พื้นที่ภาคอีสานยังวิกฤต น้ำท่วมยังขยายวงกว้าง ล่าสุดนครพนม ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติอีก 3 อำเภอ รวมเป็น 10 อำเภอแล้ว ตชด.ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค ช่วยประชาชน ด้านกาฬสินธุ์ อุบลราชธานี เร่งผลักดันน้ำ ส่วนสกลนครยังอ่วม เขื่อนน้ำอูน น้ำยังล้นสปิลเวย์ ปภ.สรุปล่าสุด มีอีก 10 จังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม มี 4 แสนครัวเรือน ประชาชน 1.26 ล้านคนได้รับผลกระทบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ วานนี้ (7 ส.ค.) ยังคงน่าเป็นห่วย โดยล่าสุดนครพนม ได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติอีก 3 อำเภอ รวมเป็นทั้งหมด 10 อำเภอ จากพื้นที่ทั้งหมด 12 อำเภอ มีพื้นที่เกษตรนาข้าวได้รับความเสียหายรวมกว่า 2 แสนไร่ ประชาชนเดือดร้อน 20,612 ครัวเรือน รวม 62,561 คน มีถนนสัญจรได้รับความเสียหายกว่า 60 สาย ซึ่งอยู่ระหว่างระดมตรวจสอบให้การช่วยเหลือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง
การประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ เนื่องจากลุ่มน้ำสงคราม ลุ่มน้ำอูน ยังอยู่ในภาวะวิกฤตต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง เพราะมวลน้ำจากพื้นที่ จ.สกลนคร เริ่มทะลักไหลลงน้ำโขง ทำให้ลำน้ำอูนไหลมาสมทบลำน้ำสงครามมีปริมาณสูงกว่า 12 เมตร เกินปริมาณความจุประมาณ 1 เมตร เอ่อท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน พื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม , อ.นาหว้า และ อ.โพนสวรรค์ โดยเฉพาะชาวบ้าน ต.นาคูณใหญ่ อ.นาหว้า จ.นครพนม มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมเกือบ 200 ครัวเรือน ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร
พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 ค่ายศรีสกุลวงศ์ ได้ประสานงานร่วมกับ พ.ต.ท.ชนทัต เทียมนาก ผบ.ร้อย.ตชด.236 นครพนม ใช้เฮลิคอปเตอร์ระดมเจ้าหน้าที่ลำเลียงอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค เข้าไปแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม โดยเฉพาะพื้นที่ ต.นาคู่ และ ต.พิมาน อ.นาแก ซึ่งมีชาวบ้านเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมพื้นที่เกษตร ทั้งท่วมบ้านเรือนกว่า 300 หลังคาเรือน แม้ระดับน้ำจะลดแต่ถนนรถยังไม่สามารถสัญจรได้ ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงเครื่องอุปโภคบริโภค
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ที่ จ.กาฬสินธุ์ ได้มีการเตรียมเครื่องผลักดันน้ำ และเฝ้าระวังจุดเสี่ยงบนพนังกั้นน้ำชียาว 22 กม. ตลอด 24 ชม. เพราะพบว่า แม้ระดับน้ำยังทรงตัว แต่ไหลเชี่ยว ที่จ.อุบลราชธานี กรมชลประทาน ได้เตรียมแผนเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำชีที่มีปริมาณน้ำมากลงสู่แม่น้ำมูลและแม่น้ำโขง โดยเปิดบานระบายน้ำของเขื่อนในลำน้ำชีทุกแห่ง และใช้เครื่องผลักดันน้ำช่วยเร่งการไหลและจะชะลอน้ำจากแม่น้ำมูล บริเวณเขื่อนราษีไศล จ.ศรีสะเกษ เพื่อไม่ให้ปริมาณน้ำจากทั้ง สองแม่น้ำไหลไปรวมกันในเวลาเดียวกันที่ จ.อุบลราชธานี
ขณะที่ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สกลนคร พบว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เขื่อนน้ำอูน ความจุ 522 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้มีปริมาณน้ำเกินความจุ 638 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 123 ส่งผลให้ปริมาณน้ำจำนวนมากล้นสปิลเวย์ของเขื่อนไหลลงสู่ด้านล่างส่งผลกระทบให้พื้นที่ท้ายเขื่อนโดยเฉพาะ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ได้รับความเสียหายหลายจุด โดยเจ้าหน้าที่ชลประทานได้ติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์ไม่ปลอดภัยจะได้มีการประกาศเตือนและอพยพในทันที
ล่าสุดนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้สรุปสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ โดยพบว่า จนถึงขณะนี้ ยังคงมีอีก 10 จังหวัดที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ประกอบด้วย สกลนคร กาฬสินธุ์ นครพนม ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี หนองคาย และพระนครศรีอยุธยา โดยมีประชาชนได้รับผลกระทบ 409,303 ครัวเรือน จำนวน 1,267,372 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ วานนี้ (7 ส.ค.) ยังคงน่าเป็นห่วย โดยล่าสุดนครพนม ได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติอีก 3 อำเภอ รวมเป็นทั้งหมด 10 อำเภอ จากพื้นที่ทั้งหมด 12 อำเภอ มีพื้นที่เกษตรนาข้าวได้รับความเสียหายรวมกว่า 2 แสนไร่ ประชาชนเดือดร้อน 20,612 ครัวเรือน รวม 62,561 คน มีถนนสัญจรได้รับความเสียหายกว่า 60 สาย ซึ่งอยู่ระหว่างระดมตรวจสอบให้การช่วยเหลือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง
การประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ เนื่องจากลุ่มน้ำสงคราม ลุ่มน้ำอูน ยังอยู่ในภาวะวิกฤตต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง เพราะมวลน้ำจากพื้นที่ จ.สกลนคร เริ่มทะลักไหลลงน้ำโขง ทำให้ลำน้ำอูนไหลมาสมทบลำน้ำสงครามมีปริมาณสูงกว่า 12 เมตร เกินปริมาณความจุประมาณ 1 เมตร เอ่อท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน พื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม , อ.นาหว้า และ อ.โพนสวรรค์ โดยเฉพาะชาวบ้าน ต.นาคูณใหญ่ อ.นาหว้า จ.นครพนม มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมเกือบ 200 ครัวเรือน ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร
พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 ค่ายศรีสกุลวงศ์ ได้ประสานงานร่วมกับ พ.ต.ท.ชนทัต เทียมนาก ผบ.ร้อย.ตชด.236 นครพนม ใช้เฮลิคอปเตอร์ระดมเจ้าหน้าที่ลำเลียงอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค เข้าไปแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม โดยเฉพาะพื้นที่ ต.นาคู่ และ ต.พิมาน อ.นาแก ซึ่งมีชาวบ้านเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมพื้นที่เกษตร ทั้งท่วมบ้านเรือนกว่า 300 หลังคาเรือน แม้ระดับน้ำจะลดแต่ถนนรถยังไม่สามารถสัญจรได้ ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงเครื่องอุปโภคบริโภค
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ที่ จ.กาฬสินธุ์ ได้มีการเตรียมเครื่องผลักดันน้ำ และเฝ้าระวังจุดเสี่ยงบนพนังกั้นน้ำชียาว 22 กม. ตลอด 24 ชม. เพราะพบว่า แม้ระดับน้ำยังทรงตัว แต่ไหลเชี่ยว ที่จ.อุบลราชธานี กรมชลประทาน ได้เตรียมแผนเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำชีที่มีปริมาณน้ำมากลงสู่แม่น้ำมูลและแม่น้ำโขง โดยเปิดบานระบายน้ำของเขื่อนในลำน้ำชีทุกแห่ง และใช้เครื่องผลักดันน้ำช่วยเร่งการไหลและจะชะลอน้ำจากแม่น้ำมูล บริเวณเขื่อนราษีไศล จ.ศรีสะเกษ เพื่อไม่ให้ปริมาณน้ำจากทั้ง สองแม่น้ำไหลไปรวมกันในเวลาเดียวกันที่ จ.อุบลราชธานี
ขณะที่ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สกลนคร พบว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เขื่อนน้ำอูน ความจุ 522 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะนี้มีปริมาณน้ำเกินความจุ 638 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 123 ส่งผลให้ปริมาณน้ำจำนวนมากล้นสปิลเวย์ของเขื่อนไหลลงสู่ด้านล่างส่งผลกระทบให้พื้นที่ท้ายเขื่อนโดยเฉพาะ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ได้รับความเสียหายหลายจุด โดยเจ้าหน้าที่ชลประทานได้ติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์ไม่ปลอดภัยจะได้มีการประกาศเตือนและอพยพในทันที
ล่าสุดนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้สรุปสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ โดยพบว่า จนถึงขณะนี้ ยังคงมีอีก 10 จังหวัดที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ประกอบด้วย สกลนคร กาฬสินธุ์ นครพนม ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี หนองคาย และพระนครศรีอยุธยา โดยมีประชาชนได้รับผลกระทบ 409,303 ครัวเรือน จำนวน 1,267,372 คน