อเมริกา...กับพายุอารมณ์!!!

ณ ชั่วโมงนี้ นาทีนี้...บรรดาอเมริกันชนทั้งหลาย ไม่น่าจะมีใครสนใจเรื่อง “คิมน้อย” กันต่อไปอีกแล้ว เพราะต่างหันไปหูแหก ตาแหก กับเรื่อง “พายุเออร์มา” กันแทนที่ ด้วยเหตุเพราะสื่อกระแสหลัก อย่างโทรทัศน์ CNN เค้าช่างปลุก ช่างเร้า สร้างความน่าหวาดหวั่นขวัญสยอง น่าขนลุกขนพองซะเหลือเกิน เรียกว่า...ตั้งกล้องถ่ายทอดสดตั้งแต่พายุยังไม่เข้า ออกข่าว “Breaking News” แบบนาทีต่อนาที ชนิดตลอด 24 ชั่วโมงเอาเลยก็ว่าได้...

เล่นเอาฟลอริดาทั้งรัฐ...แทบเต็มไปด้วย “เมืองร้าง” เพราะผู้คนอพยพหลบหนีทิ้งบ้าน ทิ้งเมือง ไปก่อนหน้านั้นแล้ว เหลือแต่ถนนหนทาง ให้ผู้สื่อข่าว CNN ตั้งกล้องถ่ายทอดสด แสดงสีหน้า สีตา สุดประหวั่นพรั่นพรึง ตื่นเต้น ตื่นตระหนก ออกอาการ “ดราม่า” แบบสุดๆ ไม่ต่างไปจากผู้สื่อข่าวบ้านเราช่วงหลังๆ มากมายซักเท่าไหร่ คือแม้ว่าพายุเออร์มานั้นอาจเป็นอะไรที่น่าเกลียด น่ากลัว พอสมควร แต่คงไม่ถึงกับต้องใส่อารมณ์ ใส่ความรู้สึก แบบกะจะฉุดกระชากลากเส้นผมของผู้คนให้ต้อง “ขนหัวลุก” ให้จงได้ อะไรทำนองนั้น...

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าพายุเออร์มาจะขึ้นฝั่งไมอามี ฟลอริดาบรรดาประเทศหมู่เกาะต่างๆ แถวๆ แคริเบียน ไม่ว่าเวอร์จิ้น ไอส์แลนด์ แอนติกา เปอร์โตริโก ไปจนถึงคิวบา ฯลฯ ต่างต้องเผชิญหน้ากับพายุลูกนี้มาแล้วด้วยกันทั้งนั้น แถมยังเป็นพายุระดับ 5 หนักกว่าช่วงที่ขึ้นฝั่งอเมริกาไปอีก 1 ระดับ แต่ CNN เขาก็ไม่เคยคิดจะไปตั้งกล้องถ่ายทอดสดเอาเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้บรรดาชาวเกาะที่ไม่ใช่อเมริกันชน ผจญเวร ผจญกรรม หนักบ้าง เบาบ้าง ไปตามสภาพ แถมการตั้งกล้องถ่ายทอดสดในขณะที่เมืองแต่ละเมือง ได้กลายเป็นเมืองร้าง เมืองผีสิง ไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้วนั้นคงได้แต่เอามันซ์ซ์ซ์ เอาตื่นเต้นไปตามเรื่อง ตามราว แต่อะไรที่ควรรู้ กลับไม่มีโอกาสได้รู้ อะไรที่ควรเห็น กลับไม่มีโอกาสได้เห็น เอาซะนี่!!!

เช่น สิ่งที่ผู้คนบางกลุ่ม บางราย เขาตั้งข้อสงสัยอยู่ไม่น้อย ว่าอภิมหาพายุที่ใหญ่ที่สุดในมหาสมุทรแอตแลนติกลูกนี้ จะสามารถส่งผลกระทบต่อโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ของบริษัท “Florida Power and Light (FPl)” ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งด้านใต้ไมอามี เหมือนอย่างที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่นเคยเจอมาก่อนหรือไม่ หรือการที่อเมริกันชนจำนวนไม่น้อย น่าจะกระหายใคร่รู้เอามากๆ ว่า รีสอร์ตอันสุดแสนหะรูหะรา ที่เรียกๆกันว่า “Mar-a-Lago” ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ซึ่งถือเป็น “คู่กัด” กับ CNN แท้ๆ อันมีสถานที่ตั้งอยู่แถวๆ ปาล์ม บีช และถูกแปรสภาพให้กลายเป็น “ทำเนียบขาวภาคใต้” ไปแล้วนั้น จะฉิบหายวายวอดไปด้วยหรือไม่ ถ้าหากผู้สื่อข่าว CNN ยังพอมีไหวพริบ ปฏิภาณ ตามสมควร หาโอกาสไปตั้งกล้องจับภาพขณะที่หลังคาโรงแรม รีสอร์ต สปา ฯ ภายในสถานที่แห่งนี้ ถูกพายุเออร์มาฉุดกระชากลากออกไปเป็นยวงๆ บรรดาผู้ที่ “เกลียดทรัมป์” ทั้งหลาย ซึ่งน่าจะมีไม่น้อยกว่าครึ่งประเทศ อาจพอได้ออกัสซั่มพลั่กๆๆ กันได้มั่ง...

แต่ก็นั่นแหละ...ในเมื่อผู้สื่อข่าวสำนักข่าวกระแสหลักอย่าง CNN ออกจะไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวซักเท่าไหร่ ยิ่งโดยเฉพาะช่วงหลังๆ คือหนักไปทางเอา “ดราม่า” เข้าว่า ไม่ค่อยได้สนใจว่าอะไรถูก-อะไรผิด อะไรดี-อะไรชั่ว อะไรจริง-อะไรปลอม ข่าวที่ว่าเป็น “ข่าวจริง” เลยอาจกลายเป็น “ข่าวปลอม” ส่วนที่คิดว่า “ข่าวปลอม” อาจกลายเป็น “ข่าวจริง” ก็ย่อมได้ ฯลฯ ฯลฯ สิ่งที่กลายเป็นปัญหาของสังคมอเมริกันทุกวันนี้ จึงถูกรวมเอาเรื่องของ “สื่อฯ” นี่แหละเข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง และออกจะเป็นส่วนสำคัญเอามากๆ ซะด้วย ที่ทำให้ทัศนคติ ค่านิยม ตลอดไปจนถึงแนวคิดของชาวอเมริกัน ออกอาการมั่วซั่ว สับสน เคว้งๆ คว้างๆ หนักซะยิ่งกว่าขณะต้องเจอกับพายุเออร์มาไม่รู้กี่เท่า ต่อกี่เท่า...

สำหรับพายุเออร์มานั้น...เท่าที่ได้มีการประเมินเอาไว้ก่อนล่วงหน้า โดยสำนักวิจัยอย่าง “NK Research” เห็นว่า...อาจสร้างมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับอเมริกา ระดับประมาณ 2 แสนล้านดอลลาร์เป็นอย่างน้อย และถ้ารวมกับความเสียหายจากพายุฮาร์วีย์ ที่เพิ่งถล่มรัฐเท็กซัส หลุยเซียนา ไปก่อนหน้านั้น ที่ถูกประเมินเอาไว้ประมาณ 1.8 แสนล้านดอลลาร์ ว่ากันว่า...น่าจะส่งผลให้อัตราการขยายตัวของตัวเลขจีดีพีสหรัฐฯ ในปีนี้ ที่เคยคาดๆ เอาไว้ว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างต่ำ อาจต้องถูกปรับลดลงไปเหลือแค่ประมาณ 2.5 ชนิด ไม่ว่าจะทำกำไรจากการขายอาวุธให้ซาอุฯ นับเป็นแสนๆ ล้าน ขายระบบป้องกันขีปนาวุธให้เกาหลีใต้อีกกี่หมื่น กี่แสนล้าน ตลอดไปจนขายถ่านหินให้กับยูเครนอีกซักกี่ล้านตันก็แล้วแต่ แต่ก็ไม่น่าช่วยให้ “America Great Again” ขึ้นมาได้ง่ายๆ เพราะสิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับประเทศอเมริกา หรือสังคมอเมริกันช่วงนี้ คงไม่ใช่แค่เรื่องเงินๆ-ทองๆ แต่เพียงเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของทัศนคติ ค่านิยม แนวคิดของชาวอเมริกัน ที่เต็มไปด้วยความอลหม่านชุลมุน ชุลเก เต็มไปด้วย “พายุอารมณ์” ที่พุ่งขึ้นไประดับ 5 หรือระดับ 10 ไปแล้วก็ไม่รู้ โดยมีบรรดา “สื่อฯ กระแสหลัก” นี่แหละเป็นส่วนหนึ่ง และส่วนสำคัญ ที่ทำให้พายุชนิดนี้พัดจัด พัดแรง แถมพัดไม่หยุด จนตราบเท่าทุกวันนี้...