครั้งที่ผ่านมา เพราะอายุเกิน 60 ปี หรือจะเลือกคนใหม่ ตอนนี้ก็แคนดิเดตประมาณ 2-3 คน สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับบอร์ด สสว.จะเลือกใครเป็น ผอ.สสว."รายงานข่าวระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น