ผู้จัดการรายวัน360-"ปลัดคลัง"เผยคณะกรรมการสืบทรัพย์กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ส่งรายละเอียดบัญชีเงินฝากธนาคารของ "ปู" จำนวน 12 บัญชี ให้กรมบังคับคดีตามยึดทรัพย์แล้ว ยันหากตรวจเจอเพิ่ม ก็จะส่งให้อีก ด้านกรมบังคับคดีพร้อมจัดให้ตามที่ขอ "บิ๊กตู่"ขู่ขนม็อบเชียร์ผิดกฎหมาย เอาผิดวันนี้ไม่ได้ วันหน้าก็โดน "ป้อม"ยันไม่มีสั่งทหารสกัด "เรืองไกร" ดิ้นพล่าน ส่งตีความกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญานักการเมืองขัดรัฐธรรมนูญ เจอ "วิษณุ"ตอกนิ่มๆ ไม่มีข้อสงสัย ไม่ยื่น "มาร์ค"ชี้อย่าใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย ปปท.สรุปคดีทุจริตข้าวมี 990 คดี อยู่พื้นที่เขต 6 ภาคเหนือตอนล่าง 8 จังหวัด 506 คดี เสียหายกว่า 9 หมื่นล้าน
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการสืบทรัพย์กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ได้ส่งรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากธนาคารของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวม 12 บัญชี ให้กับกรมบังคับคดีไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหลังจากนี้ จะสามารถยึดทรัพย์ในส่วนนี้ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เลยหรือไม่นั้น คงต้องเป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดีจะพิจารณา ซึ่งในส่วนของกระทรวงการคลังมีหน้าที่ในการสืบทรัพย์เพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ กระบวนการดังกล่าว มีอายุความทั้งหมด 10 ปี หากหน่วยงานอื่นๆ ที่คณะกรรมการสืบทรัพย์ได้มีการประสานขอข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้นำส่งข้อมูลมาให้แก่คณะกรรมการสืบทรัพย์ คณะกรรมการฯ ก็จะทยอยส่งข้อมูลให้กรมบังคับคดีต่อไป
น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า กรมฯ พร้อมที่จะดำเนินการตามที่กระทรวงการคลังแจ้งมา โดยการบังคับคดีมีอายุความ 10 ปี และหากระหว่างนี้กระทรวงการคลังตรวจสอบพบทรัพย์สินเพิ่มเติม ก็สามารถแจ้งมายังกรมฯ เพื่อให้อายัดได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครบ 1 ปี ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมทรัพย์สิน 612,379,231.93 บาท (เฉพาะในส่วนของผู้ยื่นและบุตร ไม่รวมของคู่สมรส) รวมหนี้สิน 33,070,803 บาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 579,308,428.93 บาท (ไม่รวมทรัพย์สินและหนี้สินของคู่สมรส) และได้ยื่นบัญชีเงินฝากจำนวน 16 บัญชี เป็นของผู้ยื่น 24,908,420.28 บาท คู่สมรส 5,847,160.87 บาท บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 138,381.66 บาท
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวว่าจะมีการนัดรวมตัวเพื่อให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ที่ศาลจะอ่านคำพิพากษาในคดีจำนำข้าว ว่า สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากไว้ คือ เรื่องของความมั่นคง เพราะมีหลายคนประกาศว่าจะออกมาร่วมตัวกันในวันนั้น วันนี้ ผมขอถามว่า ประชาชนทั้งประเทศรับได้หรือไม่ จะรักใครชอบใครก็รักไป แต่ไม่เห็นว่าจะต้องทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย ไม่เห็นว่าจะต้องทำให้กฎหมายเสียหาย เพราะกระบวนการยุติธรรมเขามีอยู่แล้ว ก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอน เพราะฉะนั้นใครที่ไปปลุกระดมมวลชนต่างๆ ให้เข้ามา ท่านต้องรู้ว่ามันผิดกฎหมายทุกตัว จะชุมนุมจะประกาศอะไรต่างๆ มันผิดกฎหมายทั้งหมด ถ้าวันนี้ยังไม่โดน วันข้างหน้าก็โดน เพราะกฎหมายก็เป็นกฎหมาย ไม่มีการยกเลิก
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า คสช. สั่งการให้ทหารไปทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ให้เดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันพิพากษาคดีจำนำข้าวว่า "ไม่มี"
เมื่อถามย้ำว่า รายงานข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ที่มันออกมาแล้วไม่มี ก็ตั้งเยอะ แต่เราต้องดูแลสถานการณ์โดยรวม
วันเดียวกันนี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้ยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย บทบัญญัติ มาตรา 13 พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542 ว่าขัด หรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากมีคำอภิปรายของ นายเกรียงไกร จึงจตุรพิธ ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2551 ระหว่างการพิจารณาแก้ไขกฎหมายดังกล่าว สรุปว่า ผู้พิพากษาเห็นว่า มาตรา 13 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 219 วรรคสี่ ที่กำหนดให้มีองค์คณะ 9 คน แต่ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ กลับจำกัดสิทธิ ของผู้พิพากษาอาวุโสให้มีอยู่ในองค์คณะได้ไม่เกิน 3 คน ซึ่งหากเป็นกฎหมายที่ขัดรัฐธรรมนูญ ก็เท่ากับว่า การพิจารณาคดีของศาลฎีกาฯ ตั้งแต่ปี 50 เป็นต้นมา เป็นการพิจารณาคดีที่มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญทั้งหมด รวมถึงคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ กรณีละเว้นปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่กำลังจะตัดสินในวันที่ 25 ส.ค.นี้ด้วย
นายเรืองไกร กล่าวว่า การที่ตนยื่นเรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ไม่ได้ต้องการที่จะยื้อคดีนี้ เพียงอยากให้ศาลฎีกาฯ พิจารณาข้อเท็จจริงที่ตนนำเสนอเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อการพิจารณาคดี หากผู้ตรวจการฯ ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่ากฎหมายดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ จะมีผลทำให้คดีที่ตัดสินไปก่อนหน้านี้ ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ คู่ความทั้งสองฝ่ายในคดีเหล่านั้น ย่อมได้ประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะเกิดขึ้นด้วย
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลไม่สงสัย จึงไม่ส่งตีความ รัฐบาลจะส่งก็ต่อเมื่อมีความสงสัย หากนายกฯ ไม่สงสัย ก็ไม่ส่ง และตนไม่ทราบว่าจนถึงขณะนี้พรรคเพื่อไทยมายื่นหรือยัง มันไม่ใช่ว่าใครส่งอะไรมาแล้วนายกฯ จะต้องส่งไปทั้งหมด เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดให้เอาความสงสัยของคนอื่นมาเป็นเหตุ แต่กำหนดให้เป็นความเห็นของนายกฯ เท่านั้น ดังนั้น การที่พรรคเพื่อไทยสงสัย ก็ตอบไม่ถูกว่านายกฯ จะพลอยสงสัยไปด้วยหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยใช้ช่องทางที่ระบุว่า ผู้ที่จะส่งยื่นตีความได้ มีเพียงนายกฯ และ สนช. ซึ่งการมายื่นให้รัฐบาล ถือว่าเป็นช่องทางที่ถูกต้องแล้ว ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวยอมรับว่า ช่องทางที่ยื่นนั้นถูกต้อง แต่ก็อย่างที่บอกว่า ถ้านายกฯ ไม่เห็นตาม ก็ไม่จำเป็นต้องยื่น
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ตนไม่สบายใจ เพราะสมาชิกพรรคเพื่อไทยบอกว่า ผู้พิพากษาไม่ได้มีแค่ 9 คน แต่ยังมี 10 ล้านคนที่จะพิพากษา ตรงนี้ถือเป็นการข่มขู่หรือไม่ว่ามีมวลชนจำนวนมากสนับสนุนอยู่ ฉะนั้นต้องขอร้องผู้สนับสนุนให้แสดงออกโดยวิธีที่เหมาะสม และอย่าแสดงอาการ จนอาจถูกตีความได้ว่า เป็นการกดดันศาล หรือใช้กฎหมู่ อยู่เหนือกฎหมาย
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 6 (ป.ป.ท.) จ.พิษณุโลก นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการ ป.ป.ท. ในฐานะเลขาธิการ ศอตช. พร้อมด้วย พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ท. พ.ต.อ.กษิดิศ เพิ่มพูนวิวัฒน์ ผอ.ป.ป.ท.เขต 6 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมสรุปคดีทุจริตการเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้า พื้นที่เขต 6
นายประยงค์ กล่าวว่า คดีทุจริตดังกล่าวมีทั่วประเทศ 990 คดี แต่อยู่ในพื้นที่เขต 6 รวม 8 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร 102 คดี นครสวรรค์ 201 คดี พิจิตร 60 คดี พิษณุโลก 56 คดี เพชรบรูณ์ 46 คดี สุโขทัย 12 คดี อุตรดิตถ์ 2 คดี อุทัยธานี 27 คดี รวม 506 คดีจำนวน 506 คดี ซึ่งมีปริมาณเยอะมาก มีมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 9 หมื่นกว่าล้านบาทจากแสนกว่าล้านบาท โดยพบทุจริตมากสุด คือ จ.นครสวรรค์ จ.กำแพงเพชร ซึ่งพฤติการณ์น่าเป็นห่วงและมีปัญหาเชิงระบบ หากเกิดปล่อยไว้จะเกิดความเสียหายในอนาคต จึงต้องมาทำการศึกษาอย่างถ่องแท้ เพราะว่าถ้าปล่อยไว้มันเป็นปัญหาในระยะยาว