xs
xsm
sm
md
lg

เมืองนอกเรื่องมาก..เมืองไทยเรื่องเยอะ!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สอดแนมการเมือง”
“โดย ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

อืม..โลกใบนี้มีเรื่องเยอะแยะ ที่เป็นไปดังคาด และที่คาดไม่ถึง ฯลฯ

เมืองนอก มีทั้ง “เรื่องมาก-มากเรื่อง” เพราะมี “อินทรี-หมี-มังกร” ที่ต่อสู้กันอุตลุดมาโดยตลอด แบบเอาเป็นเอาตาย ทั้งกลเกมการเมือง-เศรษฐกิจ-การทหาร ฯลฯ

ยามนี้..ชาวโลกกำลังจับจ้องไปที่คาบสมุทรเกาหลีเป็นหลัก โดยเฉพาะจับตาผู้นำเกาหลีเหนือ “คิม จองอึน” ที่ถูกมองเป็น “เด็กดื้อแดนกิมจิเหนือ” เป็นภัยร้ายแรงต่อ “สันติภาพโลก”

ทั้งนี้ มิใช่ด้วย “ท่านผู้นำคิมวัยละอ่อน” มี “ทรงผมทรมานตา”ผู้นำโลกคนอื่นๆ แต่เพราะ “ผู้นำคิม” กับกองทัพเกาหลีเหนือ มีและพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ไม่หยุดหย่อน แถมขยันขันแข็งกับการทดลองยิงอาวุธมหาประลัยอีกด้วย

ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือ “เด็กดื้อคิมแห่งแดนกิมจิเหนือ” ดันทะลึ่งไม่เกรงกลัวบรรดาชาติมหาอำนาจหน้าไหนทั้งสิ้น โดยเฉพาะ“พญาอินทรี” ที่อ้างตัวเป็น “ตำรวจโลก” คอยพิทักษ์ปกป้องชาติอื่นๆ ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้ว “พญาอินทรี” มิได้เป็นทั้ง “ตำรวจโลก” หรือเป็น “นักบุญ” แม้แต่น้อย หากแต่เป็น “อภิซาตาน” ที่เที่ยวไล่ล่าสูบกินชีวิต-เลือดเนื้อ-ทรัพยากร-ผลประโยชน์สารพัดอย่างป่าเถื่อน จากชาติที่อ่อนแอกว่า

เมื่อ “ผู้นำคิม” กับกองทัพของเขา ไม่กลัวและไม่ยอมสยบต่อ “ชาติมะกัน” ซึ่งมอง “ผู้นำคิม” เป็นผู้ทำลาย“สันติภาพโลก” “ชาติมะกัน” จึงเป็นหัวหอก ที่ห้ามไม่ให้ “ผู้นำคิม” ทดสอบการยิงขีปนาวุธฯ

แต่ดูเหมือน “ผู้นำคิม” จะไม่แยแสเสียงต่อต้าน ของบรรดามหาอำนาจโลก แถมยัง “สวนหมัดตรง” กลับไปยัง “อินทรีทรัมป์” ว่า ถ้าขืนบินมาจุ้นกับเกาหลีเหนือ ระวัง “ผู้นำคิม”กับกองทัพแดนกิมจิเหนือ จะตอบโต้อย่างรุนแรง จน “เสียนกอินทรี” เลยนะว้อย!

งานนี้จึงเข้าสูตรพร้อมรบกันแล้ว เพราะ “เอ็ง” มีขีปนาวุธฯมหากาฬ “ข้า” ก็มีขีปนาวุธฯมหาประลัย ดังนั้น เอ็ง-ยิง-ข้าได้ ข้า-ก็ยิง-เอ็งได้นะโว้ย! เหลือแค่ “ใคร” จะยิง “ใคร” ก่อนเท่านั้น! ส่วน “ใครจะแพ้-ใครจะชนะ” นั้น-อย่าเพิ่งฟันธง!!!

เมื่อเป็น “หมูไม่กลัวน้ำร้อน“ผู้นำคิม” จึงยังคงสั่งให้ยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ ฉวัดเฉวียนไปมา ไม่เพียงเฉพาะในคาบสมุทรเกาหลีเท่านั้น แต่ยังยิงขีปนาวุธฯข้ามหัวประเทศญี่ปุ่นเฉยเลย แถมในวันชาติเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2560 “คิมน้อยแดนกิมจิเหนือ”ยั งสั่งยิงขีปนาวุธฯข้ามทวีป เล่นเอาชาวโลกขนหัวลุกกันไปหมด

“อินทรีทรัมป์” โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนผมเสียทรง กับการที่ “คิมจองอึน” บังอาจส่งขีปนาวุธฯ บินข้ามทวีปมาเขย่าขวัญใกล้ดินแดนมะกันแบบนี้ “ท่านผู้นำทรัมป์” จึงขู่ฟ่อๆว่ า “ท่านผู้นำคิม” จะต้องได้รับบทเรียนอย่างสาสม..

“อินทรีทรัมป์” เริ่มใช้ “สหประชาชาติ” แซงก์ชั่นเกาหลีเหนือในหลายด้าน เพื่อบีบบังคับให้ “ผู้นำคิม” ยุติการพัฒนา และการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ให้ได้

ทว่า “หมีขาวปูติน” กลับเชื่อว่า การแซงก์ชั่น “คิมแห่งกิมจิเหนือ”ในหลายด้าน โดยเฉพาะทำให้เกิดการขาดแคลนอาหารนั้น คงไม่ทำให้เกาหลีเหนือละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์ได้แน่นอน

“ปูติน” ยังระบุว่า..มีโอกาสสูงมาก ที่จะเกิดสงครามใหญ่ในบริเวณคาบสมุทรเกาหลี..!

อย่างไรก็ตาม งานนี้..“จีน” และ “รัสเซีย” คงไม่มีวันยอม ให้“อินทรีสยายปีก” เข้ามายึดครองเกาหลีเหนือไปไว้ในกำมือ แล้วนำไปผนวกกับเกาหลีใต้ ให้อยู่ภายใต้อิทธิพลของ “ชาติมะกัน” แน่นอน โดยเฉพาะ “จีน” ที่เป็นอดีตมหามิตรเก่าแก่ ซึ่งสนิทชิดเชื้อกับเกาหลีเหนือมาอย่างยาวนาน

เพราะหาก “อินทรี” สยายปีกมาครองเกาหลีเหนือได้ ย่อมเป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างร้ายแรง ทั้งต่อ “จีน” และ “รัสเซีย” ทันที

แต่ปัญหาตอนนี้ คือ “จีน” กับ “คิมน้อย” เกิดแตกคอกัน ด้วยหน่วยงานความมั่นคงของ “ผู้นำคิม” ดันไปสืบทราบมาว่า “รัฐบาลจีน” แอบหนุนหลัง “อาเขย”ข อง “คิม”ใ ห้เปลี่ยนตัว “ผู้นำแดนกิมจิเหนือ”

โดย “งานลับๆ ล่อๆ ” ที่อ้าง “จีน” อยู่เบื้องหลังนี้ มี “อาเขย-ชางซองแต๊ก” วางแผนโค่น “หลานคิมจองอึน” เพื่อให้ “พี่ชายคิม-นายคิมจองนัม” ขึ้นเป็นผู้นำแดนกิมจิเหนือแทน

แต่แผนนี้แตกดังโพละและถูกทำลายลง โดย “ผู้นำคิม”ได้ลงมือสังหารหมู่ “อาเขยคนนั้น” กับ “ครอบครัว” ไปเรียบร้อย และ “ผู้นำคิม” ยังส่ง “สายลับมืออาชีพ” ออกตามล่าข้ามขอบฟ้าราวหนัง“ เจมส์บอนด์ 007” จนสังหาร “พี่ชายผู้นำคิม” ได้กลางสนามบินประเทศมาเลเซียกันเลยล่ะ

งานนี้..“กูรูสายลับข้ามชาติ”สรุปว่า แม้ “จีน” กับ “รัสเซีย” จะมีเรื่องกินแหนงแคลงใจกับ “ผู้นำคิม” อยู่ก็ตาม แต่ “อินทรีมะกัน” จะทำอะไรกับเกาหลีเหนือ ชนิดตามใจ “ทรัมป์” โดยไม่เกรงอกเกรงใจ “จีน” กับ “รัสเซีย” คงไม่ได้แน่นอน

ยกเว้น..ต่างฝ่ายต่างรู้กัน-ขยิบตาให้กัน-สมคบกัน ฯลฯ เพื่อไปสู่เป้าหมายที่ตรงกันโดยปริยาย นั่นคือ เปิดยุทธการเพื่อเปลี่ยนตัว “ผู้นำคิม” คนนี้ ที่ถูกถือเป็น “ผู้นำอันตราย” ของโลก โดยเฉพาะเป็นภัยต่อ “พญาอินทรีมะกัน” และมหาอำนาจอื่นๆ

ดินแดนกิมจิเหนือ-จึงกำลังตกอยู่ในสภาพ อาจเกิดภัยสงครามและการเปลี่ยนตัว “ผู้นำชาติคนใหม่” ได้ทุกเมื่อ..!!!

หันกลับมามองเมืองไทยเรื่องเยอะดีกว่า เพราะหลายเรื่องที่เกิดขึ้นในห้วงใกล้ๆนี้ ได้ทำให้เรดติ้งของ “นายกฯ ตู่” ตกทะรูดทะราดเรี่ยดินไปเลย

เรื่องอดีตนายกฯ “ปูจ๋า” เผ่นหนีไปได้อย่างง่ายดายชนิดเหลือเชื่อ ก่อนวันศาลพิพากษาคดี “จำนำข้าว” สองวัน ทั้งๆที่อำนาจรัฐเผด็จการทหาร “บิ๊กตู่” เต็มไปด้วยเครือข่ายความมั่นคง มากมายยิ่งกว่า “ตาสับปะรด” เช่นนี้..

ทำให้ผู้คนทั้งหลายอดคิดไม่ได้ว่า “ผู้มีอำนาจบางคน” เปิด“ไฟเขียว” ให้ “ปูจ๋า” หนีรึเปล่า? หนีไปทางรถ-ทางเรือ-ทางเครื่องบิน หรือทางไหนไม่สำคัญ..เท่ากับปล่อยให้ “ปูจ๋า” หนีไปทำไม? “ปูจ๋า”หนีไปใครได้ประโยชน์?

อ้อ..แล้วชาติและประชาชนได้ประโยชน์หรือเปล่า? ได้มากหรือได้น้อย ได้ระยะสั้นหรือได้ระยะยาว ได้คุ้มเสียหรือได้ไม่คุ้มเสีย ฯลฯ แต่ที่แน่ๆ..นิติธรรมและนิติรัฐเสียหายยับเยินไปแล้ว..จริงไหม?

เรื่องการปราบคอร์รัปชั่นในวงการสงฆ์ ซึ่งทำให้วงการสงฆ์เสื่อมความน่าเชื่อถือ เพราะพระสงฆ์ที่ต้องเคร่งครัดในพระธรรมวินัย 227 ข้อ หากพระสงฆ์รูปใดปฏิบัติไม่ได้ ย่อมมิใช่พระสงฆ์ที่แท้จริงในพุทธศาสนา ส่วนพระสงฆ์ส่วนใหญ่ที่เดินตามรอยองค์พระศาสดา เคร่งในวัตรปฏิบัติมิได้ขาด ย่อมเป็นพระสงฆ์ที่ดี และเป็นที่เคารพของพุทธศาสนิกชนอยู่แล้ว

ดังนั้น การคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่ในสำนักพุทธ และพระสงฆ์ใหญ่น้อย จึงเป็นเรื่องที่ผิดทั้งต่อธรรมวินัย-คุณธรรม-ศีลธรรม-จริยธรรม ฯลฯ ชนิดที่ให้อภัยไม่ได้ และต้องถูกลงโทษ ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน เด็ดขาด จริงจัง ฯลฯ

แต่ไฉนใย “บิ๊กตู่” กลับย้าย “พ.ต.อ.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์” ผ.อ.สำนักพุทธ ที่มีผลงานโดดเด่นในการปราบคอร์รัปชั่น ทั้งคนในสำนักพุทธและพระสงฆ์ใหญ่น้อย ที่ฉ้อฉลทั้งเงินหลวงและเงินวัด โดยให้ “มือปราบเงินทอนวัด”ไปเป็นผู้ตรวจฯ ประจำสำนักนายกฯ ดูแลงานภาคใต้ 5 จังหวัดโน่นเลย

ย้อนไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน “บิ๊กตู่” เพิ่งใช้ “ม.44” ตั้ง “คนดี” เข้ามาทำงาน แล้ว “คนดี” ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังแม้แต่น้อย มีผลงานเข้าตาประชาชนเป็นที่กล่าวขวัญชื่นชมไปทั่ว

ยามนี้ “บิ๊กตู่” ดันใช้กฎหมายปกติเซ็นคำสั่งตั้ง ผ.อ.สำนักพุทธ คนใหม่ ที่ทำงานในสไตล์ประนีประนอม เด้ง ผ.อ.คนเก่า “มือปราบเงินทอนวัด” ที่กำลังเร่งปราบพวกคอร์รัปชั่นในวงการสงฆ์อยู่ดีๆ ทำเอาผู้คนที่เฝ้าตามเชียร์ท่าน ผ.อ. อึ้งและอารมณ์ค้างกันไปหมด..

นั่นยังไม่รวม “คำถามเก่า” ที่ว่า ทำไม “อลัชชีไชโย” จึงหิ้วขาดำ เผ่นหนีการปิดล้อม และการตรวจค้นของตำรวจไทย หายเข้ากลีบเมฆไปอย่างง่ายดายเช่นกัน?

ศาสนาพุทธในชาติไทยในยามนี้ ภายใต้อำนาจรัฐเผด็จการของ “บิ๊กตู่” ยังคงเต็มไปด้วย “อลัชชี-พระปลอม” ที่ใช้คำสอนผิดๆหลอกลวงพุทธศาสนิกชน อีกทั้งใช้คราบพระโกงเงินงบประมาณแผ่นดิน และต้มตุ๋นเงินทองของผู้คนอย่างโจ๋งครึ่ม

ทั้งนี้ก็เพราะ “รัฐบาลบิ๊กตู่” ไม่ปราบการคอร์รัปชั่นกลุ่มคนชั่ว ที่เกี่ยวข้องกับวงการสงฆ์ อย่างเด็ด
ขาด-จริงจัง-จริงใจนั่นเอง

เฮ้อ..เมืองไทยมีเรื่องสำคัญมากมาย ที่“บิ๊กตู่”ยังไม่ได้แก้ไขอย่างจริงจัง..จริงไหมล่ะ..?


กำลังโหลดความคิดเห็น