xs
xsm
sm
md
lg

เปิดโฉม8ผู้ต้องหาแก๊ง‘บังฟัต’-จ่อหมายจับคดีฆ่ายกครัววันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - เปิดเผย 8 รายชื่อและโฉมหน้าแก๊งโหดฆ่า 8 ศพ ตำรวจรวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับวันนี้ (19 ก.ค.) ด้าน “บิ๊กแป๊ะ” เตรียมลงพื้นที่รับตัวจากค่ายทหาร ร.15 พัน 1 เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย “บังฟัต” รับสารภาพไม่คิดฆ่ายกครัวแต่แรก แต่เหยื่อจำได้ทั้งๆ ที่สวมหมวกไอ้โม่ง จึงตัดสินใจลงมือสังหารหมู่ “บิ๊กตู่” ชมตำรวจปิดคดีฆ่ายกครัวเร็ว ย้อนถามทำไมไม่มีใครขอโทษทหาร

จากกรณีคนร้ายบุกสังหารโหดฆ่ายกครัว 8 ศพ ครอบครัวของนายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และต่อมาทีมสืบสวนคลี่คลายคดีนำโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) สามารถสืบสวนจับกุม นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือ ‘บังฟัต’ อายุ 41 ปี พร้อมทีมสังหารนั้น

วานนี้ (18 ก.ค.) พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวน เปิดเผยว่า ขณะนี้การรวบรวบพยานหลักฐานมีความคืบหน้าเกิน 80% แล้ว ทำให้มั่นใจในวันนี้ (19 ก.ค.) จะสามารถขออำนาจศาลจังหวัดกระบี่ ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด โดยได้กำชับให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปตรวจค้นสถานที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำของผู้ต้องสงสัยทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อให้พยานหลักฐานครอบคลุมและครบถ้วนที่สุด พร้อมขยายผลว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยจากการสืบสวนสอบสวนขณะนี้พยานหลักฐานยังไม่ปรากฏว่าเกี่ยวข้องกับนักการเมืองท้องถิ่น แต่ยืนยันว่าหากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดก็จะมีการดำเนินคดีอย่างแน่นอน

*** เปิดหน้าทีมฆ่า 8 ศพ

รายงานข่าวแจ้งว่า รายชื่อผู้ร่วมก่อเหตุทั้ง 8 คน ประกอบด้วย 1.นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์กุล หรือ “บังฟัต” 2.นางสาวชลิตา สังขโชติ 3.นายประจักษ์ บุญทอย 4.นายคมสรรค์ เวียงนนท์ 5.นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ 6.นายธวัฒชัย บุญคง 7.นายอรุณ ทองคำ และ 8.นายธนชัย จำนอง โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 8 คน ถูกควบคุมตัวไว้ในค่ายทหาร ร.15 พัน 1 อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โดยมี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา สบ 10 นำเจ้าหน้าที่สอบสวนผู้ต้องหาอย่างละเอียด

รายงานเพิ่มเติมแจ้งว่า ในวันที่ 20 ก.ค. พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะเดินทางมาที่จังหวัดกระบี่อีกครั้งเพื่อรับมอบตัว 8 ผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป โดยข้อหาประกอบด้วย 1.ร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2.ร่วมกันพยายามฆ่า 3.ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน 4.ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยทำร้ายจิตใจผู้อื่น 5.ร่วมกันพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในทางสาธารณะ 6.มีสิ่งเทียมอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต 7.แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร

จากการสอบปากคำ นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือ “บังฟัต” อายุ 41 ปี ให้การสารภาพกับตำรวจว่า ในวันที่เกิดเหตุได้นำพรรคพวกซึ่งเคยจ้างทวงหนี้เป็นประจำเดินทางมาที่บ้านของ นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ โดยวางแผนว่าจะอุ้มตัว นายวรยุทธไปเจรจาเพื่อเคลียร์ปัญหาเรื่องที่ดินที่ยังเป็นปัญหากันอยู่เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเองไม่สามารถที่จะเดินทางเข้าพื้นที่เพื่อมาทวงเงิน ลูกหนี้ในพื้นที่อำเภออ่าวลึกได้เนื่องจากเป็นพื้นที่อิทธิพลของนายวรยุทธ

“บังฟัต” ให้การต่อว่า ก่อนหน้านี้เคยนำลูกน้องมาดักอุ้ม นายวรยุทธ โดยให้ น.ส.ชลิตา สังขโชติ แฟนสาว เป็นนกต่อนัดหมาย นายวรยุทธ ออกมาคุยเพื่อที่จะดักอุ้มไปเจรจาแต่ไม่สบโอกาส เพราะนายวรยุทธ ระมัดระวังตัวเป็นอย่างมากจึงไม่สามารถลงมือได้ ต่อมาในวันเกิดเหตุตนได้เข้าไปในบ้านเพื่อดักรอนายวรยุทธ แต่ผิดพลาดเรื่องเวลาจนมีคนอื่นเข้ามาภายในบ้านด้วย โดยตอนแรกไม่ได้คิดจะฆ่าทุกคน กระทั่ง นายวรยุทธ เดินทางกลับเข้ามาภายในบ้านและมีการเจรจากัน โดยมีเจตนาที่จะให้ นายวรยุทธ ยืมเงินจากเพื่อนมาจ่ายค่าที่ดิน และบังคับให้ นายวรายุทธ เซ็นโอนลอยรถยนต์โตโยต้า ยาริส ให้ นอกจากนี้ยังเอาบัตรเอทีเอ็มของ นายวรยุทธ พร้อมรหัสไปด้วย

“ระหว่างที่เจรจากัน นายวรยุทธ จำได้ว่าผมคือใครทั้งๆ ที่สวมหมวกไหมพรมอยู่ จึงพยายามที่จะต่อสู้และไม่ยอมเอาเงินให้ แถมยังขู่ซ้ำว่าหากเขารอดชีวิตจะตามไปฆ่าผม ผมจึงตัดสินใจยิงนายวรยุทธและคนในบ้านทั้งหมดเพื่อหลบหนีความผิดกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว” นายซูริก์ฟัตกล่าว

*** “บิ๊กตู่” ย้อนถามทำไมไม่มีใครขอโทษทหาร

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ขอชื่นชมตำรวจ ทุกหน่วยงานและทุกคนที่สามารถจับกุมคนร้ายคดีฆ่ายกครัวที่ จ.กระบี่ เพราะคดีดังกล่าวมีผลกระทบต่อสังคมสูง เนื่องจากมีคนบาดเจ็บและสูญเสียจำนวนมากซึ่งไม่มีใครรับได้ จะเห็นว่านี่คือสิ่งดีๆ ที่ตำรวจทำ แต่ไม่มีใครพูดถึง ไม่ชมเชยเขา แล้วก็ไปตีจุดบอด ซึ่งเราก็ต้องแก้ไขก็จะสามารถทำให้สังคมอยู่ร่วมกันและนำไปสู่การปฏิรูปได้ ไม่ใช่จับผิดกันทุกเรื่อง แล้วบอกว่ามีแต่สิ่งเลวร้าย แต่สิ่งดีๆไม่พูด สังคมต้องช่วยกันชื่นชม ตำรวจจะได้มีกำลังใจ คนดีจะได้ทำงาน

“อย่าไปพูดแต่แรก มีใครจะขอโทษผมไหม จะขอโทษทหารเขาไหม สีเขียวน่าจะเป็นข้าราชการ มีไหมใครจะมาขอโทษบ้าง สื่อมวลชนไม่เห็นจะมีเลย แล้วตอนแรกบอกว่าเป็นข้าราชการทหาร ตำรวจ คนมีสี แล้วมีสักสีไหม ผมถึงบอกว่า ต้องเช็กก่อน ไม่ใช่เขาใส่เสื้อมา ผมก็นั่งนึกอยู่ว่าใครที่แต่งชุดทหารแล้วไปฆ่าคน ผมว่าไอ้นี่มันโง่นะ มันสมควรแล้ว อันนี้ถือเป็นตัวอย่างหนึ่ง จะใช่ ไม่ใช่ ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่กล่าวอ้างว่าทหารมีแบบนี้ด้วยหรือเปล่า ที่ไปอ้างกันอยู่ข้างล่างว่า ทหารทำแบบโน้นแบบนี้ มันแค่เรียกผู้หมวด ผู้กอง แค่นี้หรือ มันใช่หรือ ก็ดูบัตรประชาชนมันหรือเปล่าล่ะ ถ้ามันอ้างแบบนั้น ข้างล่างไหนขอดูบัตรประชาชนสิ ก็จะโง่ให้เขาหลอกอยู่ทำไม ถ้าใช่ตัวจริง ผมก็จะลงโทษไม่เอาไว้หรอก แต่ถ้ามาพูดแบบนี้ ก็จะเสียหายกันทั้งระบบ ต่างประเทศเขาก็ดูทหารตำรวจก็เละไปหมด การเมืองก็เละ ตำรวจทหารก็เละ และไทยจะอยู่ตรงไหน ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน และผมจะทำไหวไหมเนี่ย การเมืองก็วุ่นวายไปหมด” นายกรัฐมนตรี กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น