xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ตรวจฯฟอกเรือดำน้ำจีน เมินส่งตีความคำร้องค้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติการันตีรัฐซื้อเรือดำน้ำจากจีน โปร่งใส ไม่ขัดรธน. จำเป็นกับประเทศ ตีตกคำร้อง"เรืองไกร" ไม่ส่งศาลรธน.วินิจฉัย กฎหมายป.ป.ช.ปี 42 และ 50

นายรักษ์เกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงผลการตรวจสอบโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ S-26Tระหว่างกองทัพเรือ กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามคำร้องของ นายศรีสุวรรณ จรรยา ว่า ไม่พบเหตุผิดปกติ หรือมีการกระทำที่ขัดรธน. จึงมีมติให้ยุติเรื่องดังกล่าว โดยจากการตรวจสอบพบว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำ ซึ่งมีการก่อหนี้ผูกพันวงเงิน 13,500 ล้านบาท ได้มีการขออนุมัติจากครม. ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 60 ใช้บังคับ เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 59 แล้ว โดยเสนอครม.พิจารณา ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.59 จึงถือว่าชอบด้วยวิธีการงบประมาณ ส่วนมติ ครม.วันที่ 18 เม.ย. 60 เป็นการรับทราบและเห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ก่อนดำเนินการเท่านั้น

อีกทั้งพบว่ากองทัพเรือได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการ บริหารโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ(กจด.) เพื่อศึกษาทั้งในระดับยุทธศาสตร์ ยุทธการ และยุทธวิธี เพื่อปกป้องรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ตั้งแต่ภาวะปกติจนถึงภาวะขัดแย้ง โดยที่โครงการจัดหาเรือดำน้ำ ได้มีการริเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2537 และมีการปรับปรุงโครงการ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานภาพของงบประมาณ ที่คาดว่าจะได้รับมาเป็นลำดับ และสอดคล้องกับนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า เรือดำน้ำเป็นยุทโธปกรณ์ที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ตามแนวความคิดการรักษาความมั่นคงทางทะเล รวมทั้งมีขีดความสามารถสูง และสามารถปฏิบัติภารกิจได้หลากหลาย ทั้งในภาวะปกติ และภาวะขัดแย้ง จึงเป็นยุทโธปกรณ์ที่มีความจำเป็นสำหรับกองทัพเรือในการปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล

อีกทั้งการดำเนินการจัดซื้อ ได้ดำเนินการภายใต้กรอบแผนยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ ตามที่ได้กำหนดไว้แล้ว จึงไม่เป็นการสร้างภาระแก่ประเทศชาติ โดยไม่จำเป็นหรือเกินสมควรแก่เหตุ

ดังนั้น การดำเนินการตามโครงการจัดหาเรือดำน้ำของกระทรวงกลาโหม โดยกองทัพเรือ และครม. จึงไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรธน. และกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งเรื่องให้ศาลรธน. วินิจฉัยว่า โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ถือเป็นหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อนหรือไม่นั้น กฤษฎีกามีความเห็นว่า ไม่มีลักษณะเป็นสัญญาตามรธน.ปี 60 มาตรา 178 เนื่องจากเป็นข้อตกลงจัดสร้างเรือดำน้ำ เป็นการทำสัญญาซื้อขายเชิงพาณิชย์ในทำนองเดียวกับการทำสัญญาระหว่างเอกชนกับเอกชน จึงไม่จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน อีกทั้งกรณีนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจของผู้ตรวจการฯ ที่จะดำเนินการได้ เนื่องจากเป็นอำนาจของครม. ที่จะพิจารณาว่า จะเสนอเรื่องให้ศาลรธน.วินิจฉัยหรือไม่

นอกจากนี้ผู้ตรวจการฯ ยังมีมติไม่ส่งศาลรธน. วินิจฉัยกรณี พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และ 2550 ขัดรธน. เพราะองค์ประชุมไม่ครบ ตามที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นคำร้อง เนื่องจากเป็นเรื่องของกระบวนการตรากฎหมาย ไม่เกี่ยวกับเนื้อหากฎหมายว่าชอบด้วยรธน. หรือไม่ จึงไม่อยู่ในอำนาจที่ผู้ตรวจการฯ จะดำเนินการได้
กำลังโหลดความคิดเห็น