xs
xsm
sm
md
lg

ถ้ายังเป็นแบบนี้...ไปต่อลำบาก

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์


มีการสำรวจความคิดเห็นของชาวบ้านโดยสถาบันต่างๆ ต่อผลงานของรัฐบาลคุณท่านหลังจาก 3 ปีในการบริหารบ้านเมืองโดยปราศจากบรรยากาศประชาธิปไตย มีกฎเหล็ก กฎเข้ม กฎหมายมาตราพิเศษ การห้ามชุมนุม พยายามออกกฎหมายคุมสื่อเกือบสำเร็จ

ผลออกมาเป็นอย่างไรด้านตัวเลข ไม่ต้องเอามาแสดงให้ปวดกระดองใจท่านผู้กุมอำนาจรัฐ แต่ความพอใจด้านผลงานโดยทั่วไปยังอยู่เกินระดับ 50 เปอร์เซ็นต์เล็กน้อย การสุ่มตัวอย่างไม่มีจำนวนมาก ถือเป็นแบบมาตรฐานน่าใช้การได้ ใครเชื่อ ไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่

คนรัฐบาลชอบหรือไม่ชอบ ขึ้นอยู่กับว่าได้สังกัดชมรมคนมองโลกสวย หรือเป็นมืออาชีพ ไม่ใช่คนประเภทถูกครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน นักเชลียร์ลิ้นกระดาษทราย น้ำลายน้ำยาขัดมัน ถ้าปรากฏว่าผลงานของรัฐบาลและผู้นำไม่ดีขึ้น แค่นี้ก็เสียหายแล้ว

การอ้างว่าบ้านเมืองมีปัญหาเรื้อรังมานาน พยายามแก้ไขอยู่ ขอให้ทุกคนช่วยเหลือด้วยการสามัคคีปรองดองกัน ลืมความหลังครั้งเก่า บ้านเมืองจะได้เดินหน้าไปได้...หรืออะไรก็สุดจะคิดค้นมากล่าวโอ้โลมปฏิโลมให้ชาวบ้านเชื่อ แต่สิ่งที่ชาวบ้านร้องขอ ก็ไม่ฟัง

ไม่ฟัง ไม่ทำ ก็ไม่ว่า บางครั้งถูกตะคอกใส่ เหมือนเป็นขี้ข้า ทาสในเรือนเบี้ย!

แล้วจะให้ชาวบ้านยอมรับให้นำพาบ้านเมืองไปต่อ ทั้งๆ ที่ฝีมือเป็นอย่างนี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้ว และไม่มีสัญญาณใดๆ ว่าจะมีอะไรดีขึ้น การอ้างว่าปัญหาทั่วโลกเป็นอย่างนี้นั้น พอฟังได้ แต่ยอมรับไม่ได้ เพราะบ้านเขาไม่มีการโกงกินอย่างบ้าเลือดเกือบสิ้นชาติแบบนี้

การโอดครวญนั่นนี่โน่น โทษนั่นโทษนี่ หลังจาก 3 ปี ไม่เคยโทษตัวเอง ชาวบ้านบอกว่ารับได้ยาก ที่ผ่านมามีการอวดอ้างสรรพคุณ ทวงบุญคุณ การเสียสละอย่างนั้นอย่างนี้ เหนื่อยยากเหลือแสนทำนองเรียกร้องความเห็นใจ ชาวบ้านขอร้องให้หยุดเสียสละเถอะ

ไม่มีใครในคณะผู้กุมอำนาจแสดงอาการตอบรับคำขอร้อง ทั้งๆ ที่ชาวบ้านได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าไม่อยากรู้สึกว่าชีวิตนี้เป็นหนี้บุญคุณใครโดยที่ไม่เคยเรียกร้องให้ใครทำโน่นทำนี่ มีแต่อาสาหรือดันทุรังเข้ามาเอง แบบไม่ไล่ไม่เลิก ไล่ก็ไม่เลิก อะไรทำนองนั้น

มีชาวบ้านคณะสุดทนบอกว่า ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป ขอเลือกที่จะเสี่ยงกับผีตัวใหม่ดีกว่า ถ้าผีตัวปัจจุบันไม่มีวี่แววว่าจะมีอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์อะไรทำให้บ้านเมืองดีมากกว่านี้ อย่างน้อยที่สุด ถ้าผีตัวใหม่ไร้ฝีมือหรือทำความเสียหาย ก็ออกมาขับไล่ได้ ไม่ต้องกลัว

แต่มีเสียงเตือนทันที “จะทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะรัฐบาลนี้ได้ออกกฎหมายควบคุมการชุมนุมไว้เข้มมาก ถ้าออกไปเดินต่อต้านขับไล่รัฐบาลชั่วร้าย มีโอกาสบาดเจ็บล้มตายฟรี โดยเจ้าหน้าที่เหี้ยมอำมหิตจะถูกรับรองว่าไม่มี “เจตนาพิเศษ” ทำให้คนเจ็บหรือตาย”

แล้วจะให้ทำอย่างไร ทุกวันนี้ชาวบ้านทุกระดับ ยกเว้นพวกมหาเศรษฐี คนมีเส้นสายได้ประโยชน์จากรัฐบาล ต่างหน้ามืดผะอืดผะอมกับสภาวะบ้านเมืองไร้อนาคต มีแต่ข่าวเจ้าสัวได้กอบโกยประโยชน์จากที่ดินหลวง มาตรการของรัฐ อวยให้ผูกขาดความรวย

วันก่อนกระพ้มได้เปรียบเทียบเปรียบเปรยชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในชาติว่าเป็นอย่างไรในเฟซบุ๊ก ดูแล้วมีคนสนใจพอใช้ขอนำมาขยายความในที่นี้อีกรอบ ขอย้ำว่านี่เป็นความคิดเห็นของกระพ้มคนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว เว้นแต่คนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย

กระพ้มว่าการบริหารงานของคณะผู้กุมอำนาจรัฐปัจจุบันมีความพิสดาร ยิ่งมีความพยายาม รวมทั้งการใช้เงินงบประมาณ เงินกู้ทุ่มมากเท่าไหร่ ผลที่ได้ไม่เป็นไปตามที่หวัง กลับยิ่งออกมาตรงกันข้าม เป็นอภินิหารทางใด หรือมือไม่ถึง ก็ขึ้นอยู่กับมุมมอง

-- อภิมหาเศรษฐีระดับหลายแสนล้านบาท ยิ่งร่ำรวยขึ้น ถ้ารวยช้า ไม่เต็มอัตราเร่ง รัฐบาลมีมาตรการเสริมให้รวยเร็วขึ้น มีกฎหมายพิสดารมาช่วย คงกลัวตกขบวนประเทศไทย 4.0 แต่คงทิ้งคนส่วนใหญ่ไร้โอกาสให้ผจญทุกข์เข็ญตามลำพัง

-- คนระดับชนชั้นกลาง คนไม่เคยจน พอมีพอกิน เริ่มรู้สึกถึงแรงบีบคั้นหนักขึ้น

-- คนรายได้ต่ำกว่าระดับกลาง ยากจนลง รายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม

-- มนุษย์เงินเดือนระดับธรรมดาสงสัยว่าอนาคตจะไปอย่างไร เสี่ยงตกงาน

-- คนชักหน้าไม่ถึงหลัง ใกล้ชักดิ้นชักงอ รับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว

-- คนยากจน ลดระดับเป็นคนยากไร้ เข็ญใจ ทุกข์แสนสาหัส

-- คนยากไร้ ต้องเป็นคนสิ้นไร้ไม้ตอก มีรายได้ไม่พอยังชีพ

-- คนสิ้นไร้ไม้ตอก สิ้นหนทางใกล้ลดระดับเป็นขอทาน

-- คนขอทาน ใกล้เป็นคนล้มละลายชีวิต สิ้นสภาพความเป็นคน

เมื่อแนวโน้มยังเป็นอย่างนี้ ชีวิตคนกลุ่มนี้จะเป็นอย่างนี้ เว้นแต่มีโอกาส จังหวะใหม่สำหรับคนที่มีทางออก ที่เหลือจะอยู่ในสภาวะซึมลึก ส่งผลให้เกิดการพอกพูนของหนี้สินในการกู้ยืมเพื่อประทังชีพ ทุกวันนี้เงินกู้นอกระบบยังเฟื่องฟูแม้เจ้าหน้าที่ได้ปราบปราม

ท่านๆ ทั้งหลายมีหน้าที่ดูแลบ้านเมืองยังคงลอยหน้าลอยตา เล่นลิ้นลีลาโวหาร คุยโม้เรื่องความสามารถ แหกตาชาวบ้าน อ้างเสียสละ ทนเหนื่อยมาก อย่างนั้นอย่างนี้ ตีกินไปแต่ละวัน ไม่รู้สึกถึงหัวอกหัวใจชาวบ้านว่าสุดแสนจะเอียนจนแทบอยากรากแตกรากแตน

ความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการ “งูกินหาง” เช่นเพิ่มการกู้ยืมเงินมาลงทุนในโครงการต่างๆ มีต้นทุนสูงผลตอบแทนต่ำ ประโยชน์ไม่กระจายไปสังคมส่วนใหญ่ เป็นความเพ้อเจ้อ เพ้อฝันว่านโยบายประชารัฐหรือมาตรการอื่นๆ จะทำให้เศรษฐีช่วยอุ้มคนจน

ถ้ารัฐบาลจะอยู่ต่อโดยมีอำนาจพิเศษค้ำฐาน ก็คงได้ แต่จะให้ประชาชนมีความหวัง เคารพ ศรัทธา ยอมรับการนำ ก็ขึ้นอยู่กับผลงานว่าจะดูดีขึ้นหรือไม่ ถ้ายังเป็นผู้บริหารชุดเดิม เกาะกลุ่มผลประโยชน์ในระบบเพื่อนพ้องน้องพี่แบบเดิม บ้านเมืองไม่มีวันดีขึ้นแน่
กำลังโหลดความคิดเห็น