xs
xsm
sm
md
lg

“เพ้อเจ้อ”วันนี้-“จริง”วันหน้า?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สอดแนมการเมือง”
“โดย ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

สถานการณ์การเมืองไทยเข้มข้นยิ่งขึ้น เมื่อ“นักการเมืองน้ำเน่า” เริ่มโผล่จากที่ลับออกมารบในที่แจ้งหน้าสลอนกันแล้ว..!

การเมืองไทยเคยเกิดเรื่องจริงอันโหดเหี้ยมในประวัติศาสตร์ ถึงขั้นเผาบ้านเผาเมือง เข่นฆ่าทหารและประชาชน จนบาดเจ็บล้มตายมากมาย

ด้วยสาเหตุมาจากกลุ่มทุนสามานย์“เหลี่ยม” และพลพรรคนักการเมืองน้ำเน่า กับกลุ่มนักเคลื่อนไหว“สู้แล้วรวย” ใช้ช่องโหว่ของ“ประชาธิปไตยจอมปลอม” ที่ใช้เงินซื้อเสียงและโกงเลือกตั้ง ผสานกับโครงการ“ประชานิยม”ผลาญและโกงเงินชาติ เข้ามา“ยึดอำนาจรัฐ”ไว้ในกำมือ เพื่อปล้นชาติปล้นประชาชนอย่างเป็นขบวนการ

การเมืองของทุนสามานย์ที่โลภไม่รู้จักพอ ได้ก่อเกิดค่านิยมผิดมหันต์ในสังคมไทย กับแนวคิดและการกระทำอันชั่วร้ายที่ว่า “..นักการเมืองจะโกงเช่นไรก็ไม่เป็นไร ขอแค่ให้“กรู”ได้ประโยชน์บ้างก็แล้วกัน..”!

นั่นทำให้ชาติไทยตกอยู่ในวิกฤติแห่ง“ความชั่วทางการเมือง” เต็มไปด้วยการคอร์รัปชั่นโกงชาติอย่างมโหฬาร ระบาดไปแทบทุกองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน มุ่งแสวงหาเงินทอง-อำนาจ-ทรัพย์สิน-ผลประโยชน์สารพัด จนไทยติดอันต้นๆของโลกในเรื่องการคอร์รัปชั่นไปเลย

เมื่อธรรมาธิปไตยทางการเมืองหดหาย ระบอบทุนสามานย์อันชั่วร้าย ที่เห็นแก่ตัว-เอาแต่ได้-โลภไม่รู้จักพอครอบงำสังคมไทย ความเอื้ออาทรก็แทบสูญสลายจนหมดสิ้น เพราะรัฐบาลที่ผ่านมาส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือรัฐประหาร ได้ปล่อยให้ระบบทุนสามานย์ขยายตัว โดยไม่ได้กำกับให้เกิดความยุติธรรมขึ้นในสังคมอย่างแท้จริง

จนความเหลื่อมล้ำทุกมิติในสังคมไทย ขยายตัวไปกับระบบ“มือใครยาวสาวได้สาวเอา” ปล่อยให้“ปลาใหญ่สวาปามปลาเล็ก”ได้อย่าเสรี จนทำให้คนรวย-รวยยิ่งขึ้นแบบไร้ขีดจำกัด! ในขณะที่ผู้มีรายได้น้อยและคนจน-ยากจนลงเรื่อยๆ! กับกติกา“การค้าเสรี” ที่“ไร้ความยุติธรรม”ต่อผู้ด้อยโอกาส หรือผู้ที่อ่อนแอกว่าในสังคม

ดังนั้น..จึงต้องรู้อย่างแจ้งชัดไว้ ณ ที่นี้ว่า เหตุการณ์ต่อสู้ทางการเมืองในชาติไทย ทั้งไม่รุนแรงแต่โกงเลือกตั้ง และรุนแรงจนเสียชีวิตเลือดเนื้อมากมายนั้น เกิดขึ้นเพราะเหตุผลหลักแค่เรื่องเดียวจริงๆ นั่นคือ สู้กันเพื่อ “ยึดอำนาจรัฐ”ไว้โกงชาติบ้านเมือง! มิได้“ยึดอำนาจรัฐ”ไปทำดีเพื่อชาติและประชาชน!

ทั้งนี้เพราะ “อำนาจรัฐ”เป็น“เครื่องมือถูกกฎหมาย” ในการบงการ“กลไกรัฐ” และการใช้“เงินงบประมาณรัฐ” เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ชาติ และประชาชนเข้าตัวและพวกพ้อง ด้วยการคอร์รัปชั่นโกงชาติและประชาชนไงล่ะครับ!

การแต่งตั้งโยกย้าย“กลไกรัฐ” จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง รัฐบาลที่ดีจะแต่งตั้งโยกย้ายให้คนดีในกลไกรัฐ ได้ทำงานเพื่อชาติและประชาชน ส่วนรัฐบาลชั่วเมื่อยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือ ก็จะแต่งตั้งโยกย้ายกลไกรัฐ แบบเล่นพรรคเล่นพวกโดยไร้ความเป็นธรรม เพื่อจะได้ใช้พวกพ้องเป็น“มือ-ตีน”ทำการชั่ว

สำหรับเทศกาลโยกย้ายแต่งตั้ง“กลไกรัฐ” ของรัฐบาล“นายกฯตู่” หลายกระทรวงผ่านพ้นไปแล้วแบบ“แฮปปี้เอนดิ้ง”ตามคาดหมาย เช่น การ“วิ่งผลัด”ของบรรดา“สิงห์”ริมคลองหลอด จบลงเรียบร้อยตรง“สิงห์ดำ-ฉัตรชัย พรหมเลิศ” ผู้มีผลงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เป็นที่ประทับใจ“บิ๊กป๊อก-พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา” ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทยโดยตรง

ทำให้“สิงห์ดำ-ฉัตรชัย”กระโจนจากตำแหน่งอธิบดี ขึ้นมาเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยแบบไร้คู่แข่ง ดังนั้น บรรดา“สิงห์ทอง-สิงห์แดง”ทั้งหลายในกระทรวง คงต้องตั้งวงร้องเพลง“รอ”ต่อไปตามกติกา

ส่วนตำแหน่งสำคัญๆในกระทรวงอื่นๆ ก็แต่งตั้งโยกย้ายแบบราบรื่นชนิด “ไม่มีอะไรในกอไผ่-นอกจากหน่อไม้”

สำหรับกระทรวงที่ยังแต่งตั้งโยกย้ายไม่เสร็จ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาให้“นายกฯตู่”และเจ้ากระทรวงต้องวุ่นวายใจ เพราะข้าราชการยุค“การปกครองในสถานการณ์ไม่ปกติ”นี้ “ใคร”ที่“ได้”ก็ยิ้มแป้น ส่วน“ใคร”ที่“เสีย”ก็ไม่กล้าหือ-ไม่กล้าอือ-ไม่กล้าออกมาเอะโวยวายแน่นอน

แต่.. การแต่งตั้งโยกย้ายที่โผล่ออกมา ชนิดไม่มีปี่-ขลุ่ย-แซกโซโฟน-คือ-ข่าวลือ! ข่าวลือจากบางสื่อเรื่องจะมีการปรับ ครม. ถึงขั้นมี“ผังโชว์โผ”ในบางตำแหน่ง ซึ่งไปข้องแวะกับ“สีกากี”และ“สีเขียว”บางคน

ข่าวลือมโนนี้ทะลึ่งให้ “บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” หลุดผลัวะจาก“ผบ.ตร.”ลอยข้ามห้วย ขึ้นไปเป็น“รัฐมนตรี”โน่นเลย โผนี้ยังดันก้น“บิ๊กปู-พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล” จาก“รองผบ.ตร.”ขึ้นเป็น“ผบ.ตร.”หน้าตาเฉย

เฮ้อ..“ผังโผมโน”ที่ไม่สมเหตุสมผลนี้ คงตั้งใจเชียร์“บิ๊กปู”-ดีด“บิ๊กแป๊ะ” แต่โผนี้ต้อง“ตกม้าตาย”คา “สตช.” ตั้งแต่เริ่มใช้สมองกลวงๆ คิดแล้ว เนื่องจากไม่ดู“ตาม้าตาเรือ” ไม่ดูจังหวะจะโคนทางการเมือง งานนี้..แทนที่“บิ๊กปู”จะ“ได้”กลับ“เสีย”ซะฉิบ!

คดีฆ่าโหด 8 ศพ ฝีมือนายซูริก์ฟัตหรือบังฟัต ที่สะเทือนใจคนไทยทั้งชาติ จน”บิ๊กแป๊ะ”ต้องขนตำรวจมือดีขั้นพระกาฬ เดินทางลงไปด้วยตัวเอง ปักหลักคลี่คลายคดีนี้ถึงที่เกิดเหตุ ในดินแดน“ปักษ์ใต้บ้านเรา” จนจับ“กลุ่มฆาตกรโหด”ทั้งขบวนได้ชนิด“หนังม้วนเดียวจบ” ด้วยเวลาเพียงแค่ 5-6 วัน เรียกเสียงชื่นชมจนดังกระหึ่มไปทั่วทั้งพารา ทำให้“นายกฯตู่”และ“บิ๊กแป๊ะ”ได้คะแนนนิยมเพิ่มอีกพะเรอ

แถมทำเอา“บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ผู้กำกับดูแล“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ต้องออกมาชมเชยผลงานในครั้งนี้ของ“บิ๊กแป๊ะ” อันเป็นการสยบข่าวลือการโยก“บิ๊กแป๊ะ”ข้ามห้วยลงทันที “เก้าอี้-ผบ.ตร.”ของ“บิ๊กแป๊ะ” คงยังไม่มีใครกล้าโผล่หน้ามาเลื่อยขาแบบสุ่มสี่สุ่มห้าในห้วงนี้แน่นอน

“คำถาม” คือ ใครหว่า? เป็น“ป๋าดัน” ที่อยากให้“บิ๊กปู”เป็นผบ.ตร. แล้วเป็นผบ.ตร.เพื่ออะไร?

“คำตอบ” คือ “ป๋าดัน” มีหลายคน บ้างเป็น“ขาโจ๋” บางคนเป็น“ดอง”กับ“บิ๊กปู” “ป๋าดัน”ทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นนักการเมือง ที่หนุนให้“คณะรัฐประหาร”ยังคงยึดอำนาจรัฐ เพื่อทำการปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน เดินหน้าแก้ไขต้นเหตุปัญหาของชาติต่อไปนั่นแหละ

เพราะ “ผบ.ตร.”มีกองกำลังตำรวจหลายแสนคนอยู่ในมือ และกระจายอยู่ทั่วทุกหัวระแหงในประเทศ ดังนั้น นักการเมืองทั้งหลายจึงคิดจะใช้“องค์กรตำรวจ” สกัดและจับการซื้อเสียงของคู่แข่งทางการเมือง และ“เอาหูไปนา เอาตาไปไร่”ให้กับฝ่ายหนุนทหาร..แม่นบ่?

งานนี้..ฝ่ายการเมืองหนุนทหารทั้งหลาย จึงอยากได้ ผบ.ตร.ที่ตนสนิทสนมและสั่งได้ไงล่ะ แต่เหลือเชื่อที่ “ผบ.ตร.แป๊ะ”กับ“นายกฯตู่” ดันเป็น“จรเข้ขวางคลอง” ไปซะนี่!!

สุดท้าย..ประเด็นที่เล่นเอา“นายกฯตู่” ต้องออกมาซัด“ผังโชว์โผ”ว่า“เพ้อเจ้อ” เพราะมโนว่า จะมีการโยก“บิ๊กป้อม”จากคุมกลาโหม ข้ามห้วยหล่นตุ๊บลง“คลอง” คุม“มหาดไทย”แทน“บิ๊กป๊อก”เสียดื้อๆ!

แต่เรื่อง“โผ”ย้าย“บิ๊กป้อม”ออกจากการคุมทหารนั้น มิใช่เรื่องโผล่ออกมาแบบจินตนาการเกินจริงนะ เพราะ“ผู้ใหญ่”ในบ้านเมือง และ“ขุนทหาร”ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งห่วงใยในความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แลเห็นผลงาน“บิ๊กป้อม”คุมตำรวจแล้ว-เละเทะ จากข่าวลือระเบิดเทิดเถิงมีการ“ซื้อขาย”ตำแหน่งกันอุตลุดไปหมด

ดังนั้น ทหารกับความมั่นคงของชาติ ซึ่งถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ถ้า“บิ๊กป้อม”ทำดี ก็อยู่ต่อได้-ได้อยู่ต่อแน่นอน แต่..“ผู้ใหญ่”และ“ขุนทหาร”ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ก็มีสิทธิ์จะกลัวว่า “บิ๊กป้อม”จะทำให้ “กองทัพไทยที่แข็งแกร่ง”อาจเละเทะอ่อนแอลง เหมือนดัง“องค์กรตำรวจ”ที่กำลังโดนปฏิรูปอยู่...

“เพ้อเจ้อ” จากปาก “บิ๊กตู่” วันนี้! อาจไม่“เพ้อเจ้อ”ในวันหน้า! เหตุการณ์“เลือดสุพรรณ-มาด้วยกัน-ไปด้วยกัน”อาจเกิดขึ้นก็ได้..จริงไหม?

ฤางานนี้ “บิ๊กตู่” จะเถียงคอเป็นเอ็นว่า “ไม่มีวันเกิดขึ้นโว้ย!”..???


กำลังโหลดความคิดเห็น