ผู้จัดการรายวัน360-กรมศิลปากรเชิญศิลปินล้านนา 35 คน นำทีมโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เสริมทีมช่างสิบหมู่ ลงสีสัตว์หิมพานต์ที่ใช้ประดับพระเมรุมาศให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันนี้ เผยศิลปินทุกท่านพร้อมใจสร้างงานประณีตที่สุด เพื่อถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 องค์อัครศิลปิน
นายสุรัฐกิจ พรีพงศ์ศิลป์ หัวหน้ากลุ่มจิตรกรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มจิตรกรรมได้ลงสีประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้แก่ องค์มหาเทพ ท้าวจตุโลกกบาล ครุฑยืน เทวดานั่ง เทวาดายืน และเหล่าสัตว์หิมพานต์ตามแผนที่กำหนดไว้ โดยช่างและจิตอาสาทุกคนปฏิบัติงานอย่างสุดฝีมือ ล่าสุด ได้หารือนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เพื่อเพิ่มจำนวนจิตอาสาเป็นตัวแทนกลุ่มศิลปินภาคเหนือมาร่วมปฏิบัติงานลงสีสัตว์หิมพานต์ที่ยังไม่ได้ลงสี จำนวน 30 ตัว นำโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ และศิลปินจิตอาสาจากกลุ่มขัวศิลปะ จ.เชียงราย ศิลปินจิตอาสากลุ่มวัดพุทธปทีป และศิลปินจิตอาสา จ.เชียงใหม่ รวม 35 คน ซึ่งเหล่าศิลปินภาคเหนือได้ลงสีวันที่ 14-20 ส.ค.นี้ ณ หอประติมากรรมต้นแบบ โดยจะลงสีตามแนวทางที่สำนักช่างสิบหมู่กำหนดไว้ เป็นโทนสีไม่ฉูดฉาด ดูแล้วนุ่มนวล เพื่อให้ไปในทิศทางเดียวกันกับสระอโนดาตและเขามอบริเวณฐานของพระเมรุมาศ
"การเชิญศิลปินจิตอาสาภาคเหนือมาเสริม เพื่อให้งานเสร็จก่อนเวลา คาดว่างานที่มอบหมายให้ลงสีจะเสร็จทั้งหมดภายใน 7 วันนี้ เพราะศิลปินทุกคนกระตือรือร้นถวายงานแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเรายังรองานปั้นชุดสุดท้าย รวมถึงสัตว์หิมพานต์กลุ่มช่างเมืองเพชรบุรีที่เหลืออีก 30 ตัว จำเป็นต้องมีเครือข่ายเป็นพลังสำรองไว้ เมื่อขนย้ายมาลงสีพร้อมทำงานได้ทันที"นายสุรัฐกิจ กล่าว
นายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ได้มาเยี่ยมชมการลงสีประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศและได้พบกับนายสุรัฐกิจ หัวหน้ากลุ่มจิตรกรรม มีการพูดคุยและชักชวนกลุ่มศิลปินล้านนาเป็นอาสาร่วมปฏิบัติงาน เพื่อให้งานเสร็จทันเวลา มีความประณีตและละเอียดยิ่งขึ้น ซึ่งตนรู้สึกยินดีและได้เห็นเหล่าจิตอาสาทุ่มเททำงานเขียนสีอย่างเหน็ดเหนื่อยและยาวนาน การได้คนเพิ่มจะทำให้ชิ้นงานงดงามมากขึ้น และในครั้งนี้ ตนนำศิลปินมาทั้งสิ้น 35 คนมาช่วยลงสี หากเป็นสัตว์หิมพานต์ตระกูลสิงห์ให้ช่วยกัน 2 คนต่อ 1 ตัว ส่วนม้า โค ที่มีขนาดเล็กลงมาให้รับผิดชอบคนละชิ้น สำหรับตนจะลงสี 2-3 ตัว ซึ่งครั้งนี้ตนยังได้ร่วมเขียนลวดลายส่วนยอดมงกุฎของครุฑยืนประดับพระเมรุมาศด้วย
"ทุกคนมาด้วยหัวใจและอยากทำงานถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่เรารักมาก ทรงเป็นองค์อัครศิลปิน ทรงวาดภาพตลอดพระชนมชีพ ทรงงานส่งเสริมศิลปะ ครั้งนี้จิตรกรอาสาจากเชียงราย เชียงใหม่ จิตรกรภาคอีสานและภาคกลางของกลุ่มวัดพุทธปทีปภาคภูมิใจมีส่วนร่วมส่งเสด็จพระองค์ ยิ่งจิตอาสามีจำนวนมากเท่าไร ผลงานจะยิ่งประณีตสูงสุด ทุกคนต้องทิ้งความเป็นตัวตน ความมีชื่อเสียง สามัคคีกันทำงานตามแนวทางที่กรมศิลปากรกำหนด ถ้าตัวใครตัวมัน จะทำให้งานส่วนรวมนั้นไม่งดงาม งานศิลปกรรมเหล่านี้ คือ สมบัติของชาติ หลังงานพระราชพิธีจะเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์พระเมรุมาศ ในครั้งนี้ที่สุดของความเป็นไทยแล้ว งดงามที่สุด ในช่วงสุดท้าย ผมจะระดมศิลปินมาช่วยงานอีกครั้ง"นายเฉลิมชัยกล่าว
วันเดียวกันนี้ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ช่างได้เริ่มก่อสร้างถนนเพื่ออัญเชิญราชรถออกไปใช้งานอีกครั้ง หลังจากหยุดงานก่อสร้างมาระยะหนึ่ง โดยนางรัชนก โคจรานนท์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กล่าวว่า ขณะนี้ช่างได้กลับเข้ามาทำงานในพื้นที่อีกครั้งเพื่อเร่งจัดสร้างถนนลาดยางมะตอย และยังได้ทำประตูเป็นบานเปิด-ปิด 2 บาน ความกว้าง 12 เมตร และภายในสัปดาห์นี้ กรมสรรพาวุธทหารบกจะเข้ามากำหนดจุดที่จอดพักราชรถราชยาน เพื่อให้ช่างดำเนินการเสริมความมั่นคงแข็งแรงพื้นถนน โดยตามแผนถนนนี้จะแล้วเสร็จสิ้นเดือนก.ย. เพื่อเตรียมพร้อมพิธีบวงสรวงและซ้อมฉุดชักราชรถ
นายสุรัฐกิจ พรีพงศ์ศิลป์ หัวหน้ากลุ่มจิตรกรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มจิตรกรรมได้ลงสีประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้แก่ องค์มหาเทพ ท้าวจตุโลกกบาล ครุฑยืน เทวดานั่ง เทวาดายืน และเหล่าสัตว์หิมพานต์ตามแผนที่กำหนดไว้ โดยช่างและจิตอาสาทุกคนปฏิบัติงานอย่างสุดฝีมือ ล่าสุด ได้หารือนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เพื่อเพิ่มจำนวนจิตอาสาเป็นตัวแทนกลุ่มศิลปินภาคเหนือมาร่วมปฏิบัติงานลงสีสัตว์หิมพานต์ที่ยังไม่ได้ลงสี จำนวน 30 ตัว นำโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ และศิลปินจิตอาสาจากกลุ่มขัวศิลปะ จ.เชียงราย ศิลปินจิตอาสากลุ่มวัดพุทธปทีป และศิลปินจิตอาสา จ.เชียงใหม่ รวม 35 คน ซึ่งเหล่าศิลปินภาคเหนือได้ลงสีวันที่ 14-20 ส.ค.นี้ ณ หอประติมากรรมต้นแบบ โดยจะลงสีตามแนวทางที่สำนักช่างสิบหมู่กำหนดไว้ เป็นโทนสีไม่ฉูดฉาด ดูแล้วนุ่มนวล เพื่อให้ไปในทิศทางเดียวกันกับสระอโนดาตและเขามอบริเวณฐานของพระเมรุมาศ
"การเชิญศิลปินจิตอาสาภาคเหนือมาเสริม เพื่อให้งานเสร็จก่อนเวลา คาดว่างานที่มอบหมายให้ลงสีจะเสร็จทั้งหมดภายใน 7 วันนี้ เพราะศิลปินทุกคนกระตือรือร้นถวายงานแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเรายังรองานปั้นชุดสุดท้าย รวมถึงสัตว์หิมพานต์กลุ่มช่างเมืองเพชรบุรีที่เหลืออีก 30 ตัว จำเป็นต้องมีเครือข่ายเป็นพลังสำรองไว้ เมื่อขนย้ายมาลงสีพร้อมทำงานได้ทันที"นายสุรัฐกิจ กล่าว
นายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ได้มาเยี่ยมชมการลงสีประติมากรรมประกอบพระเมรุมาศและได้พบกับนายสุรัฐกิจ หัวหน้ากลุ่มจิตรกรรม มีการพูดคุยและชักชวนกลุ่มศิลปินล้านนาเป็นอาสาร่วมปฏิบัติงาน เพื่อให้งานเสร็จทันเวลา มีความประณีตและละเอียดยิ่งขึ้น ซึ่งตนรู้สึกยินดีและได้เห็นเหล่าจิตอาสาทุ่มเททำงานเขียนสีอย่างเหน็ดเหนื่อยและยาวนาน การได้คนเพิ่มจะทำให้ชิ้นงานงดงามมากขึ้น และในครั้งนี้ ตนนำศิลปินมาทั้งสิ้น 35 คนมาช่วยลงสี หากเป็นสัตว์หิมพานต์ตระกูลสิงห์ให้ช่วยกัน 2 คนต่อ 1 ตัว ส่วนม้า โค ที่มีขนาดเล็กลงมาให้รับผิดชอบคนละชิ้น สำหรับตนจะลงสี 2-3 ตัว ซึ่งครั้งนี้ตนยังได้ร่วมเขียนลวดลายส่วนยอดมงกุฎของครุฑยืนประดับพระเมรุมาศด้วย
"ทุกคนมาด้วยหัวใจและอยากทำงานถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่เรารักมาก ทรงเป็นองค์อัครศิลปิน ทรงวาดภาพตลอดพระชนมชีพ ทรงงานส่งเสริมศิลปะ ครั้งนี้จิตรกรอาสาจากเชียงราย เชียงใหม่ จิตรกรภาคอีสานและภาคกลางของกลุ่มวัดพุทธปทีปภาคภูมิใจมีส่วนร่วมส่งเสด็จพระองค์ ยิ่งจิตอาสามีจำนวนมากเท่าไร ผลงานจะยิ่งประณีตสูงสุด ทุกคนต้องทิ้งความเป็นตัวตน ความมีชื่อเสียง สามัคคีกันทำงานตามแนวทางที่กรมศิลปากรกำหนด ถ้าตัวใครตัวมัน จะทำให้งานส่วนรวมนั้นไม่งดงาม งานศิลปกรรมเหล่านี้ คือ สมบัติของชาติ หลังงานพระราชพิธีจะเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์พระเมรุมาศ ในครั้งนี้ที่สุดของความเป็นไทยแล้ว งดงามที่สุด ในช่วงสุดท้าย ผมจะระดมศิลปินมาช่วยงานอีกครั้ง"นายเฉลิมชัยกล่าว
วันเดียวกันนี้ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ช่างได้เริ่มก่อสร้างถนนเพื่ออัญเชิญราชรถออกไปใช้งานอีกครั้ง หลังจากหยุดงานก่อสร้างมาระยะหนึ่ง โดยนางรัชนก โคจรานนท์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กล่าวว่า ขณะนี้ช่างได้กลับเข้ามาทำงานในพื้นที่อีกครั้งเพื่อเร่งจัดสร้างถนนลาดยางมะตอย และยังได้ทำประตูเป็นบานเปิด-ปิด 2 บาน ความกว้าง 12 เมตร และภายในสัปดาห์นี้ กรมสรรพาวุธทหารบกจะเข้ามากำหนดจุดที่จอดพักราชรถราชยาน เพื่อให้ช่างดำเนินการเสริมความมั่นคงแข็งแรงพื้นถนน โดยตามแผนถนนนี้จะแล้วเสร็จสิ้นเดือนก.ย. เพื่อเตรียมพร้อมพิธีบวงสรวงและซ้อมฉุดชักราชรถ