xs
xsm
sm
md
lg

โพสต์รูปเหล้าเบียร์ปรับ-ติดคุก?

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ


วันก่อนพล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ 10 เดินแถลงข่าวร่วมกับนพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรณีเร่งรัดดำเนินคดีกับศิลปินดารา นักร้อง และเน็ตไอดอล ที่ถ่ายรูปโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แอบแฝง

การแถลงข่าววันนั้นพล.ต.อ.วิระชัย พูดด้วยว่า อยากฝากเตือนผู้ที่ถ่ายรูปในลักษณะที่มีการโชว์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ด้วย และมีการนำรูปไปลงในโซเชียลไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดาหรือศิลปินดารา ก็ถือว่ามีความผิดเหมือนกัน แต่หากรู้แล้วว่าทำผิดและดำเนินการแก้ไข หรือลบรูปดังกล่าวออกตั้งแต่ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะไม่สามารถดำเนินคดีได้ แต่หากว่ายังไม่ลบรูปหรือดำเนินการใดๆ ทางพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป และหากประชาชนคนใดพบเจอการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ทุกสถานีตำรวจ นอกจากนี้ผู้ที่แจ้งความดำเนินคดียังจะได้รับรางวัลนำจับเป็นเงิน 1 ใน 4 ของค่าปรับ สำหรับผู้กระทำความผิดครั้งแรกทางสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำการสั่งปรับไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท และถ้าถูกจับเป็นครั้งที่ 2 จะสั่งปรับไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท

คำพูดที่ทำให้คนแตกตื่นเมื่อได้ข่าวก็คือ “อยากฝากเตือนผู้ที่ถ่ายรูปในลักษณะที่มีการโชว์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ด้วย และมีการนำรูปไปลงในโซเชียลไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดาหรือศิลปินดารา ก็ถือว่ามีความผิดเหมือนกัน”

โดยการแถลงข่าวระบุด้วยว่า จะเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องดื่มและแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 32 ในฐานความผิดร่วมกันโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เมื่อปรากฏข่าวออกมาหลายคนรีบกลับไปลบรูปในโซเชียลของตัวเองที่มีขวดเหล้าและเบียร์ปรากฏอยู่ หลายคนก่นด่าว่า บ้าไปแล้ว มีการส่งคำเตือนกันผ่านไลน์แพร่สะพัดเป็นไฟลามทุ่งว่า การโพสต์รูปที่มีขวดเหล้าเบียร์ปรากฏอยู่มีโทษที่สูงปรับถึง 5 แสนบาท สูงกว่าคนเมาแล้วขับที่มีอันตรายมากกว่าด้วยซ้ำไป กระทั่งบางฝ่ายก็เอามาขย่มความเป็นเผด็จการของรัฐบาลปัจจุบันว่าชอบเอากฎหมายมาข่มขู่คน

ในโซเชียลมีเดียจึงมีคนประชดด้วยการเอาฉลากน้ำปลามาแปะที่ขวดเหล้า หรือไม่ก็เอาขวดนมมาวางบนโต๊ะถ่ายภาพ และโพสต์ประชดประชันลงโซเชียลมีเดียเต็มไปหมด

จนกระทั่งนพ.สุเทพ เพชรมาก รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ต้องออกมาแถลงข่าวสยบความตื่นตระหนกว่า ในกรณีที่ประชาชนทั่วไปโพสต์ภาพร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในโซเชียล แต่หากการกระทำดังกล่าวมิได้มีเจตนาเพื่อประโยชน์ในการค้าหรือส่งเสริมการตลาดก็ไม่มีความผิดตามมาตรา 32

แต่คนก็ยังกลัวแล้วไม่มั่นใจอยู่ดีว่า ยังไงที่ผิดหรือไม่ผิดแน่ ตำรวจคนบังคับใช้กฎหมายพูดราวกับว่าผิดทุกกรณี แต่หมอที่เป็นคนรักษาโรคบอกว่าดูที่เจตนา ซึ่งตามหลักกฎหมายคนที่พูดถูกก็คือหมอนั่นแหละ แต่ชาวบ้านก็ยังสับสนไปงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนฝูงจะถ่ายรูปลงเฟซบุ๊กก็กลัวกันไปหมด

เอาล่ะไปดูว่าเจตนาในทางกฎหมายคืออะไรและมาตรา 32 ของพ.ร.บ.เครื่องดื่มและแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เขียนไว้อย่างไร

มาตรา 32 วรรคแรกระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่ม โดยตรงหรือโดยอ้อม

เหตุผลในการออกกฎหมายฉบับนี้ระบุไว้ว่า การประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ ครอบครัว อุบัติเหตุ และอาชญากรรม ซึ่งมีผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ สมควรกำหนดมาตรการต่างๆ ในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยลดปัญหาและผลกระทบทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ ช่วยสร้างเสริมสุขภาพของประชาชน โดยให้ตระหนักถึงพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนช่วยป้องกันเด็กและเยาวชนมิให้เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้โดยง่าย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

จะเห็นว่า จะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายมาตรา 32 วรรคแรกนั้น มีการบรรยายองค์ประกอบที่จะเป็นความผิดไว้ด้วยว่า จะต้องเป็นการโฆษณาและมีการอวดอ้างสรรพคุณ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่ม โดยตรงหรือโดยอ้อมด้วย ซึ่งภาษากฎหมายเรียกว่า เจตนาพิเศษ

ในมาตรา 3 ระบุว่า “โฆษณา” หมายความว่า การกระทำไม่ว่าโดยวิธีใดๆ ให้ประชาชนเห็น ได้ยิน หรือทราบข้อความ เพื่อประโยชน์ในทางการค้า และให้หมายความรวมถึงการสื่อสารการตลาด

คนที่โพสต์รูปไม่ว่าคนทั่วไปหรือเป็นคนสาธารณะแล้วมีเหล้าเบียร์อยู่ในรูป แต่ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเป็นไปตามนิยามของโฆษณามาตรา 3 ก็ไม่เข้าข่ายความผิด

แล้วที่บอกว่าดูที่เจตนาคืออะไร มาตรา 59 ของกฎหมายอาญาระบุว่า บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนาเว้นแต่จะได้กระทำความโดยประมาท ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา

กระทำโดยเจตนา ได้แก่กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำ และในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น

แต่ในมาตรา 32 วรรคแรกระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่ม โดยตรงหรือโดยอ้อม คือมีเจตนาพิเศษ นั่นแสดงว่า ไม่ใช่ว่า โพสต์และมีขวดเหล้าเบียร์อยู่บนโต๊ะหรือในรูปเรากำลังยกแก้วดื่มเราผิดเลย ถ้าเราไม่ได้อวดอ้างสรรพคุณหรือชักชวนให้ผู้อื่นดื่มก็ไม่น่าจะเข้าข่ายความผิด

ทั้งนี้ผมไม่ได้หมายความถึงพวกดาราหรือศิลปินที่ใช้ความมีชื่อเสียงของตัวเองรับงานบริษัทเหล้าเบียร์มาโพสต์แอบแฝงเพื่อหวังผลในการโฆษณานะครับ เพราะถ้าอย่างนั้นก็เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 32 แน่ๆ

มุมมองที่ผมเข้าใจก็คือว่า ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดา ดาราหรือบุคคลสาธารณะ ถ้าไม่ได้มีเจตนาพิเศษตามที่กฎหมายระบุไว้ ก็ไม่น่าจะมีความผิด จะตีความว่า การโพสต์รูปที่มีขวดเหล้าเบียร์จะทำให้เด็กและเยาวชนเอาไปเป็นเยี่ยงอย่างก็ไม่น่าจะได้ เพราะเจตนาพิเศษจะนำเจตนาเล็งเห็นผลมาใช้ไม่ได้ ดังนั้นการจะเข้าข่ายความผิดต้องดูองค์ประกอบเป็นกรณีๆ ไปไม่ใช่ว่า ถ้าเป็นดาราศิลปินบุคคลสาธารณะแล้วโพสต์รูปมีเหล้าเบียร์จะต้องผิดแน่ๆ ทุกกรณีและคนทั่วไปก็เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ควรยึดหลักพุทธศาสนาที่ว่า สุราเมระยะ มัชชะ ประมาทัฏฐานา เวระ มณี สิกขาประทัง สมาธิ ยามิ นั่นคือ คือ เว้นจากการดื่มสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan
กำลังโหลดความคิดเห็น