“สอดแนมการเมือง”
“โดย ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
การเมือง-เรื่องของอำนาจรัฐและผลประโยชน์ ทำให้ผู้คนรู้เช่นเห็นชาติ มนุษย์ดี-และ-มนุษย์เลว..!
มนุษย์ดี-ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือการรัฐประหาร หากได้ขึ้นปกครองชาติ ย่อมทำให้การเมืองไทยดีมีคุณภาพ ไม่คอร์รัปชั่นโกงชาติเพื่อตนและพวกพ้อง หากแต่จะใช้อำนาจรัฐ ทำประโยชน์ให้ชาติและประชาชน โดยเฉพาะการลดความเหลื่อมล้ำ ในสังคมทุกมิติให้มากที่สุด เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในชาติไทย
ดังนั้น มนุษย์ดีกับการเมืองดี จะทำให้ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์-ประชาชน เดินไปสู่ความเจริญอย่างมั่นคงสถาพร..
มนุษย์เลว-ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือการรัฐประหาร หากได้ขึ้นปกครองชาติบ้านเมือง ย่อมทำให้การเมืองไทยเลวทรามลงเรื่อยๆ เพราะมนุษย์เลวจะใช้อำนาจรัฐ คอร์รัปชั่นโกงชาติและประชาชน เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง รวมทั้งสืบทอดอำนาจ เพื่อทำชั่วอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น มนุษย์เลวกับการเมืองเลว จึงเป็นภัยต่อความมั่นคง ของชาติ-ศาสน์-กษัตริย์-ประชาชน ดังเหตุการณ์จริงในยุค “เหลี่ยม” และเครือข่าย ซึ่งก่อวิกฤติอันเลวร้ายต่อชาติมาจนทุกวันนี้
มิใช่เรื่องเหลือเชื่อ.. ที่มนุษย์กลุ่มที่มีการศึกษาสูง-ร่ำรวยเงินทอง ฯลฯ จะใช้จุดอ่อนของสังคมไทยและการเลือกตั้ง เข้ามายึดและใช้อำนาจรัฐคอร์รัปชั่นชาติ เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง
ความโลภมิรู้จักพอในอำนาจ-เงินทอง-ทรัพย์สิน ฯลฯ ทำให้มนุษย์จำนวนหนึ่ง แสร้ง “ดวงตา-ดวงใจ-มืดบอด” ทำชั่วครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้การเมืองไทยจมปลักอยู่ใน “วงจรอุบาทว์” นั่นคือ มีการเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม-ได้สภาเสือ สิงห์ กระทิง แรด สุนัข ตัวเงินตัวทอง-ได้รัฐบาลคอร์รัปชั่นโกงชาติ-จนประชาชนจำต้องออกมาชุมนุมขับไล่..
แล้ว..การเมืองไทยก็จะปิดฉากลงชั่วคราวอย่างซ้ำซาก ด้วยการ-ยุบสภา-หรือ-รัฐประหาร!!!
มิใช่เรื่องเหลือเชื่อ.. ที่ชาติไทยจะเกิดเหตุการณ์การเมืองมากมาย ที่พิกลพิการ-ไร้เหตุผล-ไร้ถูกผิด-ไร้คุณธรรม-ไร้ความชอบธรรม ฯลฯ เช่น
ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ ยังไม่มีความพร้อมในหลายมิติ โดยเฉพาะ “กลุ่มคนทางการเมือง” ที่ยังไร้คุณธรรม จริยธรรม แต่การณ์กลับมี “คนกลุ่มหนึ่ง” ทำรัฐประหาร นำระบอบประชาธิปไตยแบบตะวันตก เข้ามาใช้ปกครองชาติบ้านเมือง
ผลลัพธ์-คือ-เกิดการเลือกตั้งสกปรกหลากรูปแบบ เกิดการใช้อำนาจรัฐกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง เกิดการแย่งชิงอำนาจทางการเมือง เกิดรัฐสภาและรัฐบาลไร้คุณภาพและคุณธรรม เกิดการคอร์รัปชั่นโกงชาติอย่างต่อเนื่อง เกิดการจะโค่นล้มสถาบันสูงสุดของชาติ ฯลฯ
เกิดวาทกรรม “สภาสารพัดสัตว์-สภาฝักถั่ว-สภาตรายาง-สภาทาสชิน” ฯลฯ และ “รัฐบาลเสือหิว-รัฐบาลแดกด่วน-รัฐบาลโคตรโกง-โกงทั้งโคตร” ฯลฯ ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้ประชาชน จำต้องออกมาชุมนุมขับไล่ “สภาทาสและรัฐบาลทรราช” จนนำไปสู่การยุบสภาหรือรัฐประหาร
จากรัฐบาลโกงเลือกตั้งและโกงชาติ มาสู่รัฐบาลมาจากรัฐประหาร ที่นอกจากจะไม่ปฏิรูปชาติอย่างจริงจังแล้ว รัฐบาลเผด็จการทหารบางคณะ ยังโกงชาติจนไม่มีความชอบธรรมจะอยู่ในอำนาจ จึงต้องรีบจัดให้มีการเลือกตั้งสกปรกครั้งใหม่ ทำให้รัฐบาลโกงเลือกตั้งและโกงชาติ หวนกลับมาปกครองชาติครั้งแล้วครั้งเล่า
ทำให้วาทกรรม “วงจรอุบาทว์ทางการเมือง” ไม่ล้าสมัย ตราบจนทุกวันนี้..จริงไหม?
อีกทั้งเกิดวาทกรรมเกี่ยวกับรัฐประหาร ทั้ง “รัฐประหารเสียของ-รัฐประหารเยี่ยวไม่สุด-รัฐประหารมวยล้มต้มคนดู-รัฐประหารถอยหลังลงคลอง” เพราะ “คณะทำรัฐประหาร” ที่ผ่านมา ไม่ได้ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนให้สัมฤทธิ์ผลนั่นเอง..!
มิใช่เรื่องเหลือเชื่อ..ที่ชาติไทยจะมีเหตุการณ์ “ล้างแค้นมิรู้จบ” เช่น พรรคไหนเป็นรัฐบาล ก็จะหาเรื่องเล่นงานพรรคฝ่ายค้านอุตลุดไปหมด เรียกว่า..พรรคการเมืองจะหาเรื่องเล่นงานกันเอง ในเรื่องการคอร์รัปชั่น ทั้งจริงและไม่จริง มั่วไปหมด
แถมบางครั้ง พรรคการเมืองยังใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ เพื่อโค่นล้มกันและกันอีกด้วย ดังเหตุการณ์ยุคเครือข่าย “เหลี่ยม” ที่มีทั้งการเผาบ้านเผาเมือง และใช้อาวุธสงครามฆ่าทหารและประชาชน ฯลฯ
แต่ที่แน่ๆ.. หากพรรคใหญ่ที่โกงชาติ แล้วถูกทหารทำรัฐประหารโค่นลงถึง 2 ครั้ง ได้กลับมาเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ รัฐบาลทหารยุค “บิ๊กตู่” คงโดนขุดคุ้ยสารพัด เล่นงานย้อนหลัง ตามสูตร “แค้นนี้ต้องชำระ” อย่างแน่นอน
เพราะผู้คนเชื่อว่า..ไม่มีรัฐบาลใดปราศจากการคอร์รัปชั่นโกงชาติ และไม่มีคนในรัฐบาลใดจะมือสะอาด 100 % ทุกคน เพียงแต่จะโกงชาติกันมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง โดยเฉพาะรัฐบาลเผด็จการ “บิ๊กตู่” มีการใช้เงินงบประมาณชาติมหาศาล ทำโครงการมหึมามากมาย
เพราะภายใต้อำนาจรัฐเผด็จการนั้น สามารถใช้อำนาจมาตราพิเศษ บริหารชาติในแทบทุกมิติแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด อีกทั้งยังมีกองทัพหนุนอย่างเข้มแข็ง ดังนั้น อดีตนักการเมืองและสื่อมวลชน จึงไม่อาจใช้เสรีภาพได้อย่างเต็มร้อย ฯลฯ
แน่นอน..ถ้าเป็นรัฐบาลเผด็จการทหารที่ดี ย่อมแก้ต้นเหตุปัญหาหมักหมมของชาติได้ แก้ไขความเดือดร้อนให้ประชาชนได้รวดเร็ว เกิดผลสำเร็จมากกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง(สกปรก) อีกทั้งยังสามารถพัฒนาชาติในโครงการใหญ่ๆ ด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จแบบเผด็จการ ก้าวข้ามวิธีการบริหารแบบทั่วไป และหลักมาตรฐานสากล
ดั่งโครงการใหญ่ๆของรัฐบาล “บิ๊กตู่” ที่อาจสร้างปัญหาใหญ่ในอนาคต เช่น เอื้อการลงทุนแก่ต่างชาติแบบสุดๆ ทั้งในเรื่องการลดและยกเลิกภาษี เรื่องการใช้ที่ดินชาติ เรื่องการเวนคืนที่ดินของประชาชน เรื่องการทำลายสิ่งแวดล้อมของชุมชนและชาติ ฯลฯ
รวมทั้งการพัฒนาระบบคมนาคมของรัฐบาล ที่บางโครงการยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน และต้องใช้เงินมากเกินเหตุ ซึ่งก่อภาระหนี้ในอนาคตแก่ชาติและประชาชนอย่างต่อเนื่อง
แน่นอน..การลงทุนอย่างมโหฬารในโครงการต่างๆ ของรัฐบาลเผด็จการทหารในช่วงมีอำนาจเต็มร้อย ย่อมมีจุดอ่อนและข้อบกพร่องมิใช่น้อย อันเป็นจุดที่นักการเมืองมาจากการเลือกตั้ง จะขุดคุ้ยเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร รวมทั้งทำลายความน่าเชื่อถือของกองทัพด้วย
กระทั่งรัฐบาลเผด็จการทหาร “บิ๊กตู่” ยังอาจถูกครหาในบางเรื่องบางราว ว่ามีการคอร์รัปชั่นโกงชาติ ตามวาทกรรมที่ว่า “สมบัติชาติผลัดกันโกง” เพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง และป้องกันมิให้ “ขุนทหาร” ทำรัฐประหารในอนาคต
การเมืองดี-การเมืองเลว..จึงมีบทสรุปอยู่ที่ คนดี-หรือ-คนเลวได้ขึ้นปกครองชาติบ้านเมืองนั่นเอง
ทว่า..แค่ คนดี ได้ขึ้นปกครองชาติ-ก็ยังมิใช่คำตอบที่-ถูกต้อง! เพราะคนดีต้องมิใช่คนดีที่แค่ “พูดดี” เท่านั้น แต่ “ทำไม่เก่ง-ทำไม่เป็น-ไม่กล้าทำ” ผลงานดีๆอย่างเด็ดเดี่ยวจริงจัง เพื่อแก้ต้นเหตุปัญหาชาติ ฯลฯ
เพราะชาติไทยมี“คนดี”มากมาย ที่มีอำนาจแล้วไม่กล้าทำผลงานดีๆ ไม่กล้าปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน จนกีดกันคนเลวมิให้มีอำนาจไม่ได้..!
คนดี-ที่มีโอกาสทองในการทำงานให้ชาติ แต่กลับล้มเหลวในการบริหารชาติ จึงเป็นได้แค่ “คนดีไลฟ์บอย”.. จริงไหม?
จึงมีคำถามถึง มหาเศรษฐีบางคน ที่ชนะเลือกตั้งด้วยเสียงท่วมท้น แต่ไม่ใช้อำนาจสร้างผลงานดี ให้เป็นเยี่ยงรัฐบุรุษชาติ แต่กลับ “โคตรโกง-โกงทั้งโคตร” จนต้องเร่ร่อนอยู่ต่างแดน
จึงมีคำถามถึง “ผู้นำขุนทหาร” บางคน ที่ทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลโกงชาติโกงประชาชน มีโอกาสทองที่จะเป็นวีรบุรุษ สร้างผลงานดีให้ชาติและประชาชน แต่กลับมิได้ใช้อำนาจเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จ ลงโทษและกีดกันกลุ่มคนโกงชาติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มิได้ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนให้สัมฤทธิ์ผล เพื่อเอาคนดีขึ้นปกครองชาติ และกีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจ ก่อความเดือดร้อนให้ชาติและประชาชนได้อีกต่อไป
ชาติไทย-คนดีมีอำนาจ ที่ทำดีอย่างเด็ดเดี่ยว ให้ชาติและประชาชน.. อยู่ไหนหว่า???
“โดย ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
การเมือง-เรื่องของอำนาจรัฐและผลประโยชน์ ทำให้ผู้คนรู้เช่นเห็นชาติ มนุษย์ดี-และ-มนุษย์เลว..!
มนุษย์ดี-ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือการรัฐประหาร หากได้ขึ้นปกครองชาติ ย่อมทำให้การเมืองไทยดีมีคุณภาพ ไม่คอร์รัปชั่นโกงชาติเพื่อตนและพวกพ้อง หากแต่จะใช้อำนาจรัฐ ทำประโยชน์ให้ชาติและประชาชน โดยเฉพาะการลดความเหลื่อมล้ำ ในสังคมทุกมิติให้มากที่สุด เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในชาติไทย
ดังนั้น มนุษย์ดีกับการเมืองดี จะทำให้ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์-ประชาชน เดินไปสู่ความเจริญอย่างมั่นคงสถาพร..
มนุษย์เลว-ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือการรัฐประหาร หากได้ขึ้นปกครองชาติบ้านเมือง ย่อมทำให้การเมืองไทยเลวทรามลงเรื่อยๆ เพราะมนุษย์เลวจะใช้อำนาจรัฐ คอร์รัปชั่นโกงชาติและประชาชน เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง รวมทั้งสืบทอดอำนาจ เพื่อทำชั่วอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น มนุษย์เลวกับการเมืองเลว จึงเป็นภัยต่อความมั่นคง ของชาติ-ศาสน์-กษัตริย์-ประชาชน ดังเหตุการณ์จริงในยุค “เหลี่ยม” และเครือข่าย ซึ่งก่อวิกฤติอันเลวร้ายต่อชาติมาจนทุกวันนี้
มิใช่เรื่องเหลือเชื่อ.. ที่มนุษย์กลุ่มที่มีการศึกษาสูง-ร่ำรวยเงินทอง ฯลฯ จะใช้จุดอ่อนของสังคมไทยและการเลือกตั้ง เข้ามายึดและใช้อำนาจรัฐคอร์รัปชั่นชาติ เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง
ความโลภมิรู้จักพอในอำนาจ-เงินทอง-ทรัพย์สิน ฯลฯ ทำให้มนุษย์จำนวนหนึ่ง แสร้ง “ดวงตา-ดวงใจ-มืดบอด” ทำชั่วครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้การเมืองไทยจมปลักอยู่ใน “วงจรอุบาทว์” นั่นคือ มีการเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม-ได้สภาเสือ สิงห์ กระทิง แรด สุนัข ตัวเงินตัวทอง-ได้รัฐบาลคอร์รัปชั่นโกงชาติ-จนประชาชนจำต้องออกมาชุมนุมขับไล่..
แล้ว..การเมืองไทยก็จะปิดฉากลงชั่วคราวอย่างซ้ำซาก ด้วยการ-ยุบสภา-หรือ-รัฐประหาร!!!
มิใช่เรื่องเหลือเชื่อ.. ที่ชาติไทยจะเกิดเหตุการณ์การเมืองมากมาย ที่พิกลพิการ-ไร้เหตุผล-ไร้ถูกผิด-ไร้คุณธรรม-ไร้ความชอบธรรม ฯลฯ เช่น
ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ ยังไม่มีความพร้อมในหลายมิติ โดยเฉพาะ “กลุ่มคนทางการเมือง” ที่ยังไร้คุณธรรม จริยธรรม แต่การณ์กลับมี “คนกลุ่มหนึ่ง” ทำรัฐประหาร นำระบอบประชาธิปไตยแบบตะวันตก เข้ามาใช้ปกครองชาติบ้านเมือง
ผลลัพธ์-คือ-เกิดการเลือกตั้งสกปรกหลากรูปแบบ เกิดการใช้อำนาจรัฐกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง เกิดการแย่งชิงอำนาจทางการเมือง เกิดรัฐสภาและรัฐบาลไร้คุณภาพและคุณธรรม เกิดการคอร์รัปชั่นโกงชาติอย่างต่อเนื่อง เกิดการจะโค่นล้มสถาบันสูงสุดของชาติ ฯลฯ
เกิดวาทกรรม “สภาสารพัดสัตว์-สภาฝักถั่ว-สภาตรายาง-สภาทาสชิน” ฯลฯ และ “รัฐบาลเสือหิว-รัฐบาลแดกด่วน-รัฐบาลโคตรโกง-โกงทั้งโคตร” ฯลฯ ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้ประชาชน จำต้องออกมาชุมนุมขับไล่ “สภาทาสและรัฐบาลทรราช” จนนำไปสู่การยุบสภาหรือรัฐประหาร
จากรัฐบาลโกงเลือกตั้งและโกงชาติ มาสู่รัฐบาลมาจากรัฐประหาร ที่นอกจากจะไม่ปฏิรูปชาติอย่างจริงจังแล้ว รัฐบาลเผด็จการทหารบางคณะ ยังโกงชาติจนไม่มีความชอบธรรมจะอยู่ในอำนาจ จึงต้องรีบจัดให้มีการเลือกตั้งสกปรกครั้งใหม่ ทำให้รัฐบาลโกงเลือกตั้งและโกงชาติ หวนกลับมาปกครองชาติครั้งแล้วครั้งเล่า
ทำให้วาทกรรม “วงจรอุบาทว์ทางการเมือง” ไม่ล้าสมัย ตราบจนทุกวันนี้..จริงไหม?
อีกทั้งเกิดวาทกรรมเกี่ยวกับรัฐประหาร ทั้ง “รัฐประหารเสียของ-รัฐประหารเยี่ยวไม่สุด-รัฐประหารมวยล้มต้มคนดู-รัฐประหารถอยหลังลงคลอง” เพราะ “คณะทำรัฐประหาร” ที่ผ่านมา ไม่ได้ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนให้สัมฤทธิ์ผลนั่นเอง..!
มิใช่เรื่องเหลือเชื่อ..ที่ชาติไทยจะมีเหตุการณ์ “ล้างแค้นมิรู้จบ” เช่น พรรคไหนเป็นรัฐบาล ก็จะหาเรื่องเล่นงานพรรคฝ่ายค้านอุตลุดไปหมด เรียกว่า..พรรคการเมืองจะหาเรื่องเล่นงานกันเอง ในเรื่องการคอร์รัปชั่น ทั้งจริงและไม่จริง มั่วไปหมด
แถมบางครั้ง พรรคการเมืองยังใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ เพื่อโค่นล้มกันและกันอีกด้วย ดังเหตุการณ์ยุคเครือข่าย “เหลี่ยม” ที่มีทั้งการเผาบ้านเผาเมือง และใช้อาวุธสงครามฆ่าทหารและประชาชน ฯลฯ
แต่ที่แน่ๆ.. หากพรรคใหญ่ที่โกงชาติ แล้วถูกทหารทำรัฐประหารโค่นลงถึง 2 ครั้ง ได้กลับมาเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ รัฐบาลทหารยุค “บิ๊กตู่” คงโดนขุดคุ้ยสารพัด เล่นงานย้อนหลัง ตามสูตร “แค้นนี้ต้องชำระ” อย่างแน่นอน
เพราะผู้คนเชื่อว่า..ไม่มีรัฐบาลใดปราศจากการคอร์รัปชั่นโกงชาติ และไม่มีคนในรัฐบาลใดจะมือสะอาด 100 % ทุกคน เพียงแต่จะโกงชาติกันมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง โดยเฉพาะรัฐบาลเผด็จการ “บิ๊กตู่” มีการใช้เงินงบประมาณชาติมหาศาล ทำโครงการมหึมามากมาย
เพราะภายใต้อำนาจรัฐเผด็จการนั้น สามารถใช้อำนาจมาตราพิเศษ บริหารชาติในแทบทุกมิติแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด อีกทั้งยังมีกองทัพหนุนอย่างเข้มแข็ง ดังนั้น อดีตนักการเมืองและสื่อมวลชน จึงไม่อาจใช้เสรีภาพได้อย่างเต็มร้อย ฯลฯ
แน่นอน..ถ้าเป็นรัฐบาลเผด็จการทหารที่ดี ย่อมแก้ต้นเหตุปัญหาหมักหมมของชาติได้ แก้ไขความเดือดร้อนให้ประชาชนได้รวดเร็ว เกิดผลสำเร็จมากกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง(สกปรก) อีกทั้งยังสามารถพัฒนาชาติในโครงการใหญ่ๆ ด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จแบบเผด็จการ ก้าวข้ามวิธีการบริหารแบบทั่วไป และหลักมาตรฐานสากล
ดั่งโครงการใหญ่ๆของรัฐบาล “บิ๊กตู่” ที่อาจสร้างปัญหาใหญ่ในอนาคต เช่น เอื้อการลงทุนแก่ต่างชาติแบบสุดๆ ทั้งในเรื่องการลดและยกเลิกภาษี เรื่องการใช้ที่ดินชาติ เรื่องการเวนคืนที่ดินของประชาชน เรื่องการทำลายสิ่งแวดล้อมของชุมชนและชาติ ฯลฯ
รวมทั้งการพัฒนาระบบคมนาคมของรัฐบาล ที่บางโครงการยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน และต้องใช้เงินมากเกินเหตุ ซึ่งก่อภาระหนี้ในอนาคตแก่ชาติและประชาชนอย่างต่อเนื่อง
แน่นอน..การลงทุนอย่างมโหฬารในโครงการต่างๆ ของรัฐบาลเผด็จการทหารในช่วงมีอำนาจเต็มร้อย ย่อมมีจุดอ่อนและข้อบกพร่องมิใช่น้อย อันเป็นจุดที่นักการเมืองมาจากการเลือกตั้ง จะขุดคุ้ยเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร รวมทั้งทำลายความน่าเชื่อถือของกองทัพด้วย
กระทั่งรัฐบาลเผด็จการทหาร “บิ๊กตู่” ยังอาจถูกครหาในบางเรื่องบางราว ว่ามีการคอร์รัปชั่นโกงชาติ ตามวาทกรรมที่ว่า “สมบัติชาติผลัดกันโกง” เพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง และป้องกันมิให้ “ขุนทหาร” ทำรัฐประหารในอนาคต
การเมืองดี-การเมืองเลว..จึงมีบทสรุปอยู่ที่ คนดี-หรือ-คนเลวได้ขึ้นปกครองชาติบ้านเมืองนั่นเอง
ทว่า..แค่ คนดี ได้ขึ้นปกครองชาติ-ก็ยังมิใช่คำตอบที่-ถูกต้อง! เพราะคนดีต้องมิใช่คนดีที่แค่ “พูดดี” เท่านั้น แต่ “ทำไม่เก่ง-ทำไม่เป็น-ไม่กล้าทำ” ผลงานดีๆอย่างเด็ดเดี่ยวจริงจัง เพื่อแก้ต้นเหตุปัญหาชาติ ฯลฯ
เพราะชาติไทยมี“คนดี”มากมาย ที่มีอำนาจแล้วไม่กล้าทำผลงานดีๆ ไม่กล้าปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน จนกีดกันคนเลวมิให้มีอำนาจไม่ได้..!
คนดี-ที่มีโอกาสทองในการทำงานให้ชาติ แต่กลับล้มเหลวในการบริหารชาติ จึงเป็นได้แค่ “คนดีไลฟ์บอย”.. จริงไหม?
จึงมีคำถามถึง มหาเศรษฐีบางคน ที่ชนะเลือกตั้งด้วยเสียงท่วมท้น แต่ไม่ใช้อำนาจสร้างผลงานดี ให้เป็นเยี่ยงรัฐบุรุษชาติ แต่กลับ “โคตรโกง-โกงทั้งโคตร” จนต้องเร่ร่อนอยู่ต่างแดน
จึงมีคำถามถึง “ผู้นำขุนทหาร” บางคน ที่ทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลโกงชาติโกงประชาชน มีโอกาสทองที่จะเป็นวีรบุรุษ สร้างผลงานดีให้ชาติและประชาชน แต่กลับมิได้ใช้อำนาจเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จ ลงโทษและกีดกันกลุ่มคนโกงชาติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มิได้ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนให้สัมฤทธิ์ผล เพื่อเอาคนดีขึ้นปกครองชาติ และกีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจ ก่อความเดือดร้อนให้ชาติและประชาชนได้อีกต่อไป
ชาติไทย-คนดีมีอำนาจ ที่ทำดีอย่างเด็ดเดี่ยว ให้ชาติและประชาชน.. อยู่ไหนหว่า???