กระเป๋าลับตระกูลคิม

ช่วงนี้เกาหลีเหนือและท่านผู้นำสูงสุดยังเป็นข่าวในกระแสดังต่อเนื่อง นับตั้งแต่ความสำเร็จในการทดลองขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ ทำให้ชาวโลกและเพื่อนบ้านรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่นก็ถูกคาดว่าจะเป็นเป้าหมายแรกของการโจมตีโดยกองทัพเกาหลีเหนือ

เกาหลีเหนือ โดยเฉพาะผู้นำคิมแว้นขาโจ๋จอมซ่าเป็นหมูเขี้ยวตันไม่กลัวน้ำร้อน สหรัฐฯ แสดงพลังข่มขู่ด้วยอาวุธทันสมัย ซ้อมรบร่วมกับกองทัพเกาหลีใต้ เอากองเรือไปเพ่นพ่านอยู่ในคาบสมุทรเกาหลี แต่ไม่ทำให้เกาหลีเหนือหวั่นไหว ยังคงขยันซ้อมยิงจรวด

ผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และตัวแทนพยายามขู่หลายรอบว่าอาจลงมือเล่นงานเกาหลีเหนือถ้ายังซ่าไม่เลิก แต่ก็ไม่ทำให้เกิดอาการหวาดกลัว กลับเร่งพัฒนาอาวุธจรวด

ยิ่งผู้นำเกาหลีเหนือทำตัวเหมือนมองทรัมป์แบบไร้ราคาไม่กล้า ก็ยิ่งทำให้คนเกาหลีใต้และคนญี่ปุ่นผวาหนักทุกครั้งเมื่อเห็นการทดลองยิงขีปนาวุธ ล้มเหลวบ้าง สำเร็จบ้าง ช่วงซ้อมยิงแล้วแม่นยำ ไม่เป็นไร กลัวไม่แม่นแล้วพลาดไปลงกลางเมือง คงตายเป็นเบือ

ใครเห็นทรงผมของผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน แล้วต้องยอมยกนิ้วโป้งให้ว่าเป็นผู้กล้าเกินคนธรรมดาจริงๆ ออกแบบทรงพิเศษ ไม่เหมือนใคร เดินมาเห็นแต่ไกล เห็นหน้าไม่ชัดก็รู้ว่าเป็นใคร เพียงแค่เห็นทรงผม ไม่เห็นใบหน้าก็บอกได้ว่าเป็นใคร ไม่ผิดฝาผิดตัวแน่

ทรงผมแบบนี้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์เฉพาะตัว ทรงไถสูงเหนือใบหู ด้านบนเหมือนเป็นความชะโงกของภูผา ใครจะกล้าไว้ทรงผมแบบนี้ เว้นแต่พวกตัวตลกต้องการเลียนแบบหาเงิน และไม่มีใครบอกได้ว่าทรงผมของคิมเดอะแว้นขาโจ๋ ใครเป็นผู้ออกแบบให้อย่างนี้

ถือว่าไม่ธรรมดา ถ้าคิมเดอะแว้นขาโจ๋ห้าวยืนอยู่หน้ากระจกเงา มองหน้าตัวเองแล้วชื่นชมทรงผมว่าช่างรับกับรูปหน้าตัวเองได้ดี ก็ต้องถือว่ามีความเด็ดเดี่ยวเหนือคนธรรมดาไม่อย่างนั้นจะมีความเหี้ยมอำมหิตถึงขั้นจับชายผู้เป็นอาโยนให้หมารุมแทะทั้งเป็นๆ หรือ

หรือข่าวเรื่องการประหารชีวิตนายพลทหารเพราะนั่งสัปหงกงีบในงานสำคัญ!

คิมขาโจ๋ห้าวอายุเพียง 33 ปี ได้เข้ารับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ประเทศคอมมิวนิสต์มา 5 ปีแล้ว และได้เป็นข่าวดังทั่วโลกโดยพฤติกรรมกร่างกร้าวไม่เกรงหน้าไหนสร้างปัญหาให้สหรัฐฯ และยุโรปต่อเนื่องเพราะความอยากเป็นมหาอำนาจอาวุธนิวเคลียร์

ล่าสุด คิม ได้ยกระดับศักยภาพของเกาหลีเหนือว่ามีขีดความสามารถผลิตขีปนาวุธข้ามทวีปได้สำเร็จ โจมตีได้ถึงสหรัฐฯ จึงอยู่ในสภาวะที่ไม่ต้องหวั่นว่าใครจะรังแกได้ง่ายๆ หนุ่มวัยสามสิบต้นๆ ได้ทำให้ผู้นำมหาอำนาจอื่นๆ ต้องตัวเกร็ง แต่จะทำอะไรยังไม่ถนัดเพราะคิมถือว่าเป็นคนกล้าได้กล้าเสียกล้าแลก และไม่มีใครกล้าเสี่ยงด้วย!

แม้เกาหลีเหนือจะโดนประชาคมโลกคว่ำบาตร ไม่ยอมติดต่อทำการค้าธุรกรรมต่างๆ ได้ คิมก็ยังไม่สิ้นไร้ไม้ตอกเพราะยังมีจีนเป็นผู้สนับสนุนหลักทุกด้าน โดยเฉพาะเป็นคู่ค้าสำคัญ และยิ่งเศรษฐกิจจีนยังแข็งแกร่งทำให้รับซื้อสินค้าเกาหลีได้มากขึ้นทุกปี

ความพิสดารของการหารายได้เป็นเงินตราต่างประเทศของเกาหลีเหนือนั้นมีจำกัด แต่ใช่ว่าจะเป็นทางตันทั้งหมด เงินสกุลต่างประเทศเช่นดอลลาร์สหรัฐนี่แหละเป็นทุนสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ต่อเนื่อง แม้คนไม่มีจะกินก็ตาม

แหล่งสำคัญแห่งหนึ่งในการหารายได้เป็นเงินตราต่างประเทศคือร้านขายสินค้าแบรนด์เนม โรงแรม ร้านอาหารที่มีแขกเป็นชาวต่างชาติ แม้จะไม่มาก แต่ก็เป็นแหล่งทำเงิน เพราะการคว่ำบาตรทำให้สินค้าต่างประเทศมียี่ห้อเข้าไปในเกาหลีเหนือลำบากมาก

ต้องใช้ช่องทางพิเศษ เช่นการจัดซื้อโดยสถานทูตเกาหลีเหนือในประเทศอื่นๆ แล้วส่งเข้าไปในประเทศ ร้านค้าแบรนด์เนมรับเงินตราต่างประเทศเท่านั้น นอกจากขายให้ชาวต่างประเทศแล้ว คนเกาหลีเหนือที่มีฐานะดีก็มีสิทธิซื้อได้เช่นกัน แต่ต้องใช้เงินต่างประเทศ

รายได้จากการขายสินค้าหรูไปอยู่ที่ไหน? สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่าหน่วยสืบข่าวกรองต่างประเทศ อย่างเช่นสหรัฐฯ ระบุว่าเกาหลีเหนือมี “สำนักงาน 39” ซึ่งเป็นแหล่งรวมการรับรายได้เป็นเงินตราต่างประเทศจากการขายสินค้า เป็นสำนักงานพิเศษเฉพาะกิจ

คงจะเหมือนสำนักงานซึ่งอยู่นอกระบบงบประมาณของประเทศ อะไรทำนองนั้น เงินจากสำนักงาน 39 ส่วนหนึ่งจะไปเป็นงบในการสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยเพื่อเสริมแสนยานุภาพ และยังเป็นงบสำหรับคณะผู้นำระดับสูง โดยเฉพาะคิมแว้นขาโจ๋นั่นแหละภารกิจหลักของ “สำนักงาน 39” คือควบคุมเครือข่ายห้างสรรพสินค้า สำนักงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โรงแรมหรูซึ่งเป็นตัวทำเงินตราต่างประเทศให้รัฐบาลและผู้นำ

เงินตราต่างประเทศเป็นของหายาก สินค้าส่งออกไปยังจีนก็ไม่แน่ใจว่าจีนจ่ายเป็นเงินหยวนหรือเงินสกุลไหน เกาหลีเหนือไม่อยู่ในสภาวะที่ต่อรองกับใครได้ เพราะตลาดแคบ นอกจากนั้นสหรัฐฯ ยังให้สหประชาชาติเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรทำให้ลำบากกว่าเดิม

ไม่มีใครรู้ชัดว่าบรรดาร้านค้าสินค้าหรูสร้างรายได้ให้มากน้อยเท่าไหร่ แต่ถ้านำรายได้จากหลายแหล่งมารวมกัน ก็น่าจะได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ก็คาดว่าแต่ละปีร้านค้าเหล่านี้ทำเงินได้หลายร้อยล้านดอลลาร์ แต่ “สำนักงาน 39” ขยายใหญ่โตขึ้นทุกปี

นั่นหมายความว่าสำนักงานนี้เป็นตัวทำเงินหลัก และยังมีบริษัทหน้าฉากจัดการเรื่องรายได้ มีทั้งธนาคาร ร้านค้าทอง สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ถือว่าเป็นกิจการเฟื่องฟูนับตั้งแต่ก่อตั้งโดยคิม อิลซุง ปู่ของคิมแว้น ดูแล้วเหมือนเป็นกงสีของครอบครัวมากกว่า

มีกลุ่มผู้ที่หลบหนีออกจากเกาหลีเหนือได้สำเร็จแล้วมาตั้งหน่วยงานติดตามความเคลื่อนไหวของรัฐบาลคิม ใช้ชื่อว่า “เอ็นเคโปร” บอกว่า “สำนักงาน 39” ไม่ขึ้นต่อคณะรัฐมนตรี ไม่ขึ้นต่อการควบคุมโดยรัฐ เท่ากับว่าเป็นตัวทำเงินให้ตระกูลคิมนั่นเอง

ใครว่าอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ไม่มีการโกงกิน ตระกูลคิมไม่เบาแน่ๆ!