ผู้ประกอบการฟาร์มหมูทั่วเชียงใหม่-ลำพูนรวมตัวชูป้ายต้านนำเข้าหมูจากสหรัฐฯ ชี้ส่งผลกระทบยาวเป็นหางว่าว ทั้งคนปลูกข้าวโพด คนผลิตอาหารสัตว์ ยาเวชภัณฑ์ แถมหมูอเมริกาใช้สารเร่งเนื้อแดงชัด
วานนี้ (13 ก.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงค์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ นำผู้ประกอบการและตัวแทนผู้เลี้ยงสุกรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน ประมาณ 100 คน เข้ายื่นหนังสือถึงรัฐบาลผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐอเมริกา หลังจากทราบข้อมูลว่าทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกา พยายามสร้างความกดดันต่อรัฐบาลไทยในเรื่องดังกล่าว ทั้งที่ปริมาณการผลิตเนื้อหมูในประเทศไทยยังคงล้นตลาด โดยเบื้องต้นนางนิตยา หมื่นอนันต์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เป็นตัวแทนรับหนังสือเรียกร้องดังกล่าวและเจรจาร่วมกับตัวแทนกลุ่มผู้เลี้ยงสุกร
นายสุนทราภรณ์ เปิดเผยว่า ข้อเรียกร้องแต่เพียงอย่างเดียวของทางกลุ่มผู้เลี้ยงสุกร คือคัดค้านการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ เนื่องจากปัจจุบันปริมาณการผลิตเนื้อหมูในประเทศไทยล้นตลาดอยู่แล้ว หากปล่อยให้มีการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐอเมริกาอีก จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมและทำลาย
โครงสร้างระบบการผลิตและการตลาดเนื้อหมูของไทย จากปัจจุบันนี้ประสบปัญหาราคาตกต่ำอย่างหนักอยู่แล้ว โดยมีต้นทุนการผลิตเนื้อหมูอยู่ที่กิโลกรัมละ 55-56 บาท แต่มีราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 57-58 บาท ได้กำไรเพียงกิโลกรัมละ 1-2 บาท เท่านั้น
นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ กล่าวว่า การนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐอเมริกา ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงสุกรเท่านั้น ยังจะส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ของไทยอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อมูลด้วยว่าหากมีการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐอเมริกา เนื้อหมูหรือชิ้นส่วนที่มีการนำเข้านั้น จะเป็นชิ้นส่วนของหมูที่ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาไม่รับประทาน เช่น เครื่องใน,หนัง,เท้า เป็นต้น รวมทั้งอย่างที่ทราบกันดีว่าการผลิตเนื้อหมูในสหรัฐอเมริกามีการใช้สารเร่งเนื้อแดงอย่างมากด้วย ดังนั้นผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ จึงขอยืนยันคัดค้านการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐอเมริกาให้ถึงที่สุด
ด้านนางนิตยา หมื่นอนันต์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เบื้องต้นรับฟังข้อเรียกร้อง รวมทั้งข้อเสนอแนะที่เป็นความคิดเห็น และข้อห่วงใยของกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือไว้ เพื่อนำเสนอให้หน่วยงานเกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป ซึ่งทราบว่าข้อเรียกร้องดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากความเป็นห่วงกังวลเนื่องจากได้รับทราบข้อมูลว่าจะมีการนำเข้าเนื้อหมูจากประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามจากข้อมูลเบื้องต้นทราบยังไม่ได้มีการตกลงในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
วานนี้ (13 ก.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงค์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ นำผู้ประกอบการและตัวแทนผู้เลี้ยงสุกรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน ประมาณ 100 คน เข้ายื่นหนังสือถึงรัฐบาลผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐอเมริกา หลังจากทราบข้อมูลว่าทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกา พยายามสร้างความกดดันต่อรัฐบาลไทยในเรื่องดังกล่าว ทั้งที่ปริมาณการผลิตเนื้อหมูในประเทศไทยยังคงล้นตลาด โดยเบื้องต้นนางนิตยา หมื่นอนันต์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เป็นตัวแทนรับหนังสือเรียกร้องดังกล่าวและเจรจาร่วมกับตัวแทนกลุ่มผู้เลี้ยงสุกร
นายสุนทราภรณ์ เปิดเผยว่า ข้อเรียกร้องแต่เพียงอย่างเดียวของทางกลุ่มผู้เลี้ยงสุกร คือคัดค้านการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ เนื่องจากปัจจุบันปริมาณการผลิตเนื้อหมูในประเทศไทยล้นตลาดอยู่แล้ว หากปล่อยให้มีการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐอเมริกาอีก จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมและทำลาย
โครงสร้างระบบการผลิตและการตลาดเนื้อหมูของไทย จากปัจจุบันนี้ประสบปัญหาราคาตกต่ำอย่างหนักอยู่แล้ว โดยมีต้นทุนการผลิตเนื้อหมูอยู่ที่กิโลกรัมละ 55-56 บาท แต่มีราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 57-58 บาท ได้กำไรเพียงกิโลกรัมละ 1-2 บาท เท่านั้น
นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ กล่าวว่า การนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐอเมริกา ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงสุกรเท่านั้น ยังจะส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ของไทยอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อมูลด้วยว่าหากมีการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐอเมริกา เนื้อหมูหรือชิ้นส่วนที่มีการนำเข้านั้น จะเป็นชิ้นส่วนของหมูที่ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาไม่รับประทาน เช่น เครื่องใน,หนัง,เท้า เป็นต้น รวมทั้งอย่างที่ทราบกันดีว่าการผลิตเนื้อหมูในสหรัฐอเมริกามีการใช้สารเร่งเนื้อแดงอย่างมากด้วย ดังนั้นผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ จึงขอยืนยันคัดค้านการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐอเมริกาให้ถึงที่สุด
ด้านนางนิตยา หมื่นอนันต์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เบื้องต้นรับฟังข้อเรียกร้อง รวมทั้งข้อเสนอแนะที่เป็นความคิดเห็น และข้อห่วงใยของกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือไว้ เพื่อนำเสนอให้หน่วยงานเกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป ซึ่งทราบว่าข้อเรียกร้องดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากความเป็นห่วงกังวลเนื่องจากได้รับทราบข้อมูลว่าจะมีการนำเข้าเนื้อหมูจากประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามจากข้อมูลเบื้องต้นทราบยังไม่ได้มีการตกลงในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด