ผู้จัดการรายวัน360-"สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งครัวพระราชทาน เพื่อปรุงอาหารสดใหม่ให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย พร้อมรับสั่งให้นำสิ่งของร่วมตักบาตรวันเฉลิมพระชนมพรรษา มาจัดสรรให้แก่ผู้ประสบภัยก่อน ปภ.เผยน้ำท่วมคลี่คลายแล้ว 30 จังหวัด เหลืออีก 12 จังหวัดที่ท่วมอยู่ เตือนกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี เตรียมรับน้ำ ส่วนนครพนมไม่รอดประกาศภัยพิบัติแล้ว ศรีสะเกษเสี่ยง อ่างเก็บน้ำล้น พิจิตรท่วมแล้ว คอหวยเซ็ง อุดรธานีห้ามเข้าสักการะ "คำชะโนด" โคราชท่วม 10 อำเภอ 2.4 หมื่นครัวเรือนกระทบ เผยชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยาต้องระวัง หลังเขื่อนระบายน้ำ โซเซียลแฉอ่างเก็บน้ำห้วยทรายแตกแล้ว ตีแสนหน้ากรมชลประทานที่บอกแค่น้ำกัดเซาะ ด้าน "บิ๊กตู่"ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมสกลนคร 2 ส.ค.นี้
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งครัวพระราชทาน โดยหน่วยพระราชทาน และประชาชนจิตอาสา "เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ" ซึ่งข้าราชบริพารจากพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ สำนักพระราชวัง ได้มาประกอบอาหารปรุงสดใหม่ เพื่อมอบแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในเขตเทศบาลนครสกลนคร วันละ 2,000 กล่อง ที่มารับในพื้นที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งได้เดินทางไปมอบอาหาร และน้ำดื่มพระราชทาน แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยยังบ้านเรือนที่ไม่สามารถเดินทางมารับ และไม่สามารถประกอบอาหารรับประทานเองได้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้แก่ราษฎร ซึ่งได้ดำเนินการแจกอาหารพระราชทานมาตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. เรื่อยมาสร้างความปลาบปลื้มเป็นล้นพ้นให้แก่พสกนิกรผู้ประสบภัย
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความห่วงใยเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วม พระองค์ท่านรับสั่งให้นำสิ่งของที่ประชาชนนำมาร่วมตักบาตรวันเฉลิมพระชนมพรรษา 65 พรรษา มาจัดสรรให้แก่ผู้ประสบภัยก่อน ส่วนมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ จะเป็นเช่นเดียวกันกับการช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ก่อนหน้านี้ แต่สิ่งที่จะต่างออกไป คือ จะตั้งศูนย์ปรุงอาหารสดในพื้นที่ประสบภัยทั้งใน จ.สกลนคร และพื้นที่อื่นที่ประสบภัย โดยสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) จะเป็นหน่วยงานหลักบูรณาการร่วมกับจังหวัดและจิตอาสา โดยใช้เงินจากกองทุนเดิม จำนวนเงิน 788 ล้านบาท และเงินบริจาคเพิ่มเติมกว่า 1 ล้านบาทในการดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยจะเน้นไม่ให้การช่วยเหลือซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น
***มีอีก12จังหวัดที่น้ำยังท่วม
ที่รัฐสภา นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดของประเทศไทยขณะนี้ว่า ภาพรวมมีพื้นที่น้ำท่วมใน 42 จังหวัด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 30 จังหวัด เหลือ 12 จังหวัดที่ยังมีน้ำท่วมค่อนข้างมาก โดยเฉพาะ จ.สกลนคร และจ.ร้อยเอ็ด ในส่วนของ จ.สกลนคร ขณะนี้ในตัวเมืองและพื้นผิวถนนน้ำลดแล้ว รวมถึงพื้นที่ในสนามบินที่น้ำแห้งแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบด้านความปลอดภัย คาดว่าอีกไม่นานจะกลับมาใช้การได้ ส่วนเส้นทางอื่นๆ ที่สะพานถูกตัดขาด เจ้าหน้าที่ได้ซ่อมแซมโดยนำสะพานเบลีย์ไปวาง เพื่อไม่ให้ประชาชนถูกตัดขาดจากการเดินทาง
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ปภ. ได้ให้ความสำคัญกับการแจ้งเตือนประชาชน โดยแจ้งเตือนก่อนวันที่ 23 ก.ค. โดยแจ้งเตือนต่อเนื่องถึง 5 ครั้ง และล่าสุดได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ เพราะเป็นพื้นที่ปลายทางของแม่น้ำชีที่จะบรรจบกับแม่น้ำมูลที่บริเวณ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และในส่วนของลุ่มน้ำป่าสักขอให้ประชาชนมั่นใจ เพราะหน่วยงานราชการได้พร่องน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ไว้แล้ว จึงยังสามารถรับน้ำได้มาก ขณะที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาก็ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
***นครพนมไม่รอดประกาศภัยพิบัติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดจังหวัดนครพนม ได้ออกมาประกาศให้พื้นที่ 5 อำเภอ คือ อ.นาแก, วังยาง, นาหว้า, ศรีสงคราม และเรณูนคร เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ (อุทกภัย) แล้ว และขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ รวมถึงเครื่องสูบน้ำตามจุดต่างๆ เพื่อเร่งระบายมวลน้ำที่ท่วมขังทั้งหมดออกไปสู่แม่น้ำโขง คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่ม สถานการณ์น้ำท่วมจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายใน 7 วัน
***ศรีสะเกษเสี่ยงอ่างเก็บน้ำล้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้อ่างเก็บน้ำจำนวน 13 แห่ง จากที่มีอยู่จำนวนทั้งหมด 16 แห่งของ จ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอ่างเก็บน้ำที่อยู่ติดกับเทือกเขาพนมดงรัก แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยติ๊กชู อ่างเก็บน้ำห้วยสำราญ อ่างเก็บน้ำห้วยศาลา และอ่างเก็บน้ำโอว์ตาลัด ปรากฏว่าน้ำได้ล้นสปิลเวย์ไหลทะลักลงมาตามลำห้วยและตามลำน้ำสาขา เอ่อล้นเข้าไปท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านในเขตหลายอำเภอจำนวนกว่า 20,000 ไร่ รวมทั้งถนนหลายสายถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย ส่วนบ้านเรือนของชาวบ้านยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ทางจังหวัดได้มีการแจ้งเตือนให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูงแล้ว เพื่อป้องกันน้ำท่วมฉับพลัน
***พิจิตรท่วมบ้าน-อุโบสถเก่าแก่
ส่วนที่จ.พิจิตร น้ำป่าจาก อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ไหลเข้าคลองห้วยน้ำโจน และทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน และวัดห้วยเขน ที่มีอุโบสถเก่าแก่อายุหลายร้อยปี ที่หลวงพ่อเงิน เกจิดังเคยจำพรรษาอยู่
***เตือนชัยนาท-สิงห์บุรี-อ่างทอง-อยุธยา
นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ชัยนาท กล่าวว่า เขื่อนเจ้าพระยาได้ระบายน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไปถึง จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอีก 10-15 ซม. ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงริมตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ในต.บางหลวงโดด อ.บางบาล และต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำล้นตลิ่งจึงควรเฝ้าระวัง และติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสถานการณ์ในลุ่มเจ้าพระยาพบว่า ปริมาณน้ำป่าจากภาคเหนือที่หลากท่วมพื้นที่ จ.สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และ จ.นครสวรรค์ ไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา ที่จุดวัดน้ำหน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ ในรอบ 24 ชั่วโมง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดวัดได้ 1,747 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท พิจารณาปรับเพิ่มการระบายน้ำมากขึ้นจาก 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
***คอหวยเซ็งเข้า"คำชะโนด"ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ระดับน้ำที่แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ “คำชะโนด” ขณะนี้ตกอยู่ในภาวะวิกฤต เนื่องจากระดับน้ำยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ จนจะกลายเป็นเมืองบาดาลไปแล้ว
นายวีรวัฒน์ วงษ์ศรีรักษา นายอำเภอบ้านดุง จ.อุดรธานี ได้ออกประกาศขอความร่วมมือให้ประชาชนงดเข้าสักการะปู่ศรีสุทโธ-ย่าศรีปทุมมา ในพื้นที่เกาะคำชะโนด หลังคำชะโนดประสบปัญหาอุทกภัยตั้งแต่วันนี้จนถึง 3 ส.ค.2560 แต่พื้นที่ลานบวงสรวงด้านนอก ยังคงสามารถเข้าบวงสรวงได้ตามปกติ หากมีการเปลี่ยนแปลงทางอำเภอจะประกาศแจ้งให้ทราบอีกครั้งต่อไป
***โคราชอ่วม10อำเภอจม
นายสุเทพ ริ่นถวิล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สรุปสถานการณ์พื้นที่น้ำท่วมไหลหลากจากฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุ “เซินกา” ตั้งแต่วันที่ 26-30 ก.ค.2560 มีรวมทั้งสิ้น 10 อำเภอ 47 ตำบล 413 หมู่บ้าน 9 ชุมชน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 24,833 ครัวเรือน ซึ่งอำเภอที่คลี่คลายแล้ว 6 อำเภอ คือ อำเภอชุมพวง, อำเภอสีดา, อำเภอบัวลาย, อำเภอแก้งสนามนาง, อำเภอบัวใหญ่ และอำเภอเทพารักษ์ และยังมีน้ำท่วมอีก 4 อำเภอ 21 ตำบล 250 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอประทาย , อำเภอโนนแดง , อำเภอเมืองยาง และ อำเภอด่านขุนทด
***"บิ๊กตู่"ลงพื้นที่ตรวจผลกระทบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 2 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเดินทางลงพื้นที่ จ.สกลนคร เพื่อตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วม และแจกถุงยังชีพ ก่อนจะเยี่ยมชมครัวพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเดินทางไปดูจุดติดตั้งสะพานแบร์รี่ย์ และตรวจการซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำห้วยทราย
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งครัวพระราชทาน โดยหน่วยพระราชทาน และประชาชนจิตอาสา "เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ" ซึ่งข้าราชบริพารจากพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ สำนักพระราชวัง ได้มาประกอบอาหารปรุงสดใหม่ เพื่อมอบแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในเขตเทศบาลนครสกลนคร วันละ 2,000 กล่อง ที่มารับในพื้นที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งได้เดินทางไปมอบอาหาร และน้ำดื่มพระราชทาน แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยยังบ้านเรือนที่ไม่สามารถเดินทางมารับ และไม่สามารถประกอบอาหารรับประทานเองได้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้แก่ราษฎร ซึ่งได้ดำเนินการแจกอาหารพระราชทานมาตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. เรื่อยมาสร้างความปลาบปลื้มเป็นล้นพ้นให้แก่พสกนิกรผู้ประสบภัย
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความห่วงใยเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วม พระองค์ท่านรับสั่งให้นำสิ่งของที่ประชาชนนำมาร่วมตักบาตรวันเฉลิมพระชนมพรรษา 65 พรรษา มาจัดสรรให้แก่ผู้ประสบภัยก่อน ส่วนมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ จะเป็นเช่นเดียวกันกับการช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ก่อนหน้านี้ แต่สิ่งที่จะต่างออกไป คือ จะตั้งศูนย์ปรุงอาหารสดในพื้นที่ประสบภัยทั้งใน จ.สกลนคร และพื้นที่อื่นที่ประสบภัย โดยสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) จะเป็นหน่วยงานหลักบูรณาการร่วมกับจังหวัดและจิตอาสา โดยใช้เงินจากกองทุนเดิม จำนวนเงิน 788 ล้านบาท และเงินบริจาคเพิ่มเติมกว่า 1 ล้านบาทในการดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยจะเน้นไม่ให้การช่วยเหลือซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น
***มีอีก12จังหวัดที่น้ำยังท่วม
ที่รัฐสภา นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดของประเทศไทยขณะนี้ว่า ภาพรวมมีพื้นที่น้ำท่วมใน 42 จังหวัด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 30 จังหวัด เหลือ 12 จังหวัดที่ยังมีน้ำท่วมค่อนข้างมาก โดยเฉพาะ จ.สกลนคร และจ.ร้อยเอ็ด ในส่วนของ จ.สกลนคร ขณะนี้ในตัวเมืองและพื้นผิวถนนน้ำลดแล้ว รวมถึงพื้นที่ในสนามบินที่น้ำแห้งแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบด้านความปลอดภัย คาดว่าอีกไม่นานจะกลับมาใช้การได้ ส่วนเส้นทางอื่นๆ ที่สะพานถูกตัดขาด เจ้าหน้าที่ได้ซ่อมแซมโดยนำสะพานเบลีย์ไปวาง เพื่อไม่ให้ประชาชนถูกตัดขาดจากการเดินทาง
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ปภ. ได้ให้ความสำคัญกับการแจ้งเตือนประชาชน โดยแจ้งเตือนก่อนวันที่ 23 ก.ค. โดยแจ้งเตือนต่อเนื่องถึง 5 ครั้ง และล่าสุดได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ เพราะเป็นพื้นที่ปลายทางของแม่น้ำชีที่จะบรรจบกับแม่น้ำมูลที่บริเวณ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และในส่วนของลุ่มน้ำป่าสักขอให้ประชาชนมั่นใจ เพราะหน่วยงานราชการได้พร่องน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ไว้แล้ว จึงยังสามารถรับน้ำได้มาก ขณะที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาก็ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
***นครพนมไม่รอดประกาศภัยพิบัติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดจังหวัดนครพนม ได้ออกมาประกาศให้พื้นที่ 5 อำเภอ คือ อ.นาแก, วังยาง, นาหว้า, ศรีสงคราม และเรณูนคร เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ (อุทกภัย) แล้ว และขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ รวมถึงเครื่องสูบน้ำตามจุดต่างๆ เพื่อเร่งระบายมวลน้ำที่ท่วมขังทั้งหมดออกไปสู่แม่น้ำโขง คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่ม สถานการณ์น้ำท่วมจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายใน 7 วัน
***ศรีสะเกษเสี่ยงอ่างเก็บน้ำล้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้อ่างเก็บน้ำจำนวน 13 แห่ง จากที่มีอยู่จำนวนทั้งหมด 16 แห่งของ จ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอ่างเก็บน้ำที่อยู่ติดกับเทือกเขาพนมดงรัก แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยติ๊กชู อ่างเก็บน้ำห้วยสำราญ อ่างเก็บน้ำห้วยศาลา และอ่างเก็บน้ำโอว์ตาลัด ปรากฏว่าน้ำได้ล้นสปิลเวย์ไหลทะลักลงมาตามลำห้วยและตามลำน้ำสาขา เอ่อล้นเข้าไปท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านในเขตหลายอำเภอจำนวนกว่า 20,000 ไร่ รวมทั้งถนนหลายสายถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย ส่วนบ้านเรือนของชาวบ้านยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ทางจังหวัดได้มีการแจ้งเตือนให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูงแล้ว เพื่อป้องกันน้ำท่วมฉับพลัน
***พิจิตรท่วมบ้าน-อุโบสถเก่าแก่
ส่วนที่จ.พิจิตร น้ำป่าจาก อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ไหลเข้าคลองห้วยน้ำโจน และทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน และวัดห้วยเขน ที่มีอุโบสถเก่าแก่อายุหลายร้อยปี ที่หลวงพ่อเงิน เกจิดังเคยจำพรรษาอยู่
***เตือนชัยนาท-สิงห์บุรี-อ่างทอง-อยุธยา
นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ชัยนาท กล่าวว่า เขื่อนเจ้าพระยาได้ระบายน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไปถึง จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอีก 10-15 ซม. ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงริมตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ในต.บางหลวงโดด อ.บางบาล และต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำล้นตลิ่งจึงควรเฝ้าระวัง และติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสถานการณ์ในลุ่มเจ้าพระยาพบว่า ปริมาณน้ำป่าจากภาคเหนือที่หลากท่วมพื้นที่ จ.สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และ จ.นครสวรรค์ ไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา ที่จุดวัดน้ำหน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ ในรอบ 24 ชั่วโมง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดวัดได้ 1,747 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท พิจารณาปรับเพิ่มการระบายน้ำมากขึ้นจาก 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
***คอหวยเซ็งเข้า"คำชะโนด"ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ระดับน้ำที่แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ “คำชะโนด” ขณะนี้ตกอยู่ในภาวะวิกฤต เนื่องจากระดับน้ำยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ จนจะกลายเป็นเมืองบาดาลไปแล้ว
นายวีรวัฒน์ วงษ์ศรีรักษา นายอำเภอบ้านดุง จ.อุดรธานี ได้ออกประกาศขอความร่วมมือให้ประชาชนงดเข้าสักการะปู่ศรีสุทโธ-ย่าศรีปทุมมา ในพื้นที่เกาะคำชะโนด หลังคำชะโนดประสบปัญหาอุทกภัยตั้งแต่วันนี้จนถึง 3 ส.ค.2560 แต่พื้นที่ลานบวงสรวงด้านนอก ยังคงสามารถเข้าบวงสรวงได้ตามปกติ หากมีการเปลี่ยนแปลงทางอำเภอจะประกาศแจ้งให้ทราบอีกครั้งต่อไป
***โคราชอ่วม10อำเภอจม
นายสุเทพ ริ่นถวิล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สรุปสถานการณ์พื้นที่น้ำท่วมไหลหลากจากฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุ “เซินกา” ตั้งแต่วันที่ 26-30 ก.ค.2560 มีรวมทั้งสิ้น 10 อำเภอ 47 ตำบล 413 หมู่บ้าน 9 ชุมชน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 24,833 ครัวเรือน ซึ่งอำเภอที่คลี่คลายแล้ว 6 อำเภอ คือ อำเภอชุมพวง, อำเภอสีดา, อำเภอบัวลาย, อำเภอแก้งสนามนาง, อำเภอบัวใหญ่ และอำเภอเทพารักษ์ และยังมีน้ำท่วมอีก 4 อำเภอ 21 ตำบล 250 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอประทาย , อำเภอโนนแดง , อำเภอเมืองยาง และ อำเภอด่านขุนทด
***"บิ๊กตู่"ลงพื้นที่ตรวจผลกระทบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 2 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเดินทางลงพื้นที่ จ.สกลนคร เพื่อตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วม และแจกถุงยังชีพ ก่อนจะเยี่ยมชมครัวพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเดินทางไปดูจุดติดตั้งสะพานแบร์รี่ย์ และตรวจการซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำห้วยทราย