xs
xsm
sm
md
lg

ระเบียบโลกใหม่!!!

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท


ขนาดยังไม่ทันได้เจอกับ “ฮวาซอง 12” ของ “คิมน้อย” แค่เจอกับ “พายุฮาร์วีย์” และกำลังตามมาติดๆ ด้วย “พายุเออร์มา” เพียงเท่านี้ก็เล่นเอา “หายใจทางเหงือก” กันไปมิใช่น้อย สำหรับคุณพ่ออเมริกาในช่วงนี้ คือถ้าว่ากันตามข้อสรุปของสถาบันวิเคราะห์เศรษฐกิจ “มูดี้ส์” ผลเสียหายทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จากกรณีพายุฮาร์วีย์ที่สาดซัดเข้าใส่แถวๆ รัฐเท็กซัส หลุยเซียนา ฯลฯ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำเอาเงินหาย กำไรหด ไม่น้อยไปกว่า 5.1-7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะรายได้จากแหล่งผลิตน้ำมัน ที่ต้องหยุดดูด หยุดสูบ วันละไม่ต่ำกว่า 4.4 ล้านบาร์เรล...

แต่นี่...ก็ใกล้ๆ เวลาที่พายุลูกใหม่อย่าง “เออร์มา” กำลังเตรียมขึ้นฝั่งแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ กันอีกซะแร้นน์น์น์ ซึ่งว่ากันว่า...โดยฤทธิ์เดชอาจหนักซะยิ่งกว่า “ฮาร์วีย์” หลายต่อหลายเท่า เพราะแค่ระหว่างเคลื่อนผ่านทะเลแคริเบียน แถวๆ หมู่เกาะเวอร์จิน ไอส์แลนด์ แอนติกา เปอร์โตริโก ฯลฯ ถ้าว่ากันตามข้อมูลของศูนย์ “National Hurricane Center” ความเร็วลมที่ศูนย์กลางของ “เออร์มา” เพิ่มจากระดับ 115 ไมล์ต่อชั่วโมง ขึ้นไปถึง 180-185 ไมล์ต่อชั่วโมง จัดเป็นพายุเฮอร์ริเคนระดับ 5 ไปแล้ว ส่งผลให้อาณาบริเวณพื้นที่ที่คาดว่าพายุเคลื่อนผ่านต้องประกาศภาวะฉุกเฉินไปตามๆ กัน ไม่ว่าในแถบหมู่เกาะ ไปจนถึงแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ อย่างรัฐฟลอริดา ที่บรรดาน้ำและอาหารหายเกลี้ยงไปจากซูเปอร์มาร์เก็ตไปแล้วก่อนหน้านี้...

แม้เรื่องของ “ภัยพิบัติทางธรรมชาติ” จะเป็นคนละเรื่องกับ “ภัยพิบัติจากฝีมือมนุษย์” แต่หากนำมาเกี่ยวโยงให้เป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” ก็ไม่ถึงกับขัดแย้ง แปลกแยกไปจากกันซักเท่าไหร่ คือนำไปสู่ข้อสรุปประมาณว่า...โดยสภาวะแวดล้อมของอภิมหาอำนาจสูงสุดแห่งโลก อย่างคุณพ่ออเมริกาทุกวันนี้ ยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ...ที่จะคิดเปิดศึก เปิดฉากสมรภูมิใหม่ๆ กับใครเค้าได้ ไม่แต่เฉพาะต้องหน้าแตก หน้าแหก ในซีเรีย มั่วอยู่ในลิเบีย โซมาเลีย คิดเพิ่มกำลังในอัฟกานิสถานเพื่อปกป้องผลประโยชน์แหล่งแร่ ฯลฯ อะไรประมาณนั้น แค่นี้...ก็เหนื่อยแล้ว!!! นั่นยังไม่รวมถึงต้องรบกับผู้คนภายในประเทศตัวเอง ที่ออกอาการเปรี้ยวเท้ากับผู้นำของตัวเองเสียเหลือเกิน เพียงเท่านี้...ก็พอสรุปได้แล้วว่าโอกาสที่ “ทรัมป์บ้า” จะอาศัย “ทางเลือกทางทหาร” เล่นงาน “คิมน้อย” นั้น น่าจะจัดอยู่ในระดับ 100 บาทเอาอุจจาระสุนัขกองเดียว...

แต่ก็นั่นแหละ...การหันไปใช้ทางเลือกอื่นๆ แม้จะเรียกว่า “การคว่ำบาตรขั้นรุนแรงที่สุด” แต่คงไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาซักกี่มากน้อย เพราะอย่างที่ผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี “ปูติน” ท่านว่าไว้ล่าสุดนั่นแหละ ประมาณว่า...ต่อให้บรรดาชาวเกาหลีเหนือทั้งประเทศต้อง “กินหญ้า” ก็ตาม แต่โอกาสที่จะหยุดยั้งกระบวนการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี ยังไงๆ...ย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ ตราบใดที่ผู้ปกครอง หรือระบบปกครองเกาหลีเหนือ ยังรู้สึกว่าปราศจากความปลอดภัยจากแรงกดดันและการคุกคามโดยฝ่ายตะวันตก...

ด้วยเหตุนี้...กรรมวิธีที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเริ่มเข้าที่ เข้าทาง ลดบรรยากาศความตึงเครียด บรรยากาศการเผชิญหน้าเปลี่ยนบรรยากาศ “สงคราม” ให้กลายเป็นบรรยากาศแห่ง “สันติภาพ” ย่อมหนีไม่พ้นไปจากการหาทางขจัดกวาดล้างความรู้สึกทำนองนี้ลงไปให้จงได้ ซึ่งมีแต่สิ่งเดียวเท่านั้น...ที่จะนำไปสู่สภาวะที่ว่านี้ ก็คือการหันมา “ฟื้นฟูกฎระเบียบ” หรือ “กฎหมายระหว่างประเทศ” ขึ้นมาใหม่ ให้คงความศักดิ์สิทธิ์ ความมั่นอกมั่นใจต่อบรรดาประชาคมโลกทั้งหลาย ว่ายังไงๆ ต้องไม่ออกไปทาง “สองมาตรฐาน” โดยเด็ดขาด!!! ไม่นำไปสู่ “การแทรกแซงกิจการภายใน” ของประเทศหนึ่ง ประเทศใด ไม่เกิดการแสวงหาผลประโยชน์ของแต่ละฝ่ายโดยไม่เป็นธรรม หรือไม่มีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน ฯลฯ ฯลฯ...

และภายใต้การสรรค์สร้างให้เกิดภาวะเช่นนี้ปรากฏขึ้นมาอย่างเป็นจริงเป็นจัง อันที่จริง...ผู้นำจีน อย่างประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ท่านเคยวาดภาพ วาดจินตนาการโดยคร่าวๆ ไว้ให้เห็นมาบ้างแล้ว ในคำพูด คำปราศรัย ระหว่างช่วงครบรอบ 95 ปี แห่งการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมปีที่แล้ว โดยได้ระบุไว้ดังนี้ว่า... “ในอีกประมาณ 10 ปีนับจากนี้ (จากปี ค.ศ. 2016) เราจะได้มีโอกาสเห็นระเบียบโลกอีกแบบหนึ่ง ซึ่งไม่เหมือนอย่างที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ โดยมีกุญแจสำคัญ อันจะทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นจริงขึ้นมา นั่นคือ...ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับรัสเซีย โดยที่สัมพันธภาพระหว่างจีนและรัสเซียนั้น ไม่ได้ถูกจำกัดขอบเขตอยู่แต่เฉพาะการเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่เราได้ร่วมสร้างทางเลือกด้วยการเป็นพันธมิตรทางทหารควบคู่ไปด้วย เพราะเราต่างได้เห็นถึงความก้าวร้าวรุนแรงของมหาอำนาจสูงสุดอย่างอเมริกาที่มีต่อทั้งจีนและรัสเซีย ด้วยเหตุนี้...การหันมาร่วมกันระหว่างจีนและรัสเซีย ย่อมสามารถก่อรูปก่อร่างขึ้นเป็นกลุ่มก้อนอันแข็งแกร่ง แน่นเหนียว ได้ก่อนหน้าที่ NATO จะตกอยู่ในสภาพไม่หลงเหลือกำลังอำนาจใดๆ ต่อไปอีกแล้ว”...

และ “ภายใต้ความร่วมมือเช่นนี้นี่แหละ...ระเบียบโลกที่ไม่ควรถูกตัดสินวินิจฉัยโดยประเทศใด ประเทศหนึ่ง หรือกลุ่มประเทศแค่ไม่กี่รายจะเกิดขึ้น ระเบียบที่ควรมีรูปมาจากคณะกรรมการซึ่งอุบัติขึ้นโดยพื้นฐานข้อตกลงนานาชาติ ที่ประชาชนของทุกประเทศควรได้มีส่วนร่วมในการตัดสินวินิจฉัยว่า ระเบียบระหว่างประเทศและการบริหารจัดการโลกจะสามารถยังประโยชน์ให้กับโลกและประชาชนในทุกประเทศได้อย่างไร โดยที่จีนนั้น...มีความกระตือรือร้นอย่างแรงกล้า ที่จะร่วมกับประชาชนในประเทศต่างๆ สร้างระเบียบโลกชนิดนี้ขึ้นมาใหม่ ด้วยการนำเอาภูมิปัญญาของจีนเข้าไปช่วยปรับปรุงแต่ละสิ่งแต่ละอย่างให้ดีขึ้น ให้เป็นไปในทางที่เป็นธรรม และมีเหตุผลยิ่งขึ้น เราพร้อมจะสนับสนุนให้ประชาชนทุกประเทศ ร่วมแปรเปลี่ยนแรงกดดันจากการเป็นฝ่ายถูกกระทำ ให้เป็นพลังอำนาจที่จะทำให้ความเสี่ยงทั้งหลายกลายเป็นโอกาส การเผชิญหน้าถูกแปรสภาพเป็นความร่วมมือ ขจัดการผูกขาดด้วยการอาศัยข้อตกลงที่จะนำมาซึ่งผลประโยชน์ร่วมกัน (Win-Win Deal) ของทุกฝ่าย จุดมุ่งหมายของนโยบายต่างประเทศจีน จึงวางเอาไว้ที่การพิทักษ์ปกป้องสันติภาพของโลก ส่งเสริมการพัฒนาด้านต่างๆ ขยายผลประโยชน์สาธารณะร่วมกับประเทศอื่นๆ เพื่อสร้างระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศชนิดใหม่ ที่มีความร่วมมือและความเสมอภาคเป็นแกนกลาง...” นี่...จริง-ไม่จริง จริงใจหรือจิงโจ้ คงต้องไปนอนคิดกันเอาเอง แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...ยิ่งคุณพ่ออเมริกา “หมดมุก” ลงไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ “มุกใหม่” ของทั้งจีนและรัสเซีย ยิ่งน่าเป็นไปได้ยิ่งขึ้นเท่านั้น...
กำลังโหลดความคิดเห็น