“เฉลิมชัย” ผบ.ทบ.ยัน “พล.ท.มนัส คงแป้น” ถูกพิพากษาจำคุกคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ไม่กระทบภาพลักษณ์กองทัพบก รอชงเรื่องชงเรื่องปลด-ถอดยศตามขั้นตอน ออกตัวเรียน ตท.16 รุ่นเดียวกันแต่ไม่สนิท
วานนี้ (20 ก.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวกรณีที่ศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์พิพากษาจำคุก พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า เป็นไปตามขั้นตอนทางคดี กองทัพบกได้มีการสั่งพักราชการระหว่างคดีอยู่ในชั้นศาลไปแล้ว ส่วนต้นสังกัดจะเสนอปลด งดเบี้ยหวัดบำนาญ และขอคืนยศทหารหลังศาลพิพากษาคดีสิ้นสุดแล้วหรือไม่นั้น ต้องดูในรายละเอียด แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมาย เมื่อกำลังพลถูกตัดสินหรือพิพากษาก็จะมีขั้นตอนระบุไว้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่ากรณีนี้เป็นนายทหารยศพล.ท. และเป็นถึงอดีตผู้บังคับหน่วยถูกพิพากษาในคดีร้ายแรงจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของกองทัพบกหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า เชื่อว่าไม่กระทบกองทัพ เพราะต้องแยกแยะว่าเป็นเรื่องบุคคล ซึ่งนายพลในกองทัพมีหลายนาย ถ้าจะมีใครสักคนที่ทำความผิดและเข้าไปสู่กระบวนการยุติธรรมก็ต้องดำเนินการไปตามกรอบนั้น ไม่ใช่ภาพลักษณ์กองทัพ เพราะคนในกองทัพมีจำนวนมาก ไม่อยากให้ตีความในลักษณะนั้น แม้จะเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 16 แต่ก็ไม่ได้คุยกันหรือสนิทกัน อย่าไปมองว่าเป็นเรื่องเสียหายต่อภาพรวมกองทัพหรือเพราะเป็นเรื่องของเพื่อน ขอให้มองว่าเขาคือกำลังพลของกองทัพคนหนึ่ง เมื่อทำผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม.
วานนี้ (20 ก.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวกรณีที่ศาลอาญาแผนกคดีค้ามนุษย์พิพากษาจำคุก พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า เป็นไปตามขั้นตอนทางคดี กองทัพบกได้มีการสั่งพักราชการระหว่างคดีอยู่ในชั้นศาลไปแล้ว ส่วนต้นสังกัดจะเสนอปลด งดเบี้ยหวัดบำนาญ และขอคืนยศทหารหลังศาลพิพากษาคดีสิ้นสุดแล้วหรือไม่นั้น ต้องดูในรายละเอียด แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมาย เมื่อกำลังพลถูกตัดสินหรือพิพากษาก็จะมีขั้นตอนระบุไว้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่ากรณีนี้เป็นนายทหารยศพล.ท. และเป็นถึงอดีตผู้บังคับหน่วยถูกพิพากษาในคดีร้ายแรงจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของกองทัพบกหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า เชื่อว่าไม่กระทบกองทัพ เพราะต้องแยกแยะว่าเป็นเรื่องบุคคล ซึ่งนายพลในกองทัพมีหลายนาย ถ้าจะมีใครสักคนที่ทำความผิดและเข้าไปสู่กระบวนการยุติธรรมก็ต้องดำเนินการไปตามกรอบนั้น ไม่ใช่ภาพลักษณ์กองทัพ เพราะคนในกองทัพมีจำนวนมาก ไม่อยากให้ตีความในลักษณะนั้น แม้จะเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 16 แต่ก็ไม่ได้คุยกันหรือสนิทกัน อย่าไปมองว่าเป็นเรื่องเสียหายต่อภาพรวมกองทัพหรือเพราะเป็นเรื่องของเพื่อน ขอให้มองว่าเขาคือกำลังพลของกองทัพคนหนึ่ง เมื่อทำผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม.