ผู้จัดการรายวัน360- “บิ๊กตู่” ประทับใจคนโคราชอยากให้เป็นนายกฯตลอดไป กำชับพ่อเมือง 20 จังหวัดอีสานวางแผนด้านการหาที่อยู่อาศัย ที่เรียนและที่ประกอบอาชีพ ลั่นไม่สนใจผลโพลล์ จะปรับคะแนนนิยมเหลือศูนย์เปอร์เซ็นต์ ก็จะอยู่ต่อ มอบของขวัญ 2,600 ล้านบาทสร้างทางรถไฟลอยฟ้าแก้ปัญหารถติดเมืองโคราช พร้อมเทงบ 8.8 พันล้าน แก้ปัญหาน้ำท่วม- ภัยแล้ง
วานนี้ (22 ส.ค.) ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุม ครม. นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) โดยได้โบกมือทักทายสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดีและทำสัญลักษณ์มือ “ไอเลิฟยู” และกล่าวทักทาย “เลิฟยูนะ สวัสดีตอนเช้า สวัสดีนะจ๊ะ” โดยก่อนการประชุมได้เยี่ยมชมงานวิจัยเด่นของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และสินค้าโอทอปพรีเมียม เมืองโคราช โดยมี นายวิจิตร ศรีสอ้าน นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นผู้บรรยาย หลังจากนั้นได้หันมาพูดใส่สื่อมวลชนอย่างประชดประชันว่า “วันนี้มาทำประโยชน์ให้สาธารณะ”
ทั้งนี้ การประชุมครม.ครั้งนี้ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมประชุมด้วยเพื่อเสนอแผนงาน โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต่อไปขอให้ทุกกระทรวงจัดทำแผนงานในลักษณะนี้เป็นรายภาค เพื่อให้เกิดความเจริญเติบโตและยั่งยืนอย่างเข้มแข็งต่อไปในอนาคตในทุกพื้นที่ ทั้งภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมที่จะต้องออกทำให้ชัดเจนซึ่งจำเป็นต้องดูพื้นฐานด้านเส้นทางคมนาคมก่อนว่า ในแต่ละภาค แต่ละจังหวัด โดยเฉพาะถนน จะขยาย หรือจะยกระดับ ก็ต้องดำเนินการ แต่ต้องแยกให้ชัดเจน โดยหน่วยงานภาครัฐต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ เพื่อเตรียมตัวสำหรับวางแผนในอนาคต ทั้งการหาที่อยู่อาศัย ที่เรียนและที่ประกอบอาชีพ ซึ่งบางส่วนไม่สามารถเกิดได้ในเวลาอันสั้น จึงต้องมีการเขียนแผนในระยะยั่งยืน รวมไปถึงการปรับแผนสภาพัฒน์ฯ ทุก 5 ปี พร้อมสร้างความเข้าใจกับประชาชนด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านการก่อสร้างและการบุกรุกเวนคืนตามมา
** โวคนโคราชขอให้เป็นนายกฯ ตลอดไป
หลังการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การประชุมครม.สัญจรครั้งนี้ ตนมีความรู้สึกที่ดีกับชาวอีสาน ขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้มา โดยมีประชาชนยื่นหนังสือให้กำลังใจรัฐบาล พร้อมขอให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีตลอดไป แต่เรื่องนี้ตนไม่รับ เพราะจะเป็นการหาเรื่อง จึงอยากขอบคุณและดีใจที่ได้มา
“ผมไม่ได้ต้องการว่าท่านจะสนับสนุนผม หรือไม่ ผมประทับใจทุกอย่างที่เป็นโคราช ไม่ว่าจะผู้คน อาหารการกิน สถานที่ น้ำใจไมตรี ถือว่านี่คือดินแดนของประเทศไทยที่มีความสุข แม้จะมีรายได้น้อย ผมก็ยิ่งต้องทำให้เขา และแผ่นดินผืนนี้ เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ เพราะบรรพบุรุษไทยตายทับถมไปเท่าไรก็ไม่รู้”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประชุมครม.สัญจรครั้งนี้ ได้มีมติเกี่ยวกับการจัดหาเครื่องมือ เพื่อใช้ในการขุดหาแหล่งน้ำ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีเครื่องมือ เตรียมการจัดเก็บน้ำ นอกจากนี้ยังจัดหาเครื่องมือด้านการเก็บเกี่ยวให้สหกรณ์การเกษตร เนื่องจากรัฐบาลจำเป็นต้องเร่งรัดโครงการประชารัฐ ส่วนการท่องเที่ยวนั้นมีปัญหาด้านความเสื่อมโทรมก็สั่งการให้ปรับปรุง ซ่อมแซม และอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวยังอยู่ห่างไกลกัน เพื่อเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว และได้สั่งการให้ทุกภาคขึ้นทะเบียนแหล่งท่องเที่ยวว่ามีสถานที่ใดเป็นจุดเด่นน่าสนใจบ้างโดยจัดลำดับ 5 แห่งต่อภูมิภาคและเชื่อมโยงกันทั่วประเทศ เพื่อทำการประชาสัมพันธ์ดึงคนเข้ามาเที่ยว
“ผมขอให้ทุกคนติดตามประเด็นความมั่นคงด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นในต่างประเทศ ไม่เช่นนั้นจะมุ่งแต่ความขัดแย้งภายในของเราเอง โดยลืมเฝ้าระวังเหตุการณ์ภายนอก บางประเทศแม้จะมีความเจริญแล้วก็ตาม แต่ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นได้ เราจึงต้องช่วยกันระงับเหตุและความขัดแย้งให้ได้โดยเร็ว อย่าให้มีอะไรเข้ามาแทรกซ้อน แล้วเกิดอันตรายต่อประเทศไทย”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่าสำหรับการพบปะผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดได้กำชับให้รับทราบปัญหาว่า ศักยภาพของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นอย่างไร มีพื้นที่จำนวนเท่าไร มีรายได้อยู่ในเกณฑ์ต่ำมาก รวมถึงปัญหาด้านน้ำท่วม ปัญหาฝนแล้ง ทั้งนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีศักยภาพและความเสี่ยง ดังนั้นการทำงานต้องศึกษายุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป โดยทุกภาคส่วนต้องทำความเข้าใจร่วมกัน
“สำหรับการรับฟังความเห็นจากประชาชน ภาคเอกชน และนักธุรกิจ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ได้เป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมือง แต่กลับพอใจในเสถียรภาพของประเทศที่สามารถทำให้ประกอบธุรกิจ ติดต่อราชการ และหาลู่ทางในการลงทุนได้ ผมพร้อมทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ไม่ต้องเอาผลโพลล์มาให้ผมดู เพราะผมไม่สนใจ และถึงจะได้ความนิยมศูนย์เปอร์เซ็นต์ ผมก็ยังอยู่ ไม่ต้องเขียนให้คะแนนนิยมน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะผมยังจะอยู่ต่อไปตามกฎหมาย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
** อนุมัติงบฯ แก้น้ำท่วม - สร้างทางรถไฟยกระดับ
พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.เห็นชอบให้กำหนดพื้นที่แก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอย่างเป็นระบบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือใน 8 พื้นที่ ครอบคลุม18 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดในลุ่มน้ำเลยตอนล่าง ลุ่มน้ำเลย ห้วยหลวง ลุ่มน้ำแม่น้ำสงคราม ลุ่มน้ำภูน้ำกัด ลุ่มชีตอนบน ลุ่มน้ำชีตอนกลาง ลุ่มน้ำมูลตอนบน และลุ่มน้ำมูลตอนล่าง
นอกจากนี้ ตามการกำหนดพื้นที่บริหารจัดการ 8 พื้นที่ จำนวน 36 โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น 2,104.59 ล้านบาท มีพื้นที่รับประโยชน์จำนวน 72,031 ไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น 6.81 ล้าน ลบ.ม. โดย ครม. เห็นชอบให้ กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย และกรมทรัพยากรน้ำ เสนอโครงการที่มีความพร้อมและเร่งด่วน เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมปี 2560 อีก 348 โครงการ เป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 8,820 ล้านบาท โดยจะมีพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์ 449,700 ไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น107 ล้าน ลบ.ม.
ครม.ยังมีมติอนุมัติงบประมาณ 2.6 พันล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการสร้างทางรถไฟยกระดับ เป็นระยะทาง 5 กม เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการจราจรในตัวเมืองนครราชสีมา ส่วนจังหวัดอื่นที่มีปัญหาการจราจรก็จะพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป
วานนี้ (22 ส.ค.) ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุม ครม. นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) โดยได้โบกมือทักทายสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดีและทำสัญลักษณ์มือ “ไอเลิฟยู” และกล่าวทักทาย “เลิฟยูนะ สวัสดีตอนเช้า สวัสดีนะจ๊ะ” โดยก่อนการประชุมได้เยี่ยมชมงานวิจัยเด่นของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และสินค้าโอทอปพรีเมียม เมืองโคราช โดยมี นายวิจิตร ศรีสอ้าน นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นผู้บรรยาย หลังจากนั้นได้หันมาพูดใส่สื่อมวลชนอย่างประชดประชันว่า “วันนี้มาทำประโยชน์ให้สาธารณะ”
ทั้งนี้ การประชุมครม.ครั้งนี้ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมประชุมด้วยเพื่อเสนอแผนงาน โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต่อไปขอให้ทุกกระทรวงจัดทำแผนงานในลักษณะนี้เป็นรายภาค เพื่อให้เกิดความเจริญเติบโตและยั่งยืนอย่างเข้มแข็งต่อไปในอนาคตในทุกพื้นที่ ทั้งภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมที่จะต้องออกทำให้ชัดเจนซึ่งจำเป็นต้องดูพื้นฐานด้านเส้นทางคมนาคมก่อนว่า ในแต่ละภาค แต่ละจังหวัด โดยเฉพาะถนน จะขยาย หรือจะยกระดับ ก็ต้องดำเนินการ แต่ต้องแยกให้ชัดเจน โดยหน่วยงานภาครัฐต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ เพื่อเตรียมตัวสำหรับวางแผนในอนาคต ทั้งการหาที่อยู่อาศัย ที่เรียนและที่ประกอบอาชีพ ซึ่งบางส่วนไม่สามารถเกิดได้ในเวลาอันสั้น จึงต้องมีการเขียนแผนในระยะยั่งยืน รวมไปถึงการปรับแผนสภาพัฒน์ฯ ทุก 5 ปี พร้อมสร้างความเข้าใจกับประชาชนด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านการก่อสร้างและการบุกรุกเวนคืนตามมา
** โวคนโคราชขอให้เป็นนายกฯ ตลอดไป
หลังการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การประชุมครม.สัญจรครั้งนี้ ตนมีความรู้สึกที่ดีกับชาวอีสาน ขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้มา โดยมีประชาชนยื่นหนังสือให้กำลังใจรัฐบาล พร้อมขอให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีตลอดไป แต่เรื่องนี้ตนไม่รับ เพราะจะเป็นการหาเรื่อง จึงอยากขอบคุณและดีใจที่ได้มา
“ผมไม่ได้ต้องการว่าท่านจะสนับสนุนผม หรือไม่ ผมประทับใจทุกอย่างที่เป็นโคราช ไม่ว่าจะผู้คน อาหารการกิน สถานที่ น้ำใจไมตรี ถือว่านี่คือดินแดนของประเทศไทยที่มีความสุข แม้จะมีรายได้น้อย ผมก็ยิ่งต้องทำให้เขา และแผ่นดินผืนนี้ เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ เพราะบรรพบุรุษไทยตายทับถมไปเท่าไรก็ไม่รู้”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประชุมครม.สัญจรครั้งนี้ ได้มีมติเกี่ยวกับการจัดหาเครื่องมือ เพื่อใช้ในการขุดหาแหล่งน้ำ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีเครื่องมือ เตรียมการจัดเก็บน้ำ นอกจากนี้ยังจัดหาเครื่องมือด้านการเก็บเกี่ยวให้สหกรณ์การเกษตร เนื่องจากรัฐบาลจำเป็นต้องเร่งรัดโครงการประชารัฐ ส่วนการท่องเที่ยวนั้นมีปัญหาด้านความเสื่อมโทรมก็สั่งการให้ปรับปรุง ซ่อมแซม และอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวยังอยู่ห่างไกลกัน เพื่อเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว และได้สั่งการให้ทุกภาคขึ้นทะเบียนแหล่งท่องเที่ยวว่ามีสถานที่ใดเป็นจุดเด่นน่าสนใจบ้างโดยจัดลำดับ 5 แห่งต่อภูมิภาคและเชื่อมโยงกันทั่วประเทศ เพื่อทำการประชาสัมพันธ์ดึงคนเข้ามาเที่ยว
“ผมขอให้ทุกคนติดตามประเด็นความมั่นคงด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นในต่างประเทศ ไม่เช่นนั้นจะมุ่งแต่ความขัดแย้งภายในของเราเอง โดยลืมเฝ้าระวังเหตุการณ์ภายนอก บางประเทศแม้จะมีความเจริญแล้วก็ตาม แต่ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นได้ เราจึงต้องช่วยกันระงับเหตุและความขัดแย้งให้ได้โดยเร็ว อย่าให้มีอะไรเข้ามาแทรกซ้อน แล้วเกิดอันตรายต่อประเทศไทย”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่าสำหรับการพบปะผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดได้กำชับให้รับทราบปัญหาว่า ศักยภาพของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นอย่างไร มีพื้นที่จำนวนเท่าไร มีรายได้อยู่ในเกณฑ์ต่ำมาก รวมถึงปัญหาด้านน้ำท่วม ปัญหาฝนแล้ง ทั้งนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีศักยภาพและความเสี่ยง ดังนั้นการทำงานต้องศึกษายุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป โดยทุกภาคส่วนต้องทำความเข้าใจร่วมกัน
“สำหรับการรับฟังความเห็นจากประชาชน ภาคเอกชน และนักธุรกิจ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่ได้เป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมือง แต่กลับพอใจในเสถียรภาพของประเทศที่สามารถทำให้ประกอบธุรกิจ ติดต่อราชการ และหาลู่ทางในการลงทุนได้ ผมพร้อมทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ไม่ต้องเอาผลโพลล์มาให้ผมดู เพราะผมไม่สนใจ และถึงจะได้ความนิยมศูนย์เปอร์เซ็นต์ ผมก็ยังอยู่ ไม่ต้องเขียนให้คะแนนนิยมน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะผมยังจะอยู่ต่อไปตามกฎหมาย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
** อนุมัติงบฯ แก้น้ำท่วม - สร้างทางรถไฟยกระดับ
พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุม ครม.ว่า ครม.เห็นชอบให้กำหนดพื้นที่แก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอย่างเป็นระบบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือใน 8 พื้นที่ ครอบคลุม18 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดในลุ่มน้ำเลยตอนล่าง ลุ่มน้ำเลย ห้วยหลวง ลุ่มน้ำแม่น้ำสงคราม ลุ่มน้ำภูน้ำกัด ลุ่มชีตอนบน ลุ่มน้ำชีตอนกลาง ลุ่มน้ำมูลตอนบน และลุ่มน้ำมูลตอนล่าง
นอกจากนี้ ตามการกำหนดพื้นที่บริหารจัดการ 8 พื้นที่ จำนวน 36 โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น 2,104.59 ล้านบาท มีพื้นที่รับประโยชน์จำนวน 72,031 ไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น 6.81 ล้าน ลบ.ม. โดย ครม. เห็นชอบให้ กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย และกรมทรัพยากรน้ำ เสนอโครงการที่มีความพร้อมและเร่งด่วน เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมปี 2560 อีก 348 โครงการ เป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 8,820 ล้านบาท โดยจะมีพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์ 449,700 ไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น107 ล้าน ลบ.ม.
ครม.ยังมีมติอนุมัติงบประมาณ 2.6 พันล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการสร้างทางรถไฟยกระดับ เป็นระยะทาง 5 กม เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการจราจรในตัวเมืองนครราชสีมา ส่วนจังหวัดอื่นที่มีปัญหาการจราจรก็จะพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป