xs
xsm
sm
md
lg

ฎีกายกคำร้อง13แกนนำพธม. ชดใช้522ล้านคดียึดสนามบิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศาลฎีกายกคำร้อง 13 แกนนำ พธม. ขยายฎีกาคดีแพ่งชดใช้ ทอท.ปิดสนามบิน 522 ล้าน ส่งผลให้คดีจบตามอุทธรณ์ รอบังคับคดีชดใช้ เฉลี่ยตกหัวละละ 40 ล้านเศษ

วานนี้ (21 ก.ย.) ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ศาลอ่านคำสั่งศาลฎีกา คดี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล และพวกรวม 13 คน ซึ่งเป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกา ในคดีที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายพิภพ ธงไชย, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายอมร อมรรัตนานนท์, นายนรัญยู หรือ ศรัณยู วงษ์กระจ่าง, นายสำราญ รอดเพชร , นายศิริชัย ไม้งาม, นางมาลีรัตน์ แก้วก่า และนายเทิดภูมิ ใจดี แกนนำ พธม. ทั้ง 13 คน ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ในคดีหมายเลขดำที่ 6453/2551 เป็นเงิน 522,160,947.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 3 ธ.ค.51 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ จากกรณีระหว่างวันที่ 24 พ.ย. - 3 ธ.ค.51 พวกจำเลย ร่วมกันนำผู้ชุมนุมหลายหมื่นคน บุกเข้ายึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง เพื่อประท้วงรัฐบาลและขับไล่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ขณะนั้น ทำให้การให้บริการต่างๆ ภายในท่าอากาศยานทั้งสองต้องหยุดลงสร้างความเสียหายจำนวนมาก

โดยคดีนี้หลังจากมีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อเดือน มิ.ย.58 ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ 13 แกนนำ พธม.ร่วมกันชดใช้เงินกว่า 522 ล้านบาทแล้ว ต่อมา ทอท.โจทก์ ได้ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีถึงที่สุดตามคำพิพากษานั้น เนื่องจากจำเลยไม่ได้ยื่นฎีกาตามกฎหมาย ต่อมา 13 แกนนำ พธม.ได้ยื่นคำขออนุญาตขยายฎีกาโดยอ้างเหตุสุดวิสัยการปิดหมายแจ้งคดี ตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ต่อศาลแพ่ง ที่เป็นศาลชั้นต้นปรากฏว่า ศาลแพ่งยกคำร้อง ซึ่งศาลอุทธรณ์ก็มีคำสั่งเมื่อวันที่ 11 พ.ค.59 เช่นเดียวกันเห็นว่า ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีร่วมกันปิดสนามบินโดยชอบแล้ว ในปี 2559 ทนายความผู้รับมอบอำนาจของ 13 แกนนำ พธม.จึงได้ยื่นฎีกาเกี่ยวกับคำขอขยายเวลาฎีกานี้ ต่อศาลฎีกาอีก

กระทั่งเวลา 14.45 น. วันนี้ ศาลจึงได้อ่านคำสั่งศาลฎีกาที่พิจารณาแล้วเห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิจารณายกคำร้องของจำเลยมานั้นชอบแล้วตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น ให้ยกคำร้องจำเลย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อศาลฎีกายกคำร้องขอขยายเวลาฎีกาของจำเลยแล้ว ผลแห่งคดีแพ่งนี้จึงถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ 13 แกนนำ พธม. ต้องร่วมกันชดใช้เงิน 522,160,947.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ซึ่งตกคนละประมาณ 40,166,226 บาทเศษ

ภายหลังฟังคำพิพากษา นายสมเกียรติ์ แกนนำ พธม. จำเลยที่ 7 เปิดเผยว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดอยู่แล้ว เราทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ ไม่ต้องการผลประโยชน์ส่วนตัวอยู่แล้ว และไม่ใช่ว่ากลัวการล้มละลาย

“อยากจะเรียนว่าคดีนี้ พวกเราไม่ได้เคลื่อนไหวเพื่อประโยชน์ส่วนตัว แต่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ผมยินดีรับคำพิพากษาทุกประการแล้วไม่หนีศาล ศาลจะทำอย่างไรหรือบังคับคดี ก็ยินดี เพียงอยากจะบอกพี่น้องประชาชนว่า เราได้ต่อสู้อย่างเต็มที่แล้ว เสียดายนิดเดียว เราเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่เราไม่ได้ต่อสู้คดีในชั้นของศาลฎีกา" นายสมเกียรติ ระบุ.
กำลังโหลดความคิดเห็น